ตาก – ผู้ว่าฯ ตากสั่งเข้มงวดปัญหารุกป่า ย้ำกลางที่ประชุมให้ทุกอำเภอลุยตรวจทุกหมู่บ้าน หากพบรุกเขตป่าต้องย้ายออก - ชาวบ้านลอบทำกินต้องจับดำเนินคดี หลังบินตรวจสภาพป่าเมืองตากพบการกระทำผิดเพียบ
วันนี้ (2 มี.ค.) นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานการประชุมคณะกรมการจังหวัดตาก โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมชี้แจงและฟังบรรยายสรุปการทำงานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ณ ห้องประชุมอาคารราชพฤกษ์ เขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา
โดยที่ประชุมมีเรื่องที่สำคัญอยู่หลายเรื่อง เช่น การมอบเกียรติบัตรแก่นักเรียน และผู้ฝึกสอนการแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 30 ความคืบหน้าการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดตาก ประจำปี 2553 การเตรียมความพร้อมรับการมาเยือนของผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษเต๋อหง คือ นายหม้ง ปี้ กวง และคณะ ที่จะเดินทางมาเยือนเมืองตากพร้อมทำพิธีลงนามสถาปนาการพัฒนาร่วมทางเศรษฐกิจ-สังคม-ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในลักษณะเมืองคู่แฝด ระหว่างวันที่ 21-27 มีนาคม 2552 และสรุปการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี 2552 ของส่วนราชการต่างๆ
รวมทั้งการดำเนินงานสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการภูมิปัญญาแผ่นดิน ขยายผลสู่ปวงชนชาวไทย โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนบนพื้นที่สูงแบบบูรณาการ หรือโครงการชาวเขาพัฒนา การประกวดผลงานตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การเร่งรัดเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตาก
และเรื่องสำคัญ คือ การตรวจพบการกระทำความผิดกฎหมาย ว่าด้วยการป่าไม้ใน พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าสามหมื่น อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก และการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลป้องกันและระงับไฟป่า 24 ชั่วโมง
ผู้ว่าราชการจังหวัดตากกล่าวว่า จากการที่ได้ขึ้นบินตรวจสภาพป่า และหามาตรการป้องกันไฟป่า ระหว่างวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พบว่า สภาพป่าถูกบุกรุกแผ้วถาง เพื่อทำการเกษตรเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดน และสามารถตรวจยึดไม้สักท่อน และไม้สักแปรรูปได้จำนวนหนึ่ง
สาเหตุที่ยังคงมีการบุกรุก เนื่องจากถูกละเลยจากเจ้าหน้าที่ ที่มีหน้าที่ดูแล ชาวบ้านบุกรุกเข้าทำกิน ตัดไม้ขาย บางที่เตรียมเผา เพื่อทำการเกษตรในฤดูฝน คาดว่า น่าจะมีนายทุนสนับสนุน ซึ่งหากไม่เข้มงวดในเรื่องนี้ พื้นที่ป่าไม้คงหมดไป ภัยธรรมชาติจะตามมา เหมือนกับที่เคยเกิดดินโคลนถล่ม ที่อำเภอแม่ระมาด เมื่อประมาณ ปี 2548 ที่ผ่านมา
ส่วนคดีเรื่องการกระทำความผิดเกี่ยวกับป่าไม้นั้น ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ พนักงานสอบสวนต้องเข้มแข็ง เพื่อหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ นอกจากนี้ได้ให้หน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอำเภอ ให้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ ที่พบการบุกรุก หากใครเข้าไปทำกิน จะต้องถูกจับดำเนินคดี รวมทั้งหมู่บ้านที่มีปัญหา หากพบการบุกรุกป่า จะต้องย้ายออก
ขณะเดียวกัน ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจในพื้นที่ ที่อาจจะมีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า โดยได้มอบนโยบายเรื่องนี้ให้แก่นายอำเภอทุกอำเภอแล้ว