กลุ่มอุตฯอาหารทะเลแปรรูปภาคกลางปรับแผนการจัดการระบบ

ศูนย์ข่าวศรีราชา- กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปแช่แข็ง และซูริมิ ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาครและนิคมอุตสาหกรรมบางปู-สมุทรปราการ เตรียมปรับแผนการจัดการระบบดูแลธุรกิจ ลุยไตรมาสแรกของปี 52 เผยแผนพัฒนาระบบเทคโนโลยีภายในเป็นจุดแข็งในการสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาลูกค้า

เมื่อเร็วๆ นี้ น.ส.วันทนี แสงอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ลัคกี้ยูเนี่ยนฟู้ดส์ จำกัด โรงงานอุตสาหกรรมผลิตสินค้าแปรรูปซูริมิ ในเขตนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ให้การต้อนรับตัวแทนโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (ITAP) จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เดินทางไปเยี่ยมชมกิจการ เพื่อแนะนำและให้ข้อมูลเรื่องการพัฒนาระบบเทคโนโลยีในกลุ่มอุตสาหกรรมและ SMEs ในประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งนโยบายที่ สวทช.หวังให้กลุ่มธุรกิจดังกล่าวมีการพัฒนาให้ได้มาตรฐานระดับโลก อันจะนำประโยชน์มาสู่ธุรกิจและการขับเคลื่อนพลังของประเทศ

น.ส.วันทนี ให้ข้อมูลว่า บริษัทให้ความสำคัญเรื่องระบบซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาพัฒนาระบบการจัดการภายในเฉพาะส่วนโรงงาน ซึ่งที่ผ่านมาเคยใช้ซอฟต์แวร์ของต่างประเทศ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ตามคาดหมาย เพราะไม่เข้ากับบุคลากรซึ่งเป็นคนไทยที่ไม่มีความเข้าใจระบบอย่างแท้จริง ทั้งนี้ เรื่องระบบซอฟต์แวร์ที่เข้ามาช่วยในเรื่องของการจัดการทั้งหมดนั้น ต้องตอบโจทย์ให้ผู้ใช้ซึ่งเป็นคนไทยเข้าใจและใช้งานได้จริงด้วย

ในปี 2552 นี้ ทางบริษัทมีแผนจะเพิ่มศักยภาพด้านการผลิต ตั้งแต่ไตรมาสแรก โดยจะต่อยอดให้ระบบเทคโนโลยีของโรงงาน ที่จะสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นเพราะจะเป็นจุดแข็งที่ดีในสายตาลูกค้า เพราะเชื่อว่าได้มาตรฐานอย่างครบวงจร เนื่องจากลูกค้าของบริษัทกว่า 70% มาจากโซนยุโรป และปีนี้เตรียมเจาะฐานลูกค้าในกลุ่มเอเชียเพิ่มด้วย จึงสนใจในระบบซอฟต์แวร์ของคนไทยด้วยกันเอง เพราะสามารถตอบสนองความต้องการโดยตรงได้ง่ายกว่า

น.ส.วันทนี กล่าวอีกว่า หากบริษัทมีซอฟต์แวร์ที่ดี จะทำให้การจัดการดีขึ้น เพราะบริษัทไม่ใช้แรงงานต่างประเทศจะใช้แรงงานไทยล้วนๆ และต้องการจะลดไลน์ผลิตเพราะอยากให้พนักงานมีเวลาพักผ่อนเพิ่มมากขึ้น ระบบซอฟต์แวร์จะเข้ามาช่วยในเรื่องดังกล่าวได้เป็นอย่างดี โดยใช้งานระบบซอฟต์แวร์ให้มากกว่าเก่า ส่วนการใช้กำลังคนจะไม่มีการปรับลด แต่จะจัดให้พนักงานมีความเหมาะสมกับงานที่รับมอบหมาย เพราะจะได้ในเรื่องคุณภาพ

