กาฬสินธุ์-หน้าแล้งปีนี้ น้ำแห้งเร็วผิดปกติ ส่งผลกระทบพืชไร่-พืชสวนและนาข้าวของเกษตรกรชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ทั้ง 18 อำเภอ เบื้องต้นเสียหายแล้วร่วม 15,000 ไร่
นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ความแห้งแล้งในพื้นที่กาฬสินธุ์เริ่มรุนแรง เนื่องจากปริมาณน้ำลดน้อยลง ทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 18 อ่าง และเขื่อนลำปาว ปริมาณน้ำเหลือน้อยไม่ถึงร้อยละ 50 ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ได้สั่งการไปยังนายอำเภอทั้ง 18 อำเภอ ให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน ทั้งการแจกจ่ายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนตามหมู่บ้านที่ราษฎรร้องขอมา อีกส่วนหนึ่งคือน้ำเพื่อการเกษตรได้ขอความร่วมมือไปยัง อปท.ให้ช่วยเกษตรกรด้วยการจัดหาเครื่องสูบน้ำ-น้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อให้เกษตรกรได้สูบน้ำเข้านาข้าว
โดยเฉพาะพื้นที่ 5 อำเภอ ตามเขตชลประทานที่มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังกว่า 260,000 ไร่ เนื่องจากเกรงว่าน้ำจากเขื่อนลำปาวที่ระบายตามเขตชลประทานจะไม่เพียงพอและไปไม่ทั่วถึง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีนาปรังที่เสียหายจากภัยแล้งแล้วกว่า 14,000 ไร่ และมีพืชไร่-พืชสวนเสียหายประมาณ 1,000 ไร่ โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์กำลังเร่งสำรวจและเตรียมการช่วยเหลือต่อไป
นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ความแห้งแล้งในพื้นที่กาฬสินธุ์เริ่มรุนแรง เนื่องจากปริมาณน้ำลดน้อยลง ทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 18 อ่าง และเขื่อนลำปาว ปริมาณน้ำเหลือน้อยไม่ถึงร้อยละ 50 ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ได้สั่งการไปยังนายอำเภอทั้ง 18 อำเภอ ให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน ทั้งการแจกจ่ายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนตามหมู่บ้านที่ราษฎรร้องขอมา อีกส่วนหนึ่งคือน้ำเพื่อการเกษตรได้ขอความร่วมมือไปยัง อปท.ให้ช่วยเกษตรกรด้วยการจัดหาเครื่องสูบน้ำ-น้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อให้เกษตรกรได้สูบน้ำเข้านาข้าว
โดยเฉพาะพื้นที่ 5 อำเภอ ตามเขตชลประทานที่มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังกว่า 260,000 ไร่ เนื่องจากเกรงว่าน้ำจากเขื่อนลำปาวที่ระบายตามเขตชลประทานจะไม่เพียงพอและไปไม่ทั่วถึง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีนาปรังที่เสียหายจากภัยแล้งแล้วกว่า 14,000 ไร่ และมีพืชไร่-พืชสวนเสียหายประมาณ 1,000 ไร่ โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์กำลังเร่งสำรวจและเตรียมการช่วยเหลือต่อไป