เชียงราย – วิทยาลัยแพทย์พื้นบ้านฯจัดชุมนุมใหญ่เครือข่ายหมอเมือง 4 ชาติลุ่มน้ำโขง ดึงหมอนวดรุ่นใหญ่เคยเข้ารักษาเจ้าเชียงตุงในอดีต – หมอราชวงศ์จากเชียงรุ่ง ฯลฯ ร่วมหารือ-สาธิตการรักษาตามแผนโบราณ
ผศ.ดร.ยิ่งยง เทาประเสริฐ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือก มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ในฐานะหัวหน้าโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายการแพทย์พื้นบ้านในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงตอนบนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 14-17 มีนาคมนี้ วิทยาลัยร่วมกับ สกว.มีจัดการประชุมทางวิชาการเครือข่ายการแพทย์พื้นบ้านลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 2 เรื่อง “การแลกเปลี่ยนของดีด้านการแพทย์และสมุนไพรพื้นบ้านระหว่างหมอพื้นบ้านในอนุภูมิภาค” ณ วิทยาลัยการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือก มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
โดยเครือข่ายหมอพื้นบ้านที่เข้าร่วมจะมาจาก 4 ประเทศในลุ่มน้ำโขง เช่น เขตสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน จีนตอนใต้ เมืองเชียงตุง ประเทศพม่า แขวงหลวงน้ำทาและแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว และกลุ่มล้านนาหรือภาคเหนือของประเทศไทย
ทั้งนี้ แต่ละแห่งจะส่งสุดยอดฝีมือในแต่ละด้านมาร่วมพูดคุยและสาธิตภายในงาน เช่น กรณีตรวจวินิจฉัยและการพยากรณ์สุขภาพ กรณีการรักษาอัมพฤกษ์ อัมพาตด้วยภูมิปัญญาการย่ำขาง กรณีการรักษาอาการป่วยทางโครงสร้างกล้ามเนื้อด้วยภูมิปัญญาการตอกเส้นและการนวด กรณีการรักษากระดูก กรณีการรักษาโรคด้วยภูมิปัญญาการขับพิษออกจากร่างกาย เป็นต้น
ผศ.ดร.ยิ่งยง กล่าวว่า แพทย์พื้นบ้านที่เข้าร่วมล้วนมีประสบการณ์สูง เช่น หมอนวดแผนโบราณจากเชียงตุง มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 70 ปี เคยเข้าไปนวดรักษาเจ้าเชียงตุงมาก่อน ขณะที่ทางเชียงรุ่ง ก็มีเจ้าราชวงศ์บางรายสมัครใจเป็นแพทย์พื้นบ้านด้วยตนเอง และมีความรู้เฉพาะทางอย่างแตกฉาน ในส่วนของหมอกระดูกของล้านนา ก็เป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยเฉพาะจากโรงพยาบาลศิริราช ว่าเป็นผู้รู้จริง รักษาได้จริง สามารถพิสูจน์เปรียบเทียบจากภาพเอกซเรย์ได้ทั้งก่อนและหลังการรักษา
“แม้จะอยู่ในลุ่มน้ำโขงเหมือนกัน หากแต่ละแห่งมีวิวัฒนาการทางการแพทย์พื้นบ้านต่างกัน อย่างจีน จะมีความก้าวหน้าค่อนข้างรวดเร็ว เนื่องจากแพทย์แผนปัจจุบันต้องเรียนแพทย์พื้นบ้านเป็นพื้นฐานด้วย ทำให้ในการรักษาพยาบาล ใช้วิธีการผสมผสานกันระหว่างแผนปัจจุบันกับแผนโบราณอย่างแนบเนียน และเกิดประสิทธิผลในการรักษาสูงมาก การจัดประชุมและพบปะกันครั้งนี้ จึงมั่นใจว่าจะเกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์สู่กัน และจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยูจากข้อสรุปเรื่องต่างๆ ที่เป็นผลมาจากการตกลงในที่ประชุมของสมาชิกดังกล่าวด้วย” ผศ.ดร.ยิ่งยง กล่าวและว่า
นอกจากนี้ ภายในงาน ยังมีนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับการแพทย์พื้นบ้านและสมุนไพร และสวนสมุนไพรพื้นบ้านลุ่มน้ำโขง 1,000 กว่าชนิด พันธุ์พืชสมุนไพรหายากและพืชพิษชนเผ่า กระบวนการผลิตยาสมุนไพรเชิงอุตสาหกรรม รวมถึงจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและสมุนไพร ตำราการแพทย์และสมุนไพรพื้นบ้าน ตลอดระยะเวลาของการจัดงานอีกด้วย
