เลย - สภาเทศบาลตำบลนาอ้อล่ม เลียนแบบสภาสูง 8 สมาชิกสภาเทศบาลโดดประชุม นายกเล็กคนใหม่อดแถลงนโยบาย ด้านสมาชิกที่ไม่เข้าร่วมประชุมอัดฝ่ายบริหารมีวาระซ่อนเร้น ขณะที่ตัวนายกเล็กคนใหม่เองมีที่มาไม่สง่างาม ขณะที่ประธานสภาขู่ตัดเงินเดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่เทศบาลตำบลนาอ้อ อ.เมือง จ.เลย มีการประชุมสภาเทศบาลสมัยสามัญ สมัยที่ 1 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2552 ซึ่งถือเป็นวันสุดท้ายของการทำหน้าที่สมาชิกสภาเทศบาลตำบลนาอ้อ ครบ 4 ปี โดยมีวาระสำคัญ คือ การแถลงนโยบายต่อสภาของนายก้าน กุณะวงษ์ หลังจากได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรีเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2552
นอกจากนี้ยังมีวาระการประชุมอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น การประกาศรับสมัครสมาชิกสภาเทศบาลตำบลนาอ้อที่หมดวาระ การอนุมัติเงินอุดหนุนงานกาชาดดอกฝ้ายบานมะขามหวานเมืองเลย การพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนเพื่อจัดบริการสาธารณะและการพิจารณาเงินกู้ยืมสำนักงานเงินทุนส่งเสริมกิจการเทศบาลจำนวนกว่า 14 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงเวลานัดหมายนายจิตต์ ศรีทรงเมือง ประธานสภาได้เชิญสมาชิกเข้าห้องประชุม แต่กลับมีผู้มารายงานตัวเพียง 4 คน รวมประธานสภา ขาดประชุม 7 คนและลากิจ 1 คนจึงไม่สามารถเปิดประชุมสภาได้ เพราะไม่ครบองค์ประชุม ซึ่งสภาชิกสภาที่ขาดส่วนใหญ่สังกัดกลุ่มตรงข้ามกับกลุ่มของนายก้านเมื่อคราวเลือกตั้งสมัยที่ผ่านมา และที่เหลืออีก 2 คน เป็นสมาชิกในกลุ่มรักนาอ้อของนายก้าน
นายก้าน กุณะวงษ์ นายกเทศมนตรีตำบลนาอ้อ เปิดเผยภายหลังสภาล่มว่า การกระทำของถือเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะมีวาระสำคัญเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชนที่ต้องพิจารณา ทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ การบริหารท้องถิ่นหยุดชะงัก เช่น โครงการเกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรก่อนฤดูฝนที่จะมาถึง ถือเป็นการทำงานที่ไม่คุ้มค่าเงินเดือน ในฐานะตัวแทนประชาชน ตนจะเสนอไปยังประธานสภาให้พิจารณาตัดเงินเดือนๆ สุดท้ายด้วย
อย่างไรก็ตาม การบริหารงานภายใต้คณะทำงานชุดใหม่จะยังคงดำเนินต่อไป เพราะตาม พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ.2496 แม้จะแถลงนโยบายต่อสภาไม่ได้ สามารถให้ฝ่ายบริหารทำงานไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ส.ท.ชุดใหม่เข้ามาแล้วแถลงนโยบายได้อีกครั้ง
นายก้าน กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาความขัดแย้งของสมาชิกภายในกลุ่มรักนาอ้อเดิมน่าจะเป็นสาเหตุทำให้สภาล่มหรือไม่นั้น ตนเชื่อว่ามีสมาชิกบางคนไม่สามารถเดินตามนโยบายหรืออุดมการณ์ของกลุ่ม จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องพิจารณาตัวเอง ให้ออกจากกลุ่ม และจะไม่มีการส่งคนเหล่านี้ลงสมัคร ส.ท.สมัยต่อไป
