xs
xsm
sm
md
lg

“ไชยวัฒน์”รุดฟ้องศาลปกครอง จี้นายกฯใช้กม.หยุด“นช.แม้ว-หางแดง”ป่วนชาติล้มสถาบัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และแกนนำสมัชชาประชาชนฯ แถลงข่าว คดีฟ้องศาลปกครอง ให้นายกฯมาร์ค ออกมาตรการกม.หยุดยั้ง “นช.แม้ว” และม็อบหางแดงยุติทำลายชาติและสถาบันกษัตริย์ วันนี้ (8 เม.ย.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ไชยวัฒน์” นำทีมสมัชชาปชช.ฟ้อง“นายกฯมาร์ค” ต่อศาลปกครองกลาง ฐานละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เผยร้องศาลให้นายกฯออกมาตรการตามกม.หยุดยั้งการ เผยแพร่ภาพเสียง“นช.แม้ว”ปลุกระดมป่วนทำลายชาติหวังล้มล้างการปกครองระบอบปชต.อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและก้าวล่วงสถาบันกษัตริย์ พร้อมให้แกนนำม็อบเสื้อแดงยุติการชุมนุมทันที ชี้ล่าสุดส่งศาลรธน.ตีความ จี้เร่งวินิจฉัยก่อนเหตุการณ์บานปลายเกินแก้ไขเยียวยา

ช่วงบ่ายวันนี้ (8 เม.ย.) ที่ทำการสหภาพรถไฟแห่งประเทศไทย สาขา นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด และคณะ ได้ร่วมกันแถลงข่าวเรียกร้องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เร่งวินิจฉัยกรณีที่ศาลปกครองกลางส่งให้ตีความคดี ที่สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ได้ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.กอ.รมน. ต่อศาลปกครองกลาง เกี่ยวกับการละเว้นไม่บังคับใช้กฎหมายกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กระทำการหวังล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ช่วงบ่ายวานนี้ ( 7 เม.ย ) ตนเองพร้อม นายพูลศักดิ์ อยู่ประเสริฐ ทนายความได้เดินทางเข้ายื่นฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการความมั่นคงภายใน (ผอ.กอ.รมน.) ต่อศาลปกครองกลาง กรุงเทพฯ ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ที่กำหนดไว้ ตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551

กล่าวคือไม่ดำเนินการใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างใดๆ เพื่อมิให้มีการเผยแพร่ภาพและเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน ซึ่งกล่าวถ้อยคำที่มีลักษณะก้าวล่วงให้องคมนตรีพ้นไปจากตำแหน่ง ทั้งที่ทราบว่า เป็นผู้ที่มีหน้าที่ถวายความเห็นต่อพระมหากษัตริย์ในพระราชกรณีกิจทั้งปวง ซึ่งการจะเลือก แต่งตั้ง หรือให้พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวก็แต่โดยตามพระราชอัธยาศัย อันเป็นการไม่เคารพต่อธรรมเนียมประเพณีในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหาษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ได้ปฏิบัติสืบทอดกันมา หมิ่นเหม่และเข้าข่ายเป็นการละเมิดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 8 อีกทั้งกิจกรรมดังกล่าวกระทบความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความมั่นคงของรัฐ เพราะมีการเผยแพร่ภาพและเสียงไปทั่วทั้งประเทศตลอดเวลา

รวมทั้งไม่ใช้อำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในฯ ระงับยับยั้ง พฤติกรรมหรือการกระทำที่มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความมั่นคงของรัฐ โดยเฉพาะเนื้อหาข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้นำชุมนุมได้พัฒนาถึงระดับทำลายความน่าเชื่อถือขององคมนตรี โดยพยายามทำให้ผู้ชุมนุมเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า องคมนตรีซึ่งมีหน้าที่ถวายความเห็นต่อพระมหากษัตริย์ ในพระราชกรณียกิจทั้งปวง นั้น เป็นอุปสรรคต่อการปกครองประเทศ

จึงเท่ากับว่ากลุ่มผู้นำการชุมนุมได้กระทำการหมิ่นเหม่เข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มิใช่การชุมนุมที่มีการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา โดยสุจริตเพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ รับรองไว้แต่อย่างใด ซึ่งเป็นความผิดที่ชัดเจน

นายไชยวัฒน์ กล่าวอีกว่า การฟ้องร้องต่อศาลปกครองครั้งนี้ ตนและทนายความยื่นฟ้องในฐานะเป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ที่มีหน้าที่พิทักษ์ไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อีกทั้งมีหน้าที่ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ป้องกันประเทศ และปฏิบัติตามกฎหมาย ตามมาตรา 70,71 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 และ ตนรวมทั้งประชาชนคนไทยต้องตกอยู่ในสภาวะคอยหวาดระแวง สังคมแบ่งพรรคแบ่งพวก เป็นฝัก ฝ่าย ทำให้มีชีวิตอยู่อย่างไม่ปกติสุข

การยื่นฟ้องในครั้งนี้ได้ระบุท้ายคำฟ้องให้ศาลปกครองมีคำสั่ง ให้ผู้ถูกฟ้อง คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.กอ.รมน. ได้ออกมาตรการตามกฎหมาย เพื่อระงับยับยั้งมิให้มีการเผยแพร่ภาพและเสียง ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งโฟนอินและวิดีโอลิงก์ต่อที่ชุมนุมและที่อื่นใดทั่วประเทศอีกต่อไป และให้ผู้ถูกฟ้องออกคำสั่งให้กลุ่มผู้นำการชุมนุม( คนเสื้อแดง) ยุติการชุมนุมในทันที รวมถึงขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา

ทั้งนี้ หลังจากได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางและยื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ได้รับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ 516/2552 และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยว่า อยู่ในอำนาจของศาลปกครองหรือไม่

“ดังนั้นจึงขอเรียกร้องไปยังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้เร่งวินิจฉัยชี้ขาดเพื่อให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาตามที่ได้ร้องต่อศาลปกครองกลางไปดังกล่าว ก่อนที่เหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจะวุ่นวายบานปลายไปมากกว่านี้ จนยากต่อการเยียวยาแก้ไขได้” นายไชยวัฒน์ กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น