เชียงราย – “สุชาติ” ได้ทีขย่มรัฐบาล “มาร์ค 1” กลางวงสัมมนาของ นศ.มรช.พร้อมถล่มนโยบาย ปชป.แจกเงินฟรี ระบุ ไม่เกิดการจ้างงาน มีสิทธิ์ก่อปัญหาเงินเฟ้อซ้ำ ฉวยโอกาสยกก้น “แม้ว”-หนุนเสื้อแดง นศ.ราชภัฏ อ้าง “ทักษิณ” แม้จะผิดแต่ไม่มาก แต่กลับถูกกระทำจนเกินกรรมที่ทำไว้ เชื่อ “วันหนึ่งแม้วต้องกลับมา” ขณะที่นักศึกษาที่เข้าร่วมสัมมนาชี้ใช้ได้แค่บางส่วนเท่านั้น
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (26 ก.พ.) รศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเดช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางไปเป็นวิทยากรในการบรรยายเรื่อง “ทิศทางเศรษฐกิจไทยในอนาคต” ซึ่งจัดโดยนักศึกษารัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต รุ่นที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มรช.) ณ หอประชุมกาสะลองคำ มรช.โดยมีประชาชนทั่วไปและนักศึกษาทั้งภาคมหาบัณฑิตและปกติเข้าร่วมรับฟังประมาณ 150 คน
รศ.ดร.สุชาติ นำร่องด้วยการชี้ว่า ปัญหาของประเทศไทยนับจากนี้เกิดจากปัญหาจากด้านเศรษฐกิจและปัญหาการเมืองภายในประเทศ โดยกรณีปัญหาการเมืองนั้นเกิดจากการต่อสู้กันของกลุ่ม “อภิสิทธิ์ชน” ที่ไม่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงกับกลุ่มคนยากคนจนที่อยากให้ฐานะดีขึ้น ก่อให้เกิดกลุ่มคนสีเหลืองและสีแดง ดังนั้น ตราบใดที่มีปัญหานี้อยู่สังคมไทยก็จะยุ่งอยู่อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ แต่ถ้าสีเหลืองและแดงกลับมารวมกันได้ก็จะสามารถพัฒนาต่อไปได้
รศ.ดร.สุชาติ กล่าวว่า ดังนั้น คาดว่า ในปีนี้เศรษฐกิจของประเทศจะโตไม่เกิน 4% และผลผลิตของชาติจะมีเพียง 8.8 ล้านล้านบาท จากเดิมปี 2551 มีถึง 9.1 ล้านล้านบาท ทำให้ในปี 2552 ตนคาดว่า จะมีคนตกงานกว่า 1.5-2 ล้านบาท
ดังนั้น รัฐบาลจึงควรจะระดมเม็ดเงินให้เข้าไปถึงประชาชนให้มากขึ้นและโดยเร็ว เพื่อให้เกิดการสร้างงานอันจะเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไปพร้อมกับกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ตนไม่เห็นด้วยที่จะนำเงินไปแจกฟรีๆ โดยไม่เกิดการจ้างงาน เพราะตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้วการแจกเงินไม่ได้ทำให้ภาคการผลิตเพิ่มขึ้น ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศก็คงจะเหมือนเดิม โดยสรุปแล้ว คือ รัฐบาลต้องเพิ่มงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้มากขึ้นและทำให้เกิดการจ้างงาน แต่ถ้าแจกแล้วไม่มีการจ้างงานก็กลับจะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อขึ้นมาเสียอีก
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังแนะวิธีแก้ไขปัญหาอีกว่ามีอยู่ 5 ประการ คือ การจัดสรรงบประมาณไปยังประชาชนระดับรากหญ้าผ่านโครงการต่างๆ การพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพแทนการแจกจ่าย การทำให้ระบบประเทศมีความชัดเจนแน่นอน การดำเนินกฎหมายอย่างเต็มที่และถูกต้อง และมีการเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ซึ่งถ้าไม่ทำให้ดีตามนี้เศรษฐกิจในอนาคตก็คงจะโตเพียงแค่ปีละ 2-3% ไปเรื่อยๆ และคนที่จบการศึกษาออกมาปีละกว่า 400,000-500,000 คน จะหางานยาก แตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม กัมพูชา ลาว ฯลฯ ที่เขามีอัตราการเจริญเติบโตล้ำหน้าประเทศไทยไปแล้วกว่า 7-8%
“แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เศรษฐกิจอย่างเดียว ถ้ามีเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจเราก็ใช้หลักเศรษฐศาสตร์และเครื่องมือต่างๆ ในการแก้ไข แต่ประเทศไทยเราลึกซึ้งกว่านั้นคือการแยกฝักแยกฝ่ายระหว่างผู้ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงกับฝ่ายที่ไม่พร้อม” รศ.ดร.สุชาติ กล่าวในตอนหนึ่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการบรรยายครั้งนี้ รศ.ดร.สุชาติ ได้พยายามกล่าวสนับสนุนกลุ่มคนเสื้องแดงและระบอบทักษิณอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการระบุว่า “คนเสื้อแดงที่ไปชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อเทียบกับคนเสื้อเหลืองแล้วมีฐานะยากจนกว่า”
“คุณทักษิณเป็นคนหนึ่งที่อาจจะผิดบ้างแต่เชื่อว่าคงไม่ผิดมากมาย เป็นไปไม่ได้ที่จะโดนกระทำมากขนาดนี้เพราะฉะนั้นวันหนึ่งจะต้องกลับมาละ”
“วันนี้เรายังอยู่ในระบบรัฐประหารแต่ไม่ได้รัฐประหารโดยอาวุธแต่โดยอำนาจต่างๆ มีการลงโทษบางกลุ่ม เช่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มากจนเกินกรรมที่ทำไว้” เป็นต้น
นายบันเทิง เครือวงศ์ ตัวแทนนักศึกษารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต รุ่นที่ 4 มรช.กล่าวว่า การได้วิทยากรที่เป็นอดีตรัฐมนตรีไปบรรยายถือเป็นสิ่งที่ดีเพราะทำให้นักศึกษาได้รับรู้ข้อมูลในระบบมหภาค
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ได้จากการบรรยายคงไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด โดยสิ่งที่สามารถนำมาได้ใช้คือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวันในพื้นที่ภูมิภาค ส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและเศรษฐกิจมหภาคคงจะรับรู้เอาไว้เท่านั้นส่วนใครจะเชื่ออย่างไรถือเป็นเรื่องส่วนตัวไป