ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “คาซ่า เอสเตท กรุ๊ป” ยักษ์อสังหาโคