ตาก – คลินิกหมอ “ซินเธีย หม่อง” เจ้าของรางวัลแมกไซไซ จัดงานครบรอบ 20 ปี การก่อตั้งสถานพยาบาล เผย รักษาผู้ป่วยพม่าในปีที่ผ่านมามากถึง 150,000 คน พร้อมทำนายเลือกตั้งพม่าประชาชนไม่ได้ประโยชน์-ไม่ยุติธรรม ถึงอย่างไรทหารก็กลับมามีอำนาจ
วันนี้ (19 ก.พ.) แพทย์หญิงซินเธีย หม่อง แพทย์เจ้าของคลีนิกแม่ตาว หรือ หรือคลิกหมอซินเธีย ถนสายแม่สอด-ริมเมย ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จ.ตาก ได้เป็นประธานการจัดงานครบรอบ 20 ปีแห่งการก่อตั้งคลินิกแม่ตาว โดยมีคณะแพทย์อาสาสมัครจากต่างประเทศ และแพทย์จากโรงพยาบาลแม่สอด ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ กรรมการชุมชน ชาวพม่าเชื้อสายต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่คลินิก ทั้งหมดกว่า 1,500 คน เข้าร่วมงาน
ในงานมีการมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณ ให้กับผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับคลินิกทั้งชาวไทย ชาวต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ชาวพม่า นอกจากนี้ ยังมีนักเรียน นักศึกษาชาวพม่าไปร่วมงานด้วย ซึ่งในงานเริ่มจากแพทย์หญิงซินเธียหม่องขึ้นไปกล่าวต้อนรับ และเปิดงาน หลังจากนั้น จึงมีการเชิญผู้ไปร่วมงานกล่าว และจบด้วยการแสดงของชาวกะเหรี่ยง ตลอดจนการจัดนิทรรศการต่างๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของคลินิกด้วย
สำหรับคลินิกแม่ตาว ได้เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1988 โดยแพทย์หญิงซินเธีย หม่อง เป็นผู้ก่อตั้ง เริ่มจากการรักษานักศึกษาพม่าที่ลี้ภัยการเมืองไปอยู่ตามแนวชายแดนไทย-พม่า ด้าน จ.ตาก จากนั้นมีการพัฒนาเปิดบริการรักษาฟรีให้กับชาวพม่าทั่วไปจนถึงปัจจุบัน
ในปี ค.ศ.2008 มีชาวพม่าตามแนวชายแดน และจากจังหวัดต่างๆ ในประเทศพม่า เดินทางไปรักษาที่คลินิกมากถึง 150,000 คน ปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้าไปรับการรักษาวันละ 300 คน ซึ่งสามารถแบ่งเบาภาระให้กับโรงพยาบาลแม่สอดได้เป็นอย่างดี
ส่วน แพทย์หญิงซินเธีย หม่อง ได้รับรางวัลเกียรติยศ รางวัลเด็กโลกเพื่อสิทธิเด็ก ประจำปี 2550 จากสมาคมเด็กโลกประเทศสวีเดน, รางวัลสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตยแห่งเอเชีย ปี 2550 จากมูลนิธิไต้หวันเพื่อประชาธิปไตย, รางวัลนานาชาติ แคตตาโลเนีย ปี 2551 ร่วมกับนางอ่องซาน ซูจี, รางวัลแมกไซไซ สาขาผู้นำชุมชน และขณะนี้ยังได้รับการเสนอชื่อเพื่อรับรางวัลโนเบล จากผู้ได้รับการพิจารณา 1,000 คนจากทั่วโลก
ตามประวัติส่วนตัว เธอเกิดที่ชานเมืองมะละแหม่ง (เมาะลำเลิง) รัฐมอญ เป็นชาวพม่า เชื้อสายกะเหรี่ยง เป็นบุตรสาวของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ส่วนมารดาเป็นแม่บ้าน มีพี่น้อง 7 คน และเป็นลูกคนที่ 3 อายุ 18 ปี หลังจบมัธยม ได้ไปเรียนวิชาการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง พ.ศ. 2523 หลังจบแพทย์ปี ค.ศ.1986 ได้ไปทำงานอยู่ในคลินิก
จากนั้นจึงย้ายไปทำงานในรัฐกะเหรี่ยง ต่อมาได้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบในพม่า ซึ่งตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมในเดินขบวนชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยปี ค.ศ.1988 ด้วย จากนั้นจึงลี้ภัยมาเมืองไทยหลังจากทหารยึดอำนาจ และออกปราบปรามผู้ชุมนุม
แพทย์หญิงซินเธีย หม่อง ได้ให้สัมภาษณ์ที่บ้านพัก หลังเปิดกิจกรรมงานครบรอบ 20 ปี คลินิกแม่ตาว ว่า สถานการณ์ โรคระบาดปีนี้ น่าจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา โรคเฉพาะโรคมาเลเรีย ซึ่งแต่ละปีจะมีคนติดเชื้อและเข้ารักษามากกว่า 6,000 คน ปี 2552 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 30%
“สิ่งที่น่ากลัวคือมีคนไข้ติดเชื้อ HIV มารักษา มากกว่า 300 คน ทีมแพทย์และพยาบาลต้องดูแลใกล้ชิด” พญ.ซินเธีย กล่าวในที่สุด
ส่วนการเลือกตั้งใหญ่พม่า ในปี 2553 หลังได้รับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น เธอ กล่าวว่า ผู้นำทหารพม่าจะจัดการเลือกตั้งอย่างไรก็จัดไป ไม่มีทางที่จะมีความเป็นธรรม ใครชนะกลุ่มอำนาจทหารก็ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี มีตัวอย่างให้เห็นสมัย นางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรค NLD มาแล้ว ชนะเลือกตั้งถล่มทลายแต่ฝ่ายผู้นำทหารไม่ยอมให้อำนาจ
ดังนั้น การเลือกตั้งในพม่าที่จะมีขึ้นประชาชนพม่าแทบไม่ด้ประโยชน์เลย แต่เหมือนเป็นการแสดงให้ชาวโลกเห็นว่าพม่ามีการเลือกตั้งและเป็นประชาธิปไตยเท่านั้นเอง เหมือนฉากหนึ่งของการล้างภาพเผด็จการเท่านั้น
