วธ.อึ้งเจอ “พี้กัญชา” โผล่ไฮไฟว์ ด้านศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ตรวจสอบข้อมูล พบ สิงห์อมควัน พ่นควันโขมง โชว์บ้องจะจะ หวั่นเด็กเลียนแบบ เร่งนำภาพส่ง สตช.พิสูจน์หาคนในภาพ-เจ้าของไฮไฟว์ ขณะที่ รมว.วัฒนธรรม สั่งทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแก้ปัญหา นศ.ขายบริการ พร้อมประสานผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตช่วยสอดส่อง
วันนี้ (2 ก.พ.) ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) น.ส. ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ตนได้รับ Foreword mail จากเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ร้องเรียนเกี่ยวกับการโพสต์ภาพสูบกัญชาบนเว็บไฮไฟว์ โดยใช้ชื่อ “ชาเขียวใบไม้เมา” ว่า ผิดกฎหมายหรือไม่ ดังนั้น ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม จึงทำการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว พบว่า ภาพที่นำมาโพสต์บนไฮไฟว์ เป็นภาพชายประมาณ 3-4 คน กำลังจับกลุ่มสูบกัญชา ซึ่งลักษณะของภาพแสดงวิธีการสูบกัญชาให้เห็นอย่างเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็น บ้องกัญชา การจุดไฟ การสูบ ลักษณะอาการของคนที่สูบบ้องกัญชา การพ่นควัน เมายา ส่วนสถานที่สูบกัญชาภายในภาพจะสังเกตได้ว่า เป็นกระท่อมไม้ไผ่
ดังนั้น ศูนย์เฝ้าระวังจะดำเนินการส่งภาพ และข้อมูลของเจ้าของไฮไฟว์ ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินการพิสูจน์ว่า คนที่ปรากฏบนภาพเป็นใคร และเจ้าของนำภาพเหล่านี้มาลงบนไฮไฟว์มาได้อย่างไร
น.ส.ลัดดา กล่าวต่อไปว่า การนำภาพบุคคลสูบยาเสพติดและแสดงวิธีการมานำเสนอบนเว็บไซต์ ถือว่า ไม่เหมาะสม แต่การสูบกัญชาถึงแม้จะที่ใดก็ตามถือว่า มีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งการนำภาพลักษณะนี้มาโพสต์บนเว็บไฮไฟว์ จะเป็นแบบอย่างไม่ดีให้แก่เด็กและเยาวชน อย่างไรก็ตาม ตนจะทำรายงานเรื่องดังกล่าวเสนอต่อ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัด วธ.เพื่อนำเสนอให้ นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม รับทราบต่อไป
“ต้องขอบคุณประชาชนที่ร่วมกันดูแลสอดส่องพฤติกรรมที่ไม่ดีของเด็กและเยาวชน รวมทั้งส่งเรื่องร้องเรียนที่ไม่เหมาะสมเข้ามายังศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ถึงแม้จะเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น แต่สามารถกระตุ้นสังคมให้เกิดการตื่นตัวกับสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่จะเกิดขึ้นกับสังคมไทยของเรา”ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าว
น.ส.ลัดดา กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้ากรณีการขายบริการผ่านอินเทอร์เน็ตนั้น ตนเองได้รับคำสั่งจาก นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม ให้จัดทำหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อช่วยกันดูแลเรื่องนักศึกษาขายบริการ ร่วมทั้งหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหา
นอกจากนี้ รมว.วัฒนธรรม ยังมอบหมายให้ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ประสานผู้ประกอบการให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยขอความร่วมมือให้ช่วยตรวจสอบโฆษณา ข้อมูลขายบริการตามเว็บไซต์ต่างๆ หากพบเจอให้ช่วยแจ้งมายังวธ.และดำเนินการนำข้อมูลที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวออกจากเว็บไซด์ด้วย ส่วนการตรวจสอบข้อมูลการขายบริการผ่านเว็บไซต์ล่าสุด พบว่า ภาพการขายบริการตามเว็บไซต์ต่างๆ ลดลง แต่บางเว็บใช้การหลีกเลี่ยงชื่อในการขายบริการ โดยการเปลี่ยนชื่อเป็นเว็บขายรถ หรือขายบ้านแทน แต่เมื่อคลิกเข้าไปกลับพบมีการขายบริการเช่นเดิม ทั้งนี้ จึงอยากให้กระทรวงไอซีทีเข้ามาตรวจสอบดูอีกครั้ง
