น่าน - สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เช้าอากาศเย็น กลางวันร้อนจัด ส่งผลทำให้คนล้มป่วย โดยเฉพาะเด็กเล็กเป็นโรคภูมิแพ้และทางเดินหายใจมากวันละไม่ต่ำกว่า 200 ราย
รายงานข่าวจากจังหวัดน่าน แจ้งว่า จากสภาพอากาศแปรปรวน โดยอุณหภูมิแตกต่างมากระหว่างช่วงเช้ามืดกับตอนกลางวัน โดยช่วงเช้าอากาศยังคงหนาวเย็นอุณหภูมิอยู่ที่ไม่เกิน 17 องศาเซลเซียส ทำให้ผู้คนโดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานกันแต่เช้า จำพวกพ่อค้า แม่ค้าและผู้ทีไปจับจ่ายซื้อของตามตลาดเช้าต้องสวมเสื้อกันหนาวกันอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนตอนกลางวันอุณหภูมิสูงขึ้นที่ 38.8 องศาเซลเซียส ถือว่าร้อนจัด จนร่างกายรู้สึกอ่อนเพลียกับการสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เด็กเล็ก และ ผู้สูงอายุ หลายคนร่างกายปรับสภาพไม่ไหวต้องล้มป่วยโดยเฉพาะเด็กเล็ก
นายแพทย์ นิวัฒน์ชัย สุจริตจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน เปิดเผยว่า ช่วงนี้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลน่านทั้งเด็กเล็กและผู้สูงอายุเฉลี่ยวันละ 200 คน โดยในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนนี้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 คน โดยเด็กเล็กจะมีอาการเป็นไข้หวัด มีน้ำมูกไหล ไอเจ็บคอ ส่วนผู้สูงอายุมีอาการเหนื่อยหอบ หายใจติดขัด ซึ่งแพทย์จะให้รักษานอนโรงพยาบาล 2 วัน อาการดีขึ้นจึ้งให้กลับบ้าน อย่างไรก็ตามยังไม่ถึงขั้นมีผู้ป่วยอาการหนัก หรือเสียชีวิต
สำหรับการป้องกันนั้น หากเป็นเด็กเล็กให้ดื่มไม้ผลไม้และนมโดยเฉพาะนมถั่วเหลืองให้มาก ส่วนผู้ใหญ่ให้ดื่มน้ำผลไม้และน้ำเย็นสลับกัน 1 ชั่วโมง ตอนกลางคืน และตอนเช้ามืด ต้องสวมเสื้อผ้าที่หนาทำร่างกายให้อบอุ่น ส่วนตอนกลางวันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องเหลีกเลี่ยงการตากแดดร้อนจัด
รายงานข่าวจากจังหวัดน่าน แจ้งว่า จากสภาพอากาศแปรปรวน โดยอุณหภูมิแตกต่างมากระหว่างช่วงเช้ามืดกับตอนกลางวัน โดยช่วงเช้าอากาศยังคงหนาวเย็นอุณหภูมิอยู่ที่ไม่เกิน 17 องศาเซลเซียส ทำให้ผู้คนโดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานกันแต่เช้า จำพวกพ่อค้า แม่ค้าและผู้ทีไปจับจ่ายซื้อของตามตลาดเช้าต้องสวมเสื้อกันหนาวกันอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนตอนกลางวันอุณหภูมิสูงขึ้นที่ 38.8 องศาเซลเซียส ถือว่าร้อนจัด จนร่างกายรู้สึกอ่อนเพลียกับการสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เด็กเล็ก และ ผู้สูงอายุ หลายคนร่างกายปรับสภาพไม่ไหวต้องล้มป่วยโดยเฉพาะเด็กเล็ก
นายแพทย์ นิวัฒน์ชัย สุจริตจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน เปิดเผยว่า ช่วงนี้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลน่านทั้งเด็กเล็กและผู้สูงอายุเฉลี่ยวันละ 200 คน โดยในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนนี้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 คน โดยเด็กเล็กจะมีอาการเป็นไข้หวัด มีน้ำมูกไหล ไอเจ็บคอ ส่วนผู้สูงอายุมีอาการเหนื่อยหอบ หายใจติดขัด ซึ่งแพทย์จะให้รักษานอนโรงพยาบาล 2 วัน อาการดีขึ้นจึ้งให้กลับบ้าน อย่างไรก็ตามยังไม่ถึงขั้นมีผู้ป่วยอาการหนัก หรือเสียชีวิต
สำหรับการป้องกันนั้น หากเป็นเด็กเล็กให้ดื่มไม้ผลไม้และนมโดยเฉพาะนมถั่วเหลืองให้มาก ส่วนผู้ใหญ่ให้ดื่มน้ำผลไม้และน้ำเย็นสลับกัน 1 ชั่วโมง ตอนกลางคืน และตอนเช้ามืด ต้องสวมเสื้อผ้าที่หนาทำร่างกายให้อบอุ่น ส่วนตอนกลางวันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องเหลีกเลี่ยงการตากแดดร้อนจัด