ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองกำลังบูรพา ปิดล้อมจับแรงงานเขมรลักลอบเข้าไทยได้ จำนวน 372 คน พร้อมอุปกรณ์เครื่องครัวเรือนอีกเป็นจำนวนมาก
วันที่ (19 มี.ค.) พลตรี วลิต โรจนภักดี ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา มีนโยบายปรับระบบและป้องกันปราปรามยาเสพติด ที่มีลักลอบนำเข้ามาในเขตประเทศไทย โดยใช้วิธีชุกซ่อนมากับแรงงานรับจ้างขายแรงงานชาวกัมพูชา ที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ประกอบกับเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงภายในของประเทศไทย ตลอดจนก่อเกิดอาชญากรรมปล้นสะดมภ์ทรัพย์สินของราษฏรคนไทยในพื้นที่ จังหวัดสระแก้ว และยังเป็นแหล่งซ่อนสุมพักพิงแรงงานต่างด้าวชาวเขมร ที่จะเดินทางไปขายแรงงานรับจ้างตามโควต้าของขบวนการค้ามนุษย์คนไทย ทีมีการเรียกเก็บค่าหัวจากชาวกัมพูชารายละไม่ต่ำกว่า 5 – หมื่นบาท
จึงสั่งการ พ.อ.ศรีศักดิ์ พูนประสิทธิ์ รองเสนาธิการกองกำลังบูรพา 1 พร้อมด้วย พ.อ.ชูชาติ สุกใส รองเสนาธิการกองกำลังบูรพา 2 และกำลังทหารชุดกองกำลังบูรพาและชุดสุนัขสงครามร่วม 70 นาย เข้าทำการปิดล้อมหมู่บ้านคลองยาง หมู่ 3 บ้านบ่องนางชิง หมู่ 4 ตำบลห้วยโจด และหมู่บ้านนางงาม หมู่ 7 ตำบลท่าเกวียน อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว พบแรงงานเถื่อนรับจ้างชาวกัมพูชา ที่ลักลอบเข้ามารับจ้างขายแรงงานในพื้นที่เป็นจำนวนมาก 372 คน เป็นชาย 178 หญิง 167 และเด็กชาย 16 เด็กหญิง 21 คน ร่วม 372 คน พร้อมอุปกรณ์เครื่องรับจ้างทำงานสวนการเกษตรต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย มีดขอ จอบ เสียม รถอีแต็ก ถังน้ำพลาสติกกว่า 20 ใบ นอกนอกนั้นเป็นหม้อหุ่งข้าว เตา ถ้วยจาน หมอนมุ้งที่นอนอีกเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เข้าทำการปูพรมกวาดล้างแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา เข้ามาลอบซ่อนพักพิงตามป่าระเมาะและไร่อ้อย มันสำปะหลัง ยังพบกระท่อมเรียงรายอีกเป็นจำนวนมาก ที่มีการปลูกหลบซ่อนตามพื้นที่ราบเชิงเขาบ้านบ่อ โดยมีการตัดไม้ทำลายป่า นำต้นมาปลูกกระท่อม ปลูกบ้านหลังขนาดเล็กครอบครัว ตลอดจนใช้ผ้าเต็นท์มากาง โดยตัดต้นไม้มาทำคาน จึงสั่งการให้ทหารเข้าทำลายรื้อถอน พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ทั้งหมดมาเผาทิ้ง จากนั้นได้มาสอบสวนจัดทำประวัติบันทึกถ่ายภาพ พิมพ์ลายแม่มือทั้งหมดก่อนส่งมอบเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศไปดำเนินการตามขั้นต่อไป