หนองคาย - อธิบดีกรมที่ดิน เร่งรัดการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในการสะสางงานค้าง การสำรวจหลักฐานการแจ้งการครอบครองสิทธิที่ดินของประชาชนให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (5 ก.พ.) ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดหนองคาย นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน พร้อมคณะได้ตรวจเยี่ยมเร่งรัดและติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในสังกัดจังหวัดหนองคาย ตามโครงการส่งเสริมภาพลักษณ์ โครงการเร่งรัดงานค้างและโครงการสำรวจหลักฐานการแจ้งการครอบครองสิทธิ์ที่ดิน หรือ ส.ค.1 โดยมีนายประทวน บุญวังแร่ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดหนองคาย นำเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอรายงานผลการดำเนินงาน
นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวภายหลังการประชุมมอบนโยบายว่า จากการตรวจงานพบว่า มีการปรัปปรุงภาพลักษณ์ การให้บริการแก่ประชาชนดีขึ้นจากเดิมมาก ทั้งในด้านอาคาร สถานที่ การแต่งกาย การให้บริการของเจ้าหน้าที่ทุกคนอยู่ในเกณฑ์เหมาะสม ส่วนงานค้างที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้เกิดจากปัญหาการรังวัดที่ดิน
เนื่องจากอัตรากำลังเจ้าหน้าที่รังวัดในจังหวัดหนองคายมีน้อยเกินไป การรังวัดใช้เวลานัดหมายนานประมาณ 70-80 วัน จะต้องเร่งแก้ไข ทางกรมที่ดินจะจัดส่งอัตรากำลังมาช่วยงานรังวัดเพื่อให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังจะให้การสนับสนุนช่วยเหลือในด้านอาคารสถานที่ รถยนต์ใช้งานที่สภาพชำรุด จะมีการปรับเปลี่ยนให้
ในส่วนของการสำรวจ ส.ค.1 ซึ่งมีการเริ่มใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2497 ปัญหาที่เกิดขึ้นชัดเจนคือ ส.ค.1 ที่นำมาออกโฉนดแล้ว มีจำนวนมากที่ ส.ค.1 เจ้าของที่ดินนำไปออกโฉนดที่ดินแล้วแต่ไม่นำ ส.ค.1 ไปประกอบเรื่อง ทำให้เกิดปัญหา ส.ค.1 ไปครอบที่ดินแปลงอื่น กรมที่ดินต้องการเร่งรัดให้เจ้าของที่ดินทุกคนที่มี ส.ค.1 ในครอบครอง เร่งมาดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์ให้ครบถ้วน ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 53 ปี ก็ยังมีประชาชนนอนหลับทับสิทธิ์ส่วนหนึ่ง
แต่อีกส่วนหนึ่งก็ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินได้ เช่น ออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินในเขตป่า เขตสงวนหวงห้าม หรือเป็นบริเวณที่มายื่นกำหนดภายหลังในนโยบายป่าไม้เป็นที่ลาดชันเกินกว่าร้อยละ 35 ขึ้นไปนั้นไม่สามารถออกเอกสารให้ได้ ทางแก้ปัญหานั้นจะต้องมีการเร่งรัด ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าใครมีที่ดิน ส.ค.1 และมีอยู่จริง ไม่เคยออกเอกสารสิทธิ์มาก่อน ขอให้มายื่นหลักฐานออกเอกสารสิทธิ์ให้ถูกต้อง
ในขณะเดียวกันผู้ที่มี ส.ค.1 อยู่แต่นำไปออกเป็นโฉนดแล้วก็นำมาแจ้งต่อเจ้าพนักงานเพื่อจำหน่าย ส.ค.1 ทิ้ง เพื่อสุจริตในการให้ฝ่ายเจ้าพนักงานออกเอกสารสิทธิ์ให้ได้
นายอนุวัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าการสำรวจ ส.ค.1 จะครบกำหนดในวันที่ 6 ก.พ.2553 หากประชาชนได้รับการประชาสัมพันธ์ที่ดีตามนโยบายของนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ภายใน 1 ปี เชื่อว่า คนที่มี ส.ค.1 จริง จะนำมายื่น
หลังจากนั้นกฎหมายกำหนดไว้แล้วว่า ส.ค.1 ที่มีอยู่ หากจะพิสูจน์ที่ดินว่าเป็นของตนเองนั้นต้องผ่านขั้นตอนทางศาล ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาไม่จบสิ้น ส.ค.1 ก็จะถูกนำไปสวมสิทธิ์ยังที่ต่าง ๆ ซึ่งมีกระบวนการทางศาลเท่านั้นที่จะให้คำยืนยันรับรองกับประชาชนได้ว่า ส.ค.1 นั้นถูกแปลงตรงที่ตรงแปลง
