กาฬสินธุ์ - แม่ค้าขายกล้วยตลาดทุ่งนาทอง เมืองกาฬสินธุ์ สุดซวยโดนสาวแสบฉกเงินซึ่งหน้า 120,000 บาท ตำรวจส่งกำลังไล่ล่า คาดเป็นคนเดียวกันกับที่ก่อเหตุลักทรัพย์ในร้านเสริมสวยมาแล้วหลายครั้งจนถูกออกหมายจับ 4 คดี
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (19 ก.พ.) พ.ต.ท.ลังสรร ประคำ สารวัตรเวร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์แม่ค้าในตลาดสดทุ่งนาทอง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย ร.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พร้อมวิทยุแจ้งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกสกัดคนร้ายตามสถานที่ต่างๆ
โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณแผงจำหน่ายผลไม้ ภายในตลาดทุ่งนาทอง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ มีพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนมุ่งดูเหตุการณ์ และมีประชาชนจับจ่ายซื้อของจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พบ นางอ่อนจันทร์ ทองจำปี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ม.6 ต.บึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ยืนรอเจ้าหน้าที่ด้วยสีน่าตกใจ
นางอ่อนจันทร์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีผู้หญิงอายุประมาณ 30-35 ปี รูปร่างเตี้ย สวมเสื้อยืดสีเขียวทับด้วยเสื้อแขนยาวสีนำตาล นุ่งกางขาสั่นเดินเข้ามาเลือกซื้อกล้วย พร้อมสั่งกล้วยจำนวน 4 หวี ขณะเดียวกัน ก็มีลูกค้าอีกประมาณ 3-4 คน ก็กำลังเลือกซื้อกล้วยเช่นกัน โดยระหว่างที่ตนกำลังทอนเงินให้กับลูกค้า หญิงดังกล่าวก็แอบเดินมาข้างหลัง
จากนั้นตนจึงหันหลังกลับมาปรากฏว่าหญิงคนดังกล่าวก็หนีไปแล้วพร้อมกับเอากระเป๋าสะพานเอวของตนไปด้วย โดยข้างในมีบัตรประจำตัวประชาชน และเงินสด 120,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ขายข้าวได้ และเตรียมที่จะนำไปฝากธนาคาร ตนจึงตะโกนให้คนช่วยและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมาเจ้าพบกระเป๋าคาดเอว สีน้ำตาลของผู้เสียหายทิ้งอยู่บริเวณหน้าร้านขายยา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร โดยข้างในเงินถูกนำออกไปจนหมด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและนำไปตรวจลายนิ้วมือของคนร้ายต่อไป
ร.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์และผู้เสียหาย เบื้องต้นคาดว่า คนร้ายจะติดตามผู้เสียหายมานานแล้ว พอสบโอกาสจึงลงมือก่อเหตุ โดยอาศัยช่วงที่เผลอ ทั้งนี้ จากพฤติกรรมของคนร้ายประกอบกับคำให้การของผู้เสียหายคาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นรายเดียวกันที่ก่อเหตุลักทรัพย์ในร้านเสริมสวยเมื่อช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
โดยผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นหญิงสาวอายุประมาณ 30 ปี ก่อเหตุลักทรัพย์ในร้านเสริมสวยมาแล้วหลายครั้ง จนถูกออกหมายจับมากถึง 4 หมาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและติดตามคนร้ายอย่างใกล้ชิดแล้ว
