xs
xsm
sm
md
lg

“โหรงเหรง” เวทีเสื้อแดงเชียงราย คนฟัง “แม้ว-ยุทธ” เผาบ้านเกิดไม่ถึงครึ่ง-หึ่ง ส.ส.แยกวง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ดูกันจะจะ เวที “เสื้อแดงเชียงราย” โหรงเหรง คนร่วมไม่ถึงครึ่ง ฟัง “แม้ว-ยุทธ ตู้เย็น” โฟนอิน เผาประเทศตัวเองสะพัด 2 ส.ส.เพื่อไทยและอดีต ส.ส.อีก 1 คนเตรียมแยกวง

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า บรรยากาศการเปิดเวทีของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อคืนวันที่ 21 มี.ค.52 ที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นโดยกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จ.เชียงราย นำโดย น.ส.จีรนันท์ จันทวงศ์ ณ สนามกีฬา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จ.เชียงราย พบว่ามีประชาชนเดินทางไปร่วมเวทีเพียงครึ่งเดียวของจำนวนโต๊ะที่เตรียมไว้ 210 โต๊ะเท่านั้น ทำให้พิธีกรบนเวทีต้องเรียกให้ผู้ที่นั่งเก้าอี้อยู่ด้านหลังเข้าไปนั่งอยู่แถวหน้าให้เต็ม เพื่อรอการโทรศัพท์เข้าไปหรือโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ผู้ที่ปราศรัยบนเวทีมีแกนนำหลายคน เช่น นายวีระ มุสิกพงศ์, นายจักรภพ เพ็ญแข, นายจตุพร พรหมพันธุ์ ฯลฯ รวมทั้งมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จาก จ.เชียงราย และจังหวัดข้างเคียง เช่น พะเยา เข้าร่วมบนเวทีด้วย เช่น นายสฤษฎิ์ อึ้งอภินันท์ ส.ส.เชียงราย ,นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย, นายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เชียงราย ,นายวิสุทธิ์ ไชยดรุณ ส.ส.พะเยา ฯลฯ

สำหรับเนื้อหาที่แกนนำพูดบนเวทีพบว่ายังคงมีเนื้อหาเดิมๆ คือการพยายามหาเหตุผลโจมตีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยท (พธม.) และรัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม นายวีระนำร่องเกี่ยวกับการที่กลุ่มคนเสื้อแดงใน จ.เชียงราย มีหลายกลุ่มและไม่ถูกกันว่าเป็นเรื่องธรรมดาแต่จะต้องร่วมกันเพื่อเอาชนะการยุแยงตะแคงรั่วของกลุ่มอื่น และมุ่งสร้างเอกภาพโดยใช้ประโยชน์จากคลื่นวิทยุชุมชน 104 เม็กกะเฮิร์ต ซึ่งกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จ.เชียงราย ได้ถือโอกาสในเวทีนี้เปิดเป็นครั้งแรก

ด้านนายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้จัดการรายการในดีทีวีก็ออกมาระบุต่ออย่างอุกอาจว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการตั้งรัฐบาลเป็นคนผมขาว 1 คนคือ “ป๋า” คนหัวเกรียนเป็นทหาร และคนหัวหมูอีกหนึ่งคน

นอกจากนี้ นายก่อแก้วยังกล่าวอีกว่า การปาไข่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในปัจจุบันไม่ผิดกฎหมาย ประเทศไหนๆ ในโลกเขาก็ปากัน การปาไข่จึงเป็นเรื่องเล็กน้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายจักรภพ เพ็ญแข ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีมีเนื้อหาว่าขณะนี้นายยงยุทธ ติยะไพรัช ยังอยู่ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งไม่ได้หายไปไหนแต่ร่วมกันต่อสู้กับอำมาตยาธิปไตยด้วยกัน แต่ได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยาย 2 ชั่วโมงกับองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน เพราะสถานการณ์ทั้งในและนอกประเทศนั้นไม่เหมือนกันปัจจุบันมีแต่ ดีทีวี.เท่านั้น ส่วนสื่ออื่นๆ ปิดหูปิดตาประชาชนกันหมด เมื่อภายในประเทศไม่น่าเชื่อถือจึงต้องออกไปให้ต่างประเทศเข้าใจ ดังนั้น ถ้าอำนาจรัฐเปลี่ยนจะต้องมีใครที่จะถูกจับขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศกันบ้าง และปัจจุบันได้มีเจ้าหน้าที่ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดที่ถูกส่งไปประจำพื้นที่ จ.เชียงราย ก็ขอให้ประชาชนได้รวมตัวกันเอาไว้อย่าได้ยอมแพ้

ต่อมานายยงยุทธได้โฟนอินเข้าไปยังเวทีอ้างว่าตัวเองยังอยู่ที่กรุงเจนีวาโดยเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมาได้รับเชิญให้ไปบรรยายเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย ซึ่งคนต่างประเทศก็สงสัยมากว่าเหตุใดประเทศไทยจึงมีการปฏิวัติรัฐประหารมากถึง 24 ครั้ง และได้มีเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศของไทยไปชี้แจงแต่ก็ถูกตอกหน้ากลับมาจนเป็นที่อับอายขายหน้า

ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โฟนอินต่อจากนายยงยุทธ ด้วยโดยมีเนื้อหาว่าเขาไม่ยอมให้กลับจึงกลับประเทศไทยไม่ได้ และอ้างว่าปัจจุบันอาศัยอยู่ที่โมนาโก ซึ่งมีประชากรเพียงแค่ 35,000 คน เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ เล็กที่สุดในโลกรองจากนครวาติกันเท่านั้น แต่ก็เป็นเมืองที่บรรดาเศรษฐีเอาเงินไปใช้กันมาก

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังระบุด้วยเนื้อหาเดิมๆ ว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกกำลังย่ำแย่ดังนั้นในวันนี้ (22 มี.ค.) จะพูดเรื่องปัญหาการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจที่เวทีการชุมชุมที่ จ.เชียงใหม่ และวันที่ 27 มี.ค.จะพูดเรื่องทางออกประเทศไทยให้รัฐบาลได้ฟัง เพราะเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจนี้ตนแก้ได้ง่ายมาก หากตนยังอยู่ปี 2554 นี้คนไทยคงจะหายจนกันไปหมดแล้ว แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกตกต่ำโดยเฉพาะปี 2552 ตัวเลขจะติดลบกันหมดโดยเฉพาะรัฐบาลกลับไปกู้ยืมเงินมาอีก

อดีตนายกรัฐมนตรียังกล่าวขอบคุณนายยงยุทธ ติยะไพรัช และ ส.ส.ในกลุ่ม แต่ก็ระบุว่าครั้งนี้พบว่าด้มี ส.ส.เชียงราย จำนวน 2 คน คือนายอิทธิเดช ที่ไม่ได้ไปประชุมฯ ส่วนนายสฤษฎิ์ ก็ไม่รู้ว่าหายไปอยู่ที่ไหน ซึ่งพวกนี้ถือว่าไปเสียเงินทั้งนั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนั้นทั้งนายอิทธิเดช นายสฤษฎิ์ ได้รีบลุกขึ้นไปที่นายจักรภพ ซึ่งกำลังถือไมโครโฟนอยู่และขอพูดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แบบสดๆ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ถามออกมาอย่างมีอารมณ์กับนายสฤษฎิ์ก่อนทันทีว่า “หายไปไหน” นายสฤษฎิ์ตอบว่า ไม่ได้หายไปไหนตนก็อยู่ที่นั่น ตอนกดลงคะแนนทาง ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ ก็เห็นตนกดอยู่ซึ่งตนไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เพิ่งจะมารู้ที่ จ.เชียงราย ในครั้งนี้นี่เอง ตนยังรักท่านนายกฯ และไม่เปลี่ยนใจ

ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวสวนกลับมาว่า คนที่ตนสะดุ้งที่สุดคือนายสฤษฎิ์ และสงสัยว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้ แต่ยังไม่ทันที่นายสฤษฎิ์จะกล่าวตอบ นายอิทธิเดชก็รีบกล่าวสวนกลับไปทันทีว่าตนเป็นประธานคณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎร และวันนั้นจำเป็นต้องจำดูงานที่ชายแดน จ.แม่ฮ่องสอน จึงขออนุญาตและขอโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยที่ไม่ได้ไปร่วมประชุม

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่ ส.ส.ทั้ง 2 คนแก้ตัวก็มีเสียงตะโกนจากกลุ่มคนเสื้อหลายคนว่าไม่เอาๆ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็กล่าวว่า “ไอ้พวกที่ตัวอยู่ที่ ใจอยู่ที่ ผมไม่เอาแล้ว” แต่นายอิทธิเดชก็กล่าวตอบว่ารัก พ.ต.ท.ทักษิณ และจะอยู่กับท่านตลอดไป ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ถามสวนกลับมาทันทีว่า “ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ” นายอิทธิเดชตอบทันทีว่า “ไม่เปลี่ยนใจครับ” ทาง พ.ต.ท.ทักษิณ จึงกล่าวขอบคุณ

จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่าเชียงรายเป็นเมืองที่จะต้องหนักแน่น พวกเราจะต้องเข้มแข็งเอาไว้ ซึ่งช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อนั้น ส.ส.ทั้ง 2 คนที่ถูกกล่าวหาพยายามจะขอพูดแทรกเพื่ออธิบายเพิ่มเติมแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ยอมพูดด้วย และได้ปราศรัยต่อกลุ่มผู้ชุมนุมเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจไปเรื่อยๆ ทำให้ทั้ง 2 คนกลับไปนั่งด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก ขณะที่มีเสียงตะโกนด่าออกมาจากกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า เนื้อหาที่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวนั้นยังคงเกี่ยวข้องกับเรื่องความตกต่ำของเศรษฐกิจ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ตอนหนึ่งกล่าวอ้างว่าเป็นกรรมของตนที่ต้องมาชดใช้หนี้สินที่พรรคประชาธิปัตย์สร้างขึ้น และครั้งนี้ก็คงจะกลับไปเหมือนเดิมอีก

จากนั้นแกนนำ นปช.ได้ปราศรัยต่อและมีการด่าทอคนที่พยายามจะแยกตัวออกไปอยู่เป็นระยะๆ ท้ายที่สุดนายวีระได้ปราศรัยต่อเป็นคนสุดท้ายจนเลิกเวทีไปในเวลาประมาณ 23.00 น.ขณะที่คนเสื้อแดงบางกลุ่มดื่มสุราและเบียร์ภายในงานทั้งๆ ที่สถานที่ดังกล่าวอยู่ในมหาวิทยาลัย

ด้านแหล่งข่าวจากกลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่ามีกระแสว่ามี ส.ส.เชียงราย จำนวน 2 คนและอดีต ส.ส.อีก 1 คน กำลังติดต่อกับพรรคภูมิใจไทย และอาจจะย้ายไปสังกัดพรรคดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่พอใจ ทั้งนี้ในเขตเลือกตั้งที่ 3 ที่มีนายอิทธิเดช แก้วหลวง เป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทยอยู่นั้นอาจจะให้นายวิทย์วัส โพธสุธน อดีตผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคชาติไทย ที่แพ้การเลือกตั้งมาแล้ว 2 ครั้งลงสมัครแทน ส่วนเขตเลือกตั้งอื่นอยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนพรรคภูมิใจไทยเริ่มติดป้ายหาเสียงขนาดใหญ่ในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงราย แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น