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (5 ก.พ.) ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดหนองคาย นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน พร้อมคณะได้ตรวจเยี่ยมเร่งรัดและติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในสังกัดจังหวัดหนองคาย ตามโครงการส่งเสริมภาพลักษณ์ โครงการเร่งรัดงานค้างและโครงการสำรวจหลักฐานการแจ้งการครอบครองสิทธิ์ที่ดิน หรือ ส.ค.1 โดยมีนายประทวน บุญวังแร่ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดหนองคาย นำเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอรายงานผลการดำเนินงาน
นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวภายหลังการประชุมมอบนโยบายว่า จากการตรวจงานพบว่า มีการปรัปปรุงภาพลักษณ์ การให้บริการแก่ประชาชนดีขึ้นจากเดิมมาก ทั้งในด้านอาคาร สถานที่ การแต่งกาย การให้บริการของเจ้าหน้าที่ทุกคนอยู่ในเกณฑ์เหมาะสม ส่วนงานค้างที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้เกิดจากปัญหาการรังวัดที่ดิน
เนื่องจากอัตรากำลังเจ้าหน้าที่รังวัดในจังหวัดหนองคายมีน้อยเกินไป การรังวัดใช้เวลานัดหมายนานประมาณ 70-80 วัน จะต้องเร่งแก้ไข ทางกรมที่ดินจะจัดส่งอัตรากำลังมาช่วยงานรังวัดเพื่อให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังจะให้การสนับสนุนช่วยเหลือในด้านอาคารสถานที่ รถยนต์ใช้งานที่สภาพชำรุด จะมีการปรับเปลี่ยนให้
ในส่วนของการสำรวจ ส.ค.1 ซึ่งมีการเริ่มใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2497 ปัญหาที่เกิดขึ้นชัดเจนคือ ส.ค.1 ที่นำมาออกโฉนดแล้ว มีจำนวนมากที่ ส.ค.1 เจ้าของที่ดินนำไปออกโฉนดที่ดินแล้วแต่ไม่นำ ส.ค.1 ไปประกอบเรื่อง ทำให้เกิดปัญหา ส.ค.1 ไปครอบที่ดินแปลงอื่น กรมที่ดินต้องการเร่งรัดให้เจ้าของที่ดินทุกคนที่มี ส.ค.1 ในครอบครอง เร่งมาดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์ให้ครบถ้วน ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 53 ปี ก็ยังมีประชาชนนอนหลับทับสิทธิ์ส่วนหนึ่ง
แต่อีกส่วนหนึ่งก็ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินได้ เช่น ออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินในเขตป่า เขตสงวนหวงห้าม หรือเป็นบริเวณที่มายื่นกำหนดภายหลังในนโยบายป่าไม้เป็นที่ลาดชันเกินกว่าร้อยละ 35 ขึ้นไปนั้นไม่สามารถออกเอกสารให้ได้ ทางแก้ปัญหานั้นจะต้องมีการเร่งรัด ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าใครมีที่ดิน ส.ค.1 และมีอยู่จริง ไม่เคยออกเอกสารสิทธิ์มาก่อน ขอให้มายื่นหลักฐานออกเอกสารสิทธิ์ให้ถูกต้อง
ในขณะเดียวกันผู้ที่มี ส.ค.1 อยู่แต่นำไปออกเป็นโฉนดแล้วก็นำมาแจ้งต่อเจ้าพนักงานเพื่อจำหน่าย ส.ค.1 ทิ้ง เพื่อสุจริตในการให้ฝ่ายเจ้าพนักงานออกเอกสารสิทธิ์ให้ได้
นายอนุวัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าการสำรวจ ส.ค.1 จะครบกำหนดในวันที่ 6 ก.พ.2553 หากประชาชนได้รับการประชาสัมพันธ์ที่ดีตามนโยบายของนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ภายใน 1 ปี เชื่อว่า คนที่มี ส.ค.1 จริง จะนำมายื่น
หลังจากนั้นกฎหมายกำหนดไว้แล้วว่า ส.ค.1 ที่มีอยู่ หากจะพิสูจน์ที่ดินว่าเป็นของตนเองนั้นต้องผ่านขั้นตอนทางศาล ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาไม่จบสิ้น ส.ค.1 ก็จะถูกนำไปสวมสิทธิ์ยังที่ต่าง ๆ ซึ่งมีกระบวนการทางศาลเท่านั้นที่จะให้คำยืนยันรับรองกับประชาชนได้ว่า ส.ค.1 นั้นถูกแปลงตรงที่ตรงแปลง
