รวบสิงห์ขี้ยาดักรอจี้ชิงทรัพย์เหยื่อหาเงินซื้อยาเสพ!

ตำรวจโรงพักราษฎร์บูรณะ จับกุมสองคู่หูขี้ยาขับ จยย.ไม่ติดป้ายทะเบียน ตระเวนหาเหยื่อนักศึกษา หรือเหยื่อที่เป็นผู้หญิง เพื่อเข้าประชิดจี้ชิงทรัพย์นำเงินซื้อยาบ้าเสพ

วันนี้ (31 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.พ.ต.อ.ดุสิต สมศักดิ์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ พ.ต.ท.ฉัตรา พาสุวรรณ รอง ผกก.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ พ.ต.ต.ณัฐจักร จันลา สว.สส. ร.ต.อ.สมโภชน์ อินทจักร รอง สว.สส.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายวิฑูรย์ หรือ มัด ยอดรัก อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 384/6 หมู่ 1 แขวงและเขตทุ่งครุ และ นายประพันธ์ หรือแสบ อินทร์เฉลิม อายุ 28 อยู่บ้านเลขที่ 289/13 หมู่ 1 แขวงและเขตทุ่งครุ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 87-88/2552 ลงวันที่ 31 ม.ค.2552 ในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ หรือรับของโจร

โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ที่ปากซอยประชาอุทิศ 37 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ ขณะทั้งคู่กำลังตระเวนดูลาดเลาเพื่อวิ่งราวทรัพย์เหยื่อ ก่อนนำตัวไปขยายผลตรวจค้นที่บ้านพักพบพร้อมของกลางรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีขาวคาดแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นคลิก ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง เครื่องเล่น MP 3 สีม่วง 1 เครื่อง ลูกกุญแจชนิดต่างๆ รวม 23 ดอก กระเป๋าสะพาย รวม 37 ใบ เครื่องสำอางค์จำนวนมาก และแผ่นป้ายทะเบียน ยนษ 450 กทม.ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนปลอมอีก 1 แผ่น

พ.ต.ต.ณัฐจักร เปิดเผยว่าการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.วานนี้ (30 ม.ค.) ขณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ กำลังออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันเหตุชิงทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ บริเวณถนนประชาอุทิศ เมื่อมาถึงปากซอยประชาอุทิศ 37 ก็พบผู้ต้องหาทั้งสองคนขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีขาวคาดแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ย้อนศรผ่านมาด้วยท่าทางมีพิรุธ จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ยอมรับสารภาพว่า กำลังมาดักวิ่งราวทรัพย์เหยื่อบริเวณดังกล่าว และที่ผ่านมาก็เคยตระเวนก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ส่วนใหญ่จะเลือกผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิง และนักศึกษา พอได้เงินมาก็จะเอาไปซื้อยาบ้ามาแบ่งกันเสพ ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ อย่างเช่นโทรศัพท์มือถือ ก็จะนำไปขายที่ร้านบูม ในศูนย์การค้าพระประเเดงพลาซ่า โดยตั้งแต่วันที่ 19-30 ม.ค.ที่ผ่านมา นำไปขายมาแล้วจำนวน 11 เครื่อง

พ.ต.ต.ณัฐจักร กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ จะเรียกเจ้าของร้านมือถือดังกล่าวมาสอบสวนว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่ หากพบว่ารู้เห็นด้วยก็จะจับกุมดำเนินคดี ทั้งนี้ ได้ประสานไปยังผู้เสียหายจำนวน 6 ราย ให้เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนแล้ว คาดว่า ยังมีอีกนับสิบรายที่เคยถูกผู้ต้องหาทั้งสองคนวิ่งราวทรัพย์ หากใครสงสัยว่าเคยตกเป็นเหยื่อก็ขอให้มาดูประวัติได้ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