“เรามีซอฟต์แวร์จัดการด้านสิ่งแวดล้อม และการดำเนินการก็มีความน่าเชื่อถือในกลุ่มลูกค้าจนเป็นที่ยอมรับในมาตรฐานจนได้ ISO 9000 : 14000 และมีตัวแทนจาก BOI มาขอดูงานระบบวางแผน และเราจะเพิ่มเติมในปี 52 นี้ด้วยเช่นกัน เพราะจะมีการลงทุนเพิ่มโรงงานผลิตที่ประเทศโปแลนด์ แต่เราจะใช้แรงงานไทยทั้งหมด ระบบซอฟต์แวร์ดูแลและจัดการจึงน่าจะเป็นของคนไทยเพราะทำความเข้าใจได้ง่าย” น.ส.วันทนี ระบุ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทได้ใช้ระบบซอฟต์แวร์ของบริษัท จาสุมีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นรายเดียวของโลก ที่ดูแลกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปแช่แข็งและซูริมิ ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้เข้ามาช่วยเหลือในส่วนของการดูคุณภาพผลิตภัณฑ์ และการจัดเก็บรวมถึงการค้นหา และจะได้ปรับฐานระบบเทคโนโลยีของระบบทั้งหมด เพื่อตอบสนองความเข้าใจของพนักงาน โดยจะมีการจัดสถานที่ให้มีห้องวอร์รูม IT Centre ที่ควบคุมระบบซอฟต์แวร์โดยตรงเช่นกัน

ในส่วนของ ดร.ฐิติมา ตั้งเลิศไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินดัส (ไทยแลนด์) จำกัด กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปซูริมิ ในเขตนิคมอุตสาหกรรมบางปู สมุทรปราการ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนต่างชาติที่ให้คนไทยเป็นผู้บริหารจัดการธุรกิจ ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 เผยจากการเยี่ยมชมกิจการของ สวทช.ในครั้งนี้ด้วยว่า อดีตบริษัทดำเนินการผลิตสินค้าในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ไก่ ที่รัฐบาลนอร์เวย์ให้การสนับสนุนปล่อยเงินกู้ให้ประเทศกำลังพัฒนาอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ บริษัทเองนับเป็นรายแรกที่ผลิตสินค้าแปรรูปชุบแป้งทอด ที่ได้มาตรฐานสากลที่ส่งออกต่างประเทศเกือบ 100% จนมีการพัฒนาต่อยอดสินค่าในรูปแบต่างๆ ทั้งอาหารทะเลท้องถิ่นและนำเข้า, แซลมอนปรุงรสและผลิตภัณฑ์ซูริมิต่างๆ โดยเป็นฐานผลิตสำคัญเพราะเนื่องจากต่างชาติให้ความสำคัญของฝีมือคนไทยที่มีคุณภาพสูง จนขณะนี้มีไลน์การผลิตและส่งออกทั้งยุโรป, อเมริกา, อังกฤษ และสแกนดิเนเวีย

อย่างไรก็ตาม นโยบายหลักของบริษัทมุ่งเน้นในเรื่องของกระบวนการผลิต ชนิดที่ว่าดูถึงที่มาที่ไปของผลิตภัณฑ์ที่เป็นวัตถุดิบภายในประเทศไทย โดยให้ความสำคัญเรื่อง NGO และสิ่งแวดล้อมตลอดจนผลกระทบของชาวบ้านเป็นอันดับแรก โดยจะไม่มองแค่ผลกำไร ซึ่งจากผลกระทบด้านเศรษฐกิจโลก ทำให้บริษัทต้องมีการปรับกลยุทธ์เพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาสแรกแต่จะไม่มีการปรับลดจำนวนพนักงาน และในอนาคตอันใกล้จะดึงระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในเรื่องของการจัดการด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องรอรูปแบบจากบริษัทแม่เพื่อให้มีการทำงานเชิงบูรณาการอย่างแท้จริง