เชียงราย – สมาคมท่องเที่ยวฯออกโรงเตือนนักท่องเที่ยวข้ามฝั่งเข้าพม่าด้านท่าขี้เหล็ก ระวังถูกรีดเงิน 200 บาท/หัว รับมีนักท่องเที่ยวไทยร้องเรียนหลายราย ถูกเจ้าหน้าที่พม่า อ้างตัวเป็น ปปส.จับตรวจในห้องรายตัว แถมตั้งโต๊ะเรียกเก็บเงินรายตัว ไม่ว่าจะเจอสินค้าหรือของผิดกฎหมายหรือไม่
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ปัจจุบันการเดินทางไปเที่ยวชายแดนโดยเฉพาะตลาด อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังคงมีความคึกคักโดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวแม้จะมีปัญหาด้านเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศก็ตาม แต่ล่าสุดพบปัญหาจนทำให้มีนักท่องเที่ยวหลายรายไปร้องเรียนกับสมาคมท่องเที่ยวเชียงรายว่า ถูกกลุ่มคนที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ของประเทศพม่า รีดไถเงินไปอย่างน้อยรายละ 200 บาท โดยเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อนักท่องเที่ยวได้ข้ามจากฝั่ง อ.แม่สาย ไปยังตลาดท่าล้อ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า เพื่อท่องเที่ยวและหาซื้อสินค้าชายแดนแปลกตาราคาถูกตามปกติ
แต่เมื่อถึงขากลับ ทางการพม่าได้กำหนดให้นักท่องเที่ยวเดินลัดเลาะตามเส้นทางของด่านพรมแดนฝั่งขวา ภายในอาคารจะมีห้องสำหรับตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายหรือลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งตามปกติจะมีเจ้าหน้าที่ทหารของพม่าทำการตรวจสอบและไม่เคยเกิดปัญหามาก่อนเนื่องจากทหารพม่าทั้งชายหญิง จะทำการตรวจสอบสินค้าที่นักท่องเที่ยวจะนำข้ามมาตามปกติ
อย่างไรก็ตาม พบว่าได้มีกลุ่มคนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.พม่าตรวจสอบสินค้าของนักท่องเที่ยวไทยที่ข้ามไป โดยหากพบสินค้าบางรายการ เช่น โทรศัพท์มือถือ ซีดีหรือวีซีดีลามก ยาปลุกพลังทางเพศ ฯลฯ จะถูกเรียกเก็บเงินทันทีหัวละ 200 บาท โดยไม่มีใบเสร็จหรือแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ ขณะเดียวกันบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องเป็นสินค้าเหล่านี้แต่หากมีการซื้อสินค้าก็จะถูกปรับเป็นเงินหัวละอย่างต่ำ 200 บาท หากพบสินค้าผิดกฎหมายจริงก็จะถูกปรับมากกว่านี้
ทั้งนี้ หลังเกิดกรณีดังกล่าวทางด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สาย และด่านศุลกากรแม่สาย ได้เคยแจ้งไปยังทางการด่านพรมแดน จ.ท่าขี้เหล็ก แล้วว่าขอให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและหากเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ก็ขอให้ยกเลิก เพราะจะกระทบต่อการท่องเที่ยวไทย-พม่า ระหว่างด่านพรมแดนทั้งสองซึ่งมีนักท่องเที่ยวจากฝั่งไทยข้ามไปวันละตั้งแต่ 1,000-2,000 คน และหากเป็นวันหยุดยาวหรือเทศกาลท่องเที่ยวก็จะมากนับหมื่นคน
แต่เจ้าหน้าที่ของท่าขี้เหล็กบางส่วนแจ้งว่าไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของตนและไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการ
นายสมเกียรติ ชื่นธีรวงศ์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเชียงราย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าตกใจมากและหากไม่ทำการแก้ไขจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก แน่นอนเพราะนักท่องเที่ยวทั่วประเทศหรือทั่วโลกที่ไปเยือนและถูกกระทำเช่นนี้ก็จะเหมารวมเอาไว้ว่าได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวของ จ.เชียงราย ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องนอกประเทศ อยู่เหนือการควบคุมของเรา ก็ขอให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ช่วยแก้ไขเพื่อให้มีการยกเลิกการกระทำดังกล่าวด้วยเพราะสมาคมได้รับการร้องเรียนไปแล้วหลายราย โดยที่พวกเขาไม่อาจจะรับรู้ได้ว่ากระทำผิดกฎหมายอะไรและไม่มีใบเสร็จใดๆ ทั้งสิ้น หรือหากสินค้าที่พวกเขาหาซื้อมาจากตลาดฝั่งประเทศเพื่อนบ้านผิดกฎหมายจริงแล้วทำไมจึงมีการปล่อยให้จำหน่ายในตลาดได้อย่างเสรี จนทำให้นักท่องเที่ยวเข้าไปหาซื้อและถูกกระทำดังกล่าว
นายสมเกียรติกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุดังกล่าวพวกเราได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ศุลกากรฝั่งไทยในการช่วยประสานไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านดีมาก แต่หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้อยู่อีกก็คงจะต้องเตือนนักท่องเที่ยวไทยที่จะไปเยือนชายแดนด้าน อ.แม่สาย ว่าเวลาจะไปเที่ยวชายแดนที่แม่สายก็ให้หาซื้อสินค้าเฉพาะในฝั่งไทยเท่านั้น เพราะเราก็มีตลาดที่น่าหาซื้อราคาถูกและแปลกตาเหมือนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านทุกประการ เช่น ตลาดสายลมจอย ตลาดดอยเวา ฯลฯ หรือหากอยากข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านก็อย่าไปหาซื้อสินค้าเพราะหากปล่อยให้ข้ามไปตามยถากรรมและไปพบกับสถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นผลเสียต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดในระยะยาวต่อไปนั่นเอง
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับการเดินทางข้ามไปยังฝั่งประเทศพม่าผ่านทางจุดผ่านแดน อ.แม่สาย ทางฝ่ายปกครองอำนวยความสะดวกด้วยการจัดให้ทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวหรือบอเดอร์พาสที่หน้าที่ว่าการ อ.แม่สาย และที่หน้าด่านพรมแดน โดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 30 บาท จากนั้นทำพิธีผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ก่อนจะเดินข้ามฝั่งไทยไปยังฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก และเสียค่าธรรมเนียมผ่านแดนในพม่าคนละเพียง 10 บาท ซึ่งอัตราดังกล่าวยึดถือปฏิบัติกันมานานโดยไม่เคยเกิดปัญหามาก่อน เพราะเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝั่งประเทศคอยอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่แต่พึ่งจะมีปัญหาครั้งล่าสุดที่อาจจะกระทบกับการท่องเที่ยวอย่างหนัก