ฉะเชิงเทรา - ผืนป่าราบต่ำแนวเขตรอยต่อห้าจังหวัดภาคตะวันออก ผืนสุดท้ายของประเทศ รอบพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ยังคงถูกกลุ่มทุนเข้าบุกรุกตัดเผาทำลายต้นไม้ หวังยึดพื้นที่ผืนป่าแปรสภาพเป็นสวนยาง-ป่ายูคาฯ ขณะชาวบ้านแฉกลุ่มทุนหัวใสแอบเจาะไข่แดงเผาทำลายจากด้านในสู่ด้านนอก ด้านพ่อเมืองรับยังคงมีขบวนการอยู่จริงแต่ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านพัดถิ่นเป็นผู้เข้ามาบุกรุกทำลาย
วันนี้ (24 มี.ค.) เวลา 15.00 น.นายทับ (นามสมมติ) อายุ 56 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านคลองตะเคียน พื้นที่ ม.13 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ที่บริเวณพื้นที่แนวตะเข็บรอยต่อระหว่างพื้นที่ชายป่ากันชน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน กับพื้นที่ของหมู่บ้านคลองตะเคียน ได้มีนายทุน (ทราบชื่อเพียง นางหวัง อายุประมาณ 50) ซึ่งเป็นคนจากภายนอกพื้นที่ของหมู่บ้าน (ภูมิลำเนาเดิมจาก จ.ชลบุรี) ได้นำคนงานพร้อมเครื่องมือ เข้ามาทำการตัดโค่นต้นไม้ และจุดไฟเผาทำลายซากตอทิ้งในเวลากลางคืน
หลังจากนั้น ได้ทำการแปรสภาพจากพื้นที่ป่าไม้ ให้กลายเป็นสวนป่า โดยการนำไม้ยางพารา ต้นยูคาลิปตัส และมะม่วงหิมพานต์ เข้ามาปลูกแทน จนกลายสภาพมองเห็นคล้ายเป็นสวนป่าทั่วไป
ในการบุกรุกเข้าทำลายป่านั้น กลุ่มนายทุนได้ใช้วิธีการแอบเข้าไปแพ้วถางป่าจากด้านในก่อน โดยเว้นแนวชายป่าเดิมไว้ เพื่อไม่ให้ผู้ที่มาพบเห็นสงสัย และอำพรางสายตาของเจ้าหน้าที่ ซึ่งปัจจุบันยังดูแลพื้นที่ป่าได้ไม่ทั่วถึง ทั้งที่ป่าบางส่วน เคยเป็นพื้นที่การตรวจยึดกลับคืนมาจากชาวบ้าน พร้อมร่วมกันปลูกป่าทดแทนให้เป็นพื้นที่ป่าสงวนเมื่อก่อนหน้า ชาวบ้านจึงต่างพากันสงสัยว่า นายทุนกลุ่มนี้สามารถกระทำการยึดพื้นที่ป่าได้อย่างไร
ขณะที่ นายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงปัญหาการบุกรุกทำลายป่าบริเวณป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า ปัจจุบันยังคงพบปัญหาการบุกรุกทำลายป่าเกิดขึ้นอยู่จริง โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านนายาว ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งทราบว่ายังมีขบวนการลักลอบทำไม้อยู่อีกจำนวน 4 ราย
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการบุกรุกพื้นที่ป่า เพื่อเข้าไปทำกินของราษฎรอพยพพลัดถิ่น ที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่มาจากทางภาคอีสาน โดยเริ่มเข้ามาเป็นแรงงานในพื้นที่ก่อน ที่จะบุกรุกถางป่าเพื่อเข้าครอบครองพื้นที่ทำกิน