หอฯขอนแก่นผนึก สนช.ดันธุรกิจสร้างมูลค่าเพิ่มจากนวัตกรรม

ศูนย์ข่าวขอนแก่น -หอการค้าขอนแก่น จับมือสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เปิดตัวเครือข่ายธุรกิจนวัตกรรม ในพื้นที่ 4 จังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ หวังผลักดันธุรกิจในกลุ่มจังหวัดนำนวัตกรรมมาปรับใช้ สร้างมูลค่าเพิ่มกับธุรกิจ เผย 4 เดือน มีโครงการนวัตกรรมเกิดขึ้นแล้ว 3 โครงการ วงเงินสนับสนุนกว่า 1.2 ล้านบาท ตั้งเป้าสนับสนุนไม่ต่ำกว่า 10 โครงการ วงเงินสนับสนุนกว่า 20 ล้านบาท คาดเกิดการลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

เมื่อเร็วๆ นี้ หอการค้าจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับเครือข่ายธุรกิจนวัตกรรมร้อยแก่นมหากาฬ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) จัดกิจกรรมสัมมนาเรื่อง “ธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางการเกษตรในภาคอีสาน และเปิดตัวเครือข่ายธุรกิจนวัตกรรมร้อยแก่นมหากาฬ” โดยมีผู้ประกอบการธุรกิจในจังหวัดขอนแก่นและใกล้เคียงเข้าร่วมสัมมนาจำนวนมาก ณ ห้องฟ้ามุ่ย โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จังหวัดขอนแก่น

สำหรับเครือข่ายธุรกิจนวัตกรรมร้อยแก่นมหากาฬ เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บทบาทของเครือข่ายฯ เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการประสานงาน แสวงหา และคัดเลือกโครงการนวัตกรรมจากสมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรม ร้อยแก่นมหากาฬ คือ จังหวัดร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ เพื่อขอรับการสนับสนุนด้านการเงินจาก สนช.และส่งผลงานนวัตกรรมให้เข้าร่วมประกวดรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ

นายสุรพล ทวีแสงสกุลไทย ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดขอนแก่น ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเครือข่ายธุรกิจนวัตกรรมร้อยแก่นมหากาฬ กล่าวว่า หอการค้าจังหวัดขอนแก่นให้ความสำคัญในการเร่งพัฒนานวัตกรรมของกลุ่มอุตสาหกรรมในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง คือ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ โดยร่วมกับ สนช.พัฒนาและผลักดันการสร้างเครือข่ายธุรกิจนวัตกรรมร้อยแก่นมหากาฬ และตั้งคณะอนุกรรมการ จากผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เข้ามีบทบาทพิจารณากลั่นกรองโครงการนวัตกรรมในเบื้องต้น

ทั้งนี้ ในระยะ 4 เดือนที่ผ่านมา มีโครงการนวัตกรรมจากเครือข่ายธุรกิจนวัตกรรมร้อยแก่นมหากาฬที่ได้รับการสนับสนุนจาก สนช.จำนวนทั้งสิ้น 3 โครงการ ได้แก่ โครงการลดความชื้นเมล็ดพันธุ์ระบบแห้ง, โครงการผลิตปุ๋ยชีวภาพจากจุลินทรีย์กลุ่มดูดซับและละลายฟอสเฟส, และโครงการผลิตอุปกรณ์ประหยัดน้ำมัน PRO-R : อุปกรณ์กรองก๊าซ NGV/LPG ประสิทธิภาพสูง

นายศุภชัย หล่อโลการ ผู้อำนวนการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า สนช.ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อเร่งรัดให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมในภาคการผลิต ภาครัฐ และภาคสังคมโดยรวมอย่างเป็นระบบและยั่งยืนในรูปแบบ 2 ลักษณะ ได้แก่ การเป็นผู้ร่วมรังสรรค์นวัตกรรม (co-creator) และการเป็นผู้สนับสนุนและผู้ให้บริการร่วมกับองค์กรภาคเอกชนในการพัฒนาโครงการนวัตกรรม (service provider)

ทั้งนี้ จะเข้าไปเชื่อมโยงเครือข่ายวิสาหกิจระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการภาคเอกชน รวมทั้งการเข้าไปมีส่วนร่วมในการนำเสนอแนวทางในการพัฒนานวัตกรรมในองค์กร และการสนับสนุนด้านวิชาการและการเงิน เพื่อเร่งรัดให้เกิดการพัฒนาตามโครงการนวัตกรรมในระยะหลังการวิจัยและพัฒนาอย่างรวดเร็ว

ส่วนเป้าหมายตามโครงการนวัตกรรมรายอุตสาหกรรมใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มธุรกิจชีวภาพ (Bio-Business) กลุ่มอุตสาหกรรมเชิงเศรษฐนิเวศ (Eco-Industry) และกลุ่มการออกแบบและแก้ไขปัญหา (Design & Solution)

ปี 2552 สนช.ได้กำหนดแผนการสร้างเครือข่ายนวัตกรรมในระดับภูมิภาค จึงร่วมกับหอการค้าจังหวัดขอนแก่น จัดตั้ง “เครือข่ายธุรกิจนวัตกรรมร้อยแก่นมหากาฬ” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดธุรกิจนวัตกรรมสำหรับภาคอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ผ่านกลไกการสนับสนุนของสำนักงาน ทั้งด้านวิชาการและการเงิน ในโครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน”, โครงการ “นวัตกรรมดี...ไม่มีดอกเบี้ย”, โครงการ “ทุนเครือข่ายวิสาหกิจนวัตกรรม”, และโครงการ “ร่วมลงทุนธุรกิจนวัตกรรม”

ตลอดระยะเวลา ที่ผ่านมา มีโครงการนวัตกรรมจากเครือข่ายธุรกิจนวัตกรรมร้อยแก่นมหากาฬที่ได้รับการสนับสนุนจาก สนช.ทั้งสิ้น 3 โครงการ ได้แก่ โครงการลดความชื้นเมล็ดพันธุ์ระบบแห้ง, โครงการผลิตปุ๋ยชีวภาพจากจุลินทรีย์กลุ่มดูดซับและละลายฟอสเฟส และโครงการผลิตอุปกรณ์ประหยัดน้ำมัน PRO-R : อุปกรณ์กรองก๊าซ NGV/LPG ประสิทธิภาพสูง แม้ว่า จะมีเพียง 3 โครงการ คิดเป็นวงเงินสนับสนุนทั้งสิ้น 1,232,800 บาท แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ ที่มีความสนใจในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจของประเทศ

สำหรับเป้าหมายในการสร้างนวัตกรรม ให้เกิดขึ้นในพื้นที่กลุ่มจังหวัด ร้อยแก่นมหากาฬปี 2552 ทางสนช. ได้วางเป้าหมายการสนับสนุนโครงการนวัตกรรมไว้ไม่ต่ำกว่า 10 โครงการ วงเงินสนับสนุนกว่า 20 ล้านบาท เชื่อมั่นว่า จะก่อให้เกิดการลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท