สกลนคร - จังหวัดสกลนคร ประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้งแล้ว ทั้งหมด 18 อำเภอ นำงบประมาณ อำเภอละ 50 ล้าน ออกช่วยราษฎรแล้ว หวั่นน้ำในแหล่งน้ำไม่เพียงพอในการอุปโภคบริโภค ควรใช้น้ำอย่างประหยัด
นายสมาน ปางวัชรากร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานในการประชุม การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยเรียกนายอำเภอทุกอำเภอประชุมในการจัดสรรงบประมาณลงช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 18 อำเภอ ทั้งนี้ จากสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังคุกคามหลายพื้นที่ทั่วทุกภาคของประเทศในขณะนี้ ในส่วนของจังหวัดสกลนคร ได้ประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้งแล้ว ทั้งหมด 18 อำเภอ
โดยสถานการณ์น้ำในเขื่อน ในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำน้อยใหญ่ ทั้งหมด 33 แห่ง มีน้ำเหลือเพียง 60 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ปีที่แล้วทีน้ำมากถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เป็นปัญหาใหญ่ในเรื่องน้ำที่จะใช้อุปโภคบริโภค ตลอดจนน้ำที่ใช้ในการเกษตร การปลูกข้าวนาปรัง ดังนั้นประชาชนทั่วไปและเกษตรกร ควรจะใช้น้ำอย่างประหยัดและเหมะสมปลูกพืชแต่น้อย เพราะหากปลูกมากไปก็อาจจะสร้างความเดือดร้อนแก่ตนเอง
ขณะนี้ทางราชการก็พยายามทำฝายกั้นน้ำและนำกระสอบทรายไปกั้นเพื่อจะได้กักเก็บน้ำไว้ให้ราษฎรได้ใช้ในการเพาะปลูก
นอกจากนั้นก็มีการขุดเปิดทางน้ำเพื่อการเกษตรด้วย อย่างไรก็ตาม ทางราชการได้สนธิกำลังกันทุกหน่วย นำรถบรรทุกน้ำออกไปแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนแล้ว กว่า 500,000 ลิตร มีการซ่อมแซมบ่อบาดาล ซ่อมประปาหมู่บ้าน ขุดบ่อ และมีการสำรวจความต้องการในเรื่องถังน้ำที่จะเป็นถังน้ำกลางในหมู่บ้าน โดยจะมีการนำไปแจกจ่ายเพื่อเป็นที่กักเก็บน้ำไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภค
สำหรับสาเหตุใหญ่ของภัยแล้งนั้น ปีนี้คาดว่าฝนอาจจะตกลงมาช้า ซึ่งจะทำให้เกิดการแห้งแล้งยาวนาน เมื่อฝนตกน้อยลงก็ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ก็คือการขาดแคลนน้ำ ปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็ทำให้เกิดการแห้งแล้ง ต้นไม้แห้งเหี่ยวเป็นบ่อเกิดของการเกิดอัคคีภัยและไฟป่าได้มากขึ้น หากมีฝนตกลงมาบ้างก็จะทำให้ต้นไม้มีสีเขียวก็จะป้องกันการเกิดไฟป่าได้มากขึ้น