ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตำรวจภาค 3 ติวเข้มยุทธวิธีเพิ่มศักยภาพกำลังพลสายงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในสังกัด 8 จังหวดอีสานล่างรับมืออาชญากรร้ายแรง เพื่อลดการสูญเสียของตำรวจ ในการเข้าปิดล้อมจับกุมคนร้ายรวมทั้งการชิงตัวประกัน เผยนำปืน “BB GUN” มาประยุกต์ปรับใช้ในการฝึกเพื่อเพิ่มความชำนาญแบบสมจริงและประหยัดงบประมาณ
วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สนามฝึกยิงปืน ตำรวจภูธรภาค 3 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรยุทธวิธีตำรวจ ให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัดของตำรวจภูธรภาค 3ทั้ง 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง ในสายงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม โดยมีตำรวจระดับหน้าหน้าสายงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม เข้ารับการฝึกอบรมครั้งนี้ 90 นาย
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกมีความรู้ความชำนาญในยุทธวิธีตำรวจ สามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่และภารกิจให้ประสบผลสำเร็จอย่างสูงสุด และสามารถนำความรู้ไปถ่ายทอดและขยายผลให้กับข้าราชการตำรวจในหน่วยต่อไปได้ รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่น และมีความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ได้สูงขึ้นและมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เทคนิคใหม่ๆ ให้ผู้เข้ารับการอบรม มีความชำนาญเกี่ยวกับยุทธวิธีตำรวจในระดับผู้ปฏิบัติ สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัยต่อตนเองและผู้อื่น ที่สำคัญคือเพื่อให้ข้าราชการตำรวจมีความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่มากขึ้น
พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ. 3 เปิดเผยว่า การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจโดยเฉพาะสายงานป้องกันและปราบปรามที่ต้องเสี่ยงอันตรายขณะตั้งด่านตรวจและติดตามจับกุมคนร้าย โดยล่าสุดต้องสูญเสียนายตำรวจระดับสารวัตรไปที่ จ.ชัยภูมิ ขณะเข้าทำการปิดล้อมจับกุมคนร้ายและถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต ฉะนั้น เพื่อลดการสูญเสียและทำให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติหน้าที่และบุคคลอื่น ทางตำรวจภูธรภาค 3 จึงจัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรยุทธวิธีตำรวจขึ้นมา
ทั้งนี้ ได้ขอรับการสนับสนุนวิทยากร ครูฝึก จากกองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ, กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ที่มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์มาถ่ายทอดความรู้ทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ ให้เจ้าหน้าที่ผู้เข้ารับการฝึกได้เกิดความมั่นใจและมีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่
สำหรับการฝึกครั้งนี้ ได้ใช้ปืน BB GUN หรือปืนอัดลมมาประยุทธ์ปรับใช้ในการฝึกการยิงปืนของตำรวจซึ่งใกล้เคียงกับการฝึกโดยใช้อาวุธจริง ที่สำคัญเป็นการประหยัดงบประมาณค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อกระสุนยิงและขยายผลให้กับข้าราชการตำรวจในหน่วยต่อไป
การฝึกอบรมดังกล่าวแบ่งออกเป็น 3 รุ่นๆ ละ 30 นาย โดยรุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 25-27 มี.ค. (ภ.จว.ยโสธร,อำนาจเจริญ, อุบุลราธานี) รุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 1-3 เม.ย. (ภ.จว.บุรีรัมย์,สุรินทร์และศรีสะเกษ) และรุ่นที่ 3 ระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย. 2552 (ภ.จว.ชัยภูมิ,นครราชสีมา และ ศสส.ภ.3)
