บุรีรัมย์ - สภาพอากาศหนาวเย็นลงต่อเนื่อง ทำให้ปชช.ชาวบุรีรัมย์ล้มป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเข้ามารับการรักษาที่รพ.ศูนย์บุรีรัมย์เพียงแห่งเดียววันละกว่า 200 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็ก-คนชรา จากปกติมีเพียงวันละ 30-40 รายเท่านั้น เผยมีผู้ป่วยเกิดจากไฟไหม้จากผิงไฟคลายหนาว เข้ารักษาแล้วกว่า 10 ราย เตือนก่อไฟผิงคลายหนาวระวังลุกไหม้บ้านเรือน
วันนี้ (15 ม.ค.) นพ.พิเชฐ อังศุวัชรากร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนเกิดล้มป่วยด้วยโรคหวัด ปอดบวม และเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เข้ามารับการตรวจรักษาเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์เพียงแห่งเดียว มีประชาชนเข้ามารับการตรวจรักษาเฉลี่ยวันละกว่า 200 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก และผู้สูงอายุ เนื่องจากมีสภาพร่างกายอ่อนแอภูมิต้านทานต่ำ จากปกติจะมีผู้ป่วยเข้ามารับการตรวจรักษาเพียงวันละ 30-40 รายเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนรายใด พบว่ามีอาการป่วยด้วยโรคหวัด หรือโรคระบบทางเดินหายใจ ให้รีบพบแพทย์โดยเร็ว ก่อนที่จะมีอาการป่วยรุนแรง จนถึงขั้นช็อคเสียชีวิตได้ จึงขอเตือนประชาชนทั้งเด็ก และผู้สูงอายุ ควรดูแลสุขภาพสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ เพื่อให้ร่างกายมีความอบอุ่น พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ก็จะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดล้มป่วยได้
นพ.พิเชฐ อังศุวัชรากร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยที่มีบาดแผลเกิดจากไฟลวก หรือไฟไหม้ตามร่างกาย เข้ามารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลแล้วกว่า 10 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการก่อไฟผิงเพื่อคลายความหนาวเย็น ภายในบ้านในช่วงกลางคืนแล้วเกิดเผลอหลับ ไม่ระมัดระวังจนทำให้ไฟลุกลามไหม้ตามร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งพบว่าส่วนมากจะเป็นคนชรา แต่โชคดีที่ยังไม่พบผู้ป่วยที่ถูกไฟไหม้ถึงขั้นอาการหนัก หรือเสียชีวิต
ดังนั้น ประชาชนที่นิยมก่อไฟผิงเพื่อบรรเทาความหนาวเย็นในช่วงนี้ ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเกรงจะเกิดไฟลุกลามไหม้บ้านเรือน และอาจทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตได้
“ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการก่อไฟผิงคลายหนาว ควรที่จะสวมใส่เสื้อ และห่มผ้าหนาๆ ให้ร่างกายอบอุ่นจะดีกว่า ไม่เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งอาจสร้างความสูญเสียทั้งแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีสภาพอากาศแห้ง และลมกระโชกแรง” นพ.พิเชฐ กล่าว