นายจิตต์ ศรีทรงเมือง ประธานสภาเทศบาลตำบลนาอ้อกล่าวว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหาลักษณะนี้ ก่อนประชุมสภาเจ้าหน้าที่ได้ส่งหนังสือเชิญประชุมให้ ส.ท.ทุกคนได้ทราบล่วงหน้า 6 วัน มีเวลาเพียงพอที่จะมีการเตรียมตัว และทราบวาระการประชุมเป็นอย่างดี การกระทำของสมาชิกที่ไม่เข้าร่วมครั้งนี้ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ทั้งๆ ที่เหลือเพียงวันเดียวเท่านั้นที่จะครบวาระ ส่วนการตัดเงินเดือน ส.ท.ที่ขาดประชุมครั้งนี้ตนจะเสนอไปยังคณะกรรมการระดับจังหวัดให้พิจารณาด้วย
นายชูศักดิ์ ประพันธ์สิทธิ์ หนึ่งใน ส.ท.ที่ไม่ได้เข้าประชุม กล่าวว่า เหตุที่พวกตนทั้ง 7 คน ไม่เข้าประชุมครั้งนี้เพราะ เห็นว่ามีการแปรญัตติเกี่ยวกับการพิจาณางบประมาณออกไปใช้จำนวนกว่า 10 ล้านบาท สอดใส้ไว้ด้วย ซึ่งตามธรรมเนียมที่เขาปฏิบัติกัน การแถลงนโยบายควรเปิดประชุมสภาวาระเดียวเป็นการเฉพาะ ไม่ใช่นำวาระอื่นๆ มารวมไว้ด้วย
ขณะเดียวกัน หนังสือเชิญประชุมสมาชิกส่วนใหญ่ได้รับก่อนล่วงหน้าเพียง 3 วัน และอีกประการหนึ่งคือ พวกตนเห็นว่าที่มาของนายกก้านไม่สง่างาม ชิงลาออกก่อนหมดวาระเพียง 2 เดือน เสียงบประมาณในการเลือกตั้ง หากรอให้ครบวาระพร้อมกับสมาชิกสภาก็จะประหยัดงบประมาณภาษีประชาชนได้มาก สะท้อนให้เห็นว่านายก้าน ไม่ได้รักประชาชน ห่วงแต่ความอยู่รอดของตัวเองเท่านั้น
“ผมกับเพื่อนสมาชิกอยากให้นายก้านสำนึกว่า สภาไม่ใช่ลูกน้องฝ่ายบริหาร จะมาใช้อำนาจเผด็จการ สั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้ ส่วนจะตัดเงินเดือนนั้นก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เรื่องเล็ก” นายชูศักดิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่เทศบาลตำบลนาอ้อ อ.เมือง จ.เลย มีการประชุมสภาเทศบาลสมัยสามัญ สมัยที่ 1 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2552 ซึ่งถือเป็นวันสุดท้ายของการทำหน้าที่สมาชิกสภาเทศบาลตำบลนาอ้อ ครบ 4 ปี โดยมีวาระสำคัญ คือ การแถลงนโยบายต่อสภาของนายก้าน กุณะวงษ์ หลังจากได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรีเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2552
นอกจากนี้ยังมีวาระการประชุมอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น การประกาศรับสมัครสมาชิกสภาเทศบาลตำบลนาอ้อที่หมดวาระ การอนุมัติเงินอุดหนุนงานกาชาดดอกฝ้ายบานมะขามหวานเมืองเลย การพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนเพื่อจัดบริการสาธารณะและการพิจารณาเงินกู้ยืมสำนักงานเงินทุนส่งเสริมกิจการเทศบาลจำนวนกว่า 14 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงเวลานัดหมายนายจิตต์ ศรีทรงเมือง ประธานสภาได้เชิญสมาชิกเข้าห้องประชุม แต่กลับมีผู้มารายงานตัวเพียง 4 คน รวมประธานสภา ขาดประชุม 7 คนและลากิจ 1 คนจึงไม่สามารถเปิดประชุมสภาได้ เพราะไม่ครบองค์ประชุม ซึ่งสภาชิกสภาที่ขาดส่วนใหญ่สังกัดกลุ่มตรงข้ามกับกลุ่มของนายก้านเมื่อคราวเลือกตั้งสมัยที่ผ่านมา และที่เหลืออีก 2 คน เป็นสมาชิกในกลุ่มรักนาอ้อของนายก้าน
