ปราจีนบุรี - จังหวัดปราจีนบุรีจัดโครงการข้าวก้นบาตร ช่วยชาติประชาชนบรรเทาวิกฤตเศรษฐกิจ โดยนำอาหารที่ได้จากการบิณฑบาตเมื่อพระภิกษุสงฆ์ฉันแล้ว จะนำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ที่อยู่ใกล้บริเวณวัด
นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยถึงวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นเริ่มส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว
จากปัญหาดังกล่าวรัฐบาลได้เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยกำหนดเป็นนโยบาย 2 ระยะ คือ นโยบายเร่งด่วน เป็นการสร้างความเชื่อมั่น และกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม ด้วยการจัดทำแผนฟื้นฟูระยะสั้นลงสู่ภาคเกษตรและเกษตรกร ภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ และการท่องเที่ยว รวมไปถึงการเร่งดำเนินการในเรื่องการส่งออก เรื่องอสังหาริมทรัพย์ การสร้างงานและสร้างรายได้ในชนบท การพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติและฟื้นฟูทรัพยากร เพื่อกระจายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและเพื่อบรรเทาภาวะความเดือดร้อนของประชาชน กับมาตรการการเพิ่มรายได้ของประชาชน ด้วยการร่วมมือกับภาคเอกชนชะลอการเลิกจ้างงาน การรองรับแรงงานว่างงานจากภาคอุตสาหกรรมเข้าฝึกงาน และการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ถูกเลิกจ้างอันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจ ด้วยการหางานใหม่ หรือการส่งเสริมให้ประกอบอาชีพอิสระ
จังหวัดปราจีนบุรี นอกจากเร่งดำเนินการตามนโยบายของรัฐในการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ว่างงานในทุกรูปแบบแล้ว ได้บูรณาการทุกภาคส่วนให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการจัดตลาดนัดแรงงาน การจำหน่ายสินค้าธงฟ้าเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบวิกฤตเศรษฐกิจ การจัดศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เลิกจ้าง การแนะนำให้ความช่วยเหลือกลุ่ม SMEs อุตสาหกรรม เพื่อให้ความรู้ด้านแหล่งเงินทุน และเปิดคลินิกให้คำปรึกษา รวมทั้งได้ดำเนินการขอความอนุเคราะห์จากคณะสงฆ์จังหวัดปราจีนบุรี คือ ขอความอนุเคราะห์จากพระราชภัทรธาดา เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี ฝ่ายมหานิกาย และพระราชปราจีนมุนี เจ้าคณะจังหวัดปราจีน-สระแก้ว ฝ่ายธรรมยุต น้อมนำโครงการ “ข้าวก้นบาตรช่วยชาติช่วยประชาบรรเทาวิกฤตภัยเศรษฐกิจ”
ทั้งนี้ มีวัดทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 367 วัด ให้ความร่วมมือ มีหลักการว่าจะนำอาหารที่ได้จากการบิณฑบาตเมื่อพระภิกษุสงฆ์ฉันแล้ว จะนำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน นักเรียน นักศึกษาที่อยู่ใกล้บริเวณวัด กับจะนำเครื่องอัฐบริขารที่ได้รับจากญาติโยมที่เหลือใช้ เหลือเก็บออกแจกจ่ายเพื่อเป็นธรรมทาน ซึ่งทุกแห่งก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โครงการนี้จะเป็นโครงการหนึ่ง ที่จะทำให้ประชาชนได้สำนึกในธรรมทานที่พระคุณเจ้าแต่ละวัดดำเนินการให้เป็นการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันสมกับคำว่า “บวร” คือ บ้าน วัด โรงเรียน อาศัยพึ่งพากันและกันเพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบต่อไปด้วย
นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยถึงวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นเริ่มส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว
จากปัญหาดังกล่าวรัฐบาลได้เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยกำหนดเป็นนโยบาย 2 ระยะ คือ นโยบายเร่งด่วน เป็นการสร้างความเชื่อมั่น และกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม ด้วยการจัดทำแผนฟื้นฟูระยะสั้นลงสู่ภาคเกษตรและเกษตรกร ภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ และการท่องเที่ยว รวมไปถึงการเร่งดำเนินการในเรื่องการส่งออก เรื่องอสังหาริมทรัพย์ การสร้างงานและสร้างรายได้ในชนบท การพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติและฟื้นฟูทรัพยากร เพื่อกระจายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและเพื่อบรรเทาภาวะความเดือดร้อนของประชาชน กับมาตรการการเพิ่มรายได้ของประชาชน ด้วยการร่วมมือกับภาคเอกชนชะลอการเลิกจ้างงาน การรองรับแรงงานว่างงานจากภาคอุตสาหกรรมเข้าฝึกงาน และการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ถูกเลิกจ้างอันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจ ด้วยการหางานใหม่ หรือการส่งเสริมให้ประกอบอาชีพอิสระ
จังหวัดปราจีนบุรี นอกจากเร่งดำเนินการตามนโยบายของรัฐในการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ว่างงานในทุกรูปแบบแล้ว ได้บูรณาการทุกภาคส่วนให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการจัดตลาดนัดแรงงาน การจำหน่ายสินค้าธงฟ้าเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบวิกฤตเศรษฐกิจ การจัดศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เลิกจ้าง การแนะนำให้ความช่วยเหลือกลุ่ม SMEs อุตสาหกรรม เพื่อให้ความรู้ด้านแหล่งเงินทุน และเปิดคลินิกให้คำปรึกษา รวมทั้งได้ดำเนินการขอความอนุเคราะห์จากคณะสงฆ์จังหวัดปราจีนบุรี คือ ขอความอนุเคราะห์จากพระราชภัทรธาดา เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี ฝ่ายมหานิกาย และพระราชปราจีนมุนี เจ้าคณะจังหวัดปราจีน-สระแก้ว ฝ่ายธรรมยุต น้อมนำโครงการ “ข้าวก้นบาตรช่วยชาติช่วยประชาบรรเทาวิกฤตภัยเศรษฐกิจ”
ทั้งนี้ มีวัดทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 367 วัด ให้ความร่วมมือ มีหลักการว่าจะนำอาหารที่ได้จากการบิณฑบาตเมื่อพระภิกษุสงฆ์ฉันแล้ว จะนำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน นักเรียน นักศึกษาที่อยู่ใกล้บริเวณวัด กับจะนำเครื่องอัฐบริขารที่ได้รับจากญาติโยมที่เหลือใช้ เหลือเก็บออกแจกจ่ายเพื่อเป็นธรรมทาน ซึ่งทุกแห่งก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โครงการนี้จะเป็นโครงการหนึ่ง ที่จะทำให้ประชาชนได้สำนึกในธรรมทานที่พระคุณเจ้าแต่ละวัดดำเนินการให้เป็นการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันสมกับคำว่า “บวร” คือ บ้าน วัด โรงเรียน อาศัยพึ่งพากันและกันเพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบต่อไปด้วย