บุรีรัมย์ - สพท.บุรีรัมย์ เขต 1 เริ่มจ่ายเงินสำหรับซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนให้กับผู้ปกครองนักเรียนเป็นโรงเรียนแรกแล้ว หลังกระทรวงศึกษาฯโอนเงินตามโครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ เผย จ.บุรีรัมย์ ได้รับโอนเงินในโครงการเกือบ 320 ล้าน ด้าน ผอ.สพท.บุรีรัมย์ เขต 1 ย้ำ วางมาตรการเข้มป้องกันทุจริต ด้านผู้ปกครองปลื้มฝากขอบคุณรัฐบาล “นายกฯ มาร์ค”
วันนี้ (19 มี.ค.) นายณรงค์ แผ้วพลสง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) บุรีรัมย์ เขต 1 ได้เป็นประธานมอบเงินให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครองนักเรียน ที่โรงเรียนเสนสิริอนุสรณ์ เพื่อนำไปซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนให้บุตรหลาน ซึ่งโรงเรียนเสนสิริอนุสรณ์ เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษาปีที่ 3 ถือเป็นโรงเรียนนำร่องแห่งแรกของ จ.บุรีรัมย์ ที่ได้มอบเงินแก่นักเรียนและผู้ปกครอง ตามโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ซึ่งมอบให้นักเรียนจำนวน 790 ราย หลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการได้กดปุ่มโอนเงินตามโครงการดังกล่าวให้กับสถานศึกษาทั่วประเทศ เมื่อวานนี้ (18 มี.ค.)
สำหรับ จ.บุรีรัมย์ มีเขตพื้นที่การศึกษาทั้งหมด 4 เขต ได้รับจัดสรรงบประมาณตามโครงการเรียนฟรี 15 ปี เกือบ 320 ล้านบาท เฉพาะ สพท.เขต 1 มีนักเรียนที่จะได้รับสิทธิ์เรียนฟรี 56,947 คน คิดเป็นงบประมาณที่ได้รับจัดสรรกว่า 81 ล้านบาท
นายณรงค์ แผ้วพลสง ผอ.สพท.บุรีรัมย์ เขต 1 กล่าวว่า ได้กำชับให้โรงเรียนทุกแห่งเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองได้เข้าใจถึงนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ซึ่งรัฐจะจัดสรรงบประมาณสนับสนุน 4 ด้าน ได้แก่ การจัดซื้อหนังสือ, ด้านกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน, เครื่องแบบนักเรียน และอุปกรณ์การเรียน
โดยอุปกรณ์การเรียนและเครื่องแบบนักเรียนนั้น โรงเรียนจะมอบเงินให้ผู้ปกครองเป็นผู้นำไปจัดซื้อให้บุตรหลานเอง ส่วนหนังสือและการพัฒนาการเรียนการสอนโรงเรียนจะเป็นผู้จัดหา โดยโรงเรียนเสนสิริอนุสรณ์ ถือเป็นโรงเรียนแรกที่ได้มอบเงินให้กับนักเรียนและผู้ปกครองแล้ว ส่วนโรงเรียนอื่นๆ คาดว่า จะทยอยดำเนินการไปจนถึงก่อนเปิดภาคเรียน โดยได้เน้นย้ำให้ทุกโรงเรียนดำเนินอย่างอย่างโปร่งใส ห้ามมีการทุจริต หรือหักหัวคิวโดยเด็ดขาด หากพบจะดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาดทันที
ด้าน นายบุญมี ครุรัมย์ อายุ 47 ปี ผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนเสนสิริอนุสรณ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้รับเงินช่วยเหลือในการซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน เพราะช่วยแบ่งเบาภาระไปได้บางส่วน โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำเช่นปัจจุบัน จึงอยากฝากขอบคุณกระทรวงศึกษาฯและรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่มีโครงการดีๆ เช่นนี้ และขอให้ช่วยเหลือด้านการศึกษาเช่นนี้ตลอดไป