นายก้าน กุณะวงษ์ นายกเทศมนตรีตำบลนาอ้อ เปิดเผยภายหลังสภาล่มว่า การกระทำของถือเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะมีวาระสำคัญเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชนที่ต้องพิจารณา ทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ การบริหารท้องถิ่นหยุดชะงัก เช่น โครงการเกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรก่อนฤดูฝนที่จะมาถึง ถือเป็นการทำงานที่ไม่คุ้มค่าเงินเดือน ในฐานะตัวแทนประชาชน ตนจะเสนอไปยังประธานสภาให้พิจารณาตัดเงินเดือนๆ สุดท้ายด้วย
อย่างไรก็ตาม การบริหารงานภายใต้คณะทำงานชุดใหม่จะยังคงดำเนินต่อไป เพราะตาม พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ.2496 แม้จะแถลงนโยบายต่อสภาไม่ได้ สามารถให้ฝ่ายบริหารทำงานไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ส.ท.ชุดใหม่เข้ามาแล้วแถลงนโยบายได้อีกครั้ง
นายก้าน กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาความขัดแย้งของสมาชิกภายในกลุ่มรักนาอ้อเดิมน่าจะเป็นสาเหตุทำให้สภาล่มหรือไม่นั้น ตนเชื่อว่ามีสมาชิกบางคนไม่สามารถเดินตามนโยบายหรืออุดมการณ์ของกลุ่ม จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องพิจารณาตัวเอง ให้ออกจากกลุ่ม และจะไม่มีการส่งคนเหล่านี้ลงสมัคร ส.ท.สมัยต่อไป
นายจิตต์ ศรีทรงเมือง ประธานสภาเทศบาลตำบลนาอ้อกล่าวว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหาลักษณะนี้ ก่อนประชุมสภาเจ้าหน้าที่ได้ส่งหนังสือเชิญประชุมให้ ส.ท.ทุกคนได้ทราบล่วงหน้า 6 วัน มีเวลาเพียงพอที่จะมีการเตรียมตัว และทราบวาระการประชุมเป็นอย่างดี การกระทำของสมาชิกที่ไม่เข้าร่วมครั้งนี้ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ทั้งๆ ที่เหลือเพียงวันเดียวเท่านั้นที่จะครบวาระ ส่วนการตัดเงินเดือน ส.ท.ที่ขาดประชุมครั้งนี้ตนจะเสนอไปยังคณะกรรมการระดับจังหวัดให้พิจารณาด้วย
นายชูศักดิ์ ประพันธ์สิทธิ์ หนึ่งใน ส.ท.ที่ไม่ได้เข้าประชุม กล่าวว่า เหตุที่พวกตนทั้ง 7 คน ไม่เข้าประชุมครั้งนี้เพราะ เห็นว่ามีการแปรญัตติเกี่ยวกับการพิจาณางบประมาณออกไปใช้จำนวนกว่า 10 ล้านบาท สอดใส้ไว้ด้วย ซึ่งตามธรรมเนียมที่เขาปฏิบัติกัน การแถลงนโยบายควรเปิดประชุมสภาวาระเดียวเป็นการเฉพาะ ไม่ใช่นำวาระอื่นๆ มารวมไว้ด้วย
ขณะเดียวกัน หนังสือเชิญประชุมสมาชิกส่วนใหญ่ได้รับก่อนล่วงหน้าเพียง 3 วัน และอีกประการหนึ่งคือ พวกตนเห็นว่าที่มาของนายกก้านไม่สง่างาม ชิงลาออกก่อนหมดวาระเพียง 2 เดือน เสียงบประมาณในการเลือกตั้ง หากรอให้ครบวาระพร้อมกับสมาชิกสภาก็จะประหยัดงบประมาณภาษีประชาชนได้มาก สะท้อนให้เห็นว่านายก้าน ไม่ได้รักประชาชน ห่วงแต่ความอยู่รอดของตัวเองเท่านั้น
“ผมกับเพื่อนสมาชิกอยากให้นายก้านสำนึกว่า สภาไม่ใช่ลูกน้องฝ่ายบริหาร จะมาใช้อำนาจเผด็จการ สั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้ ส่วนจะตัดเงินเดือนนั้นก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เรื่องเล็ก” นายชูศักดิ์กล่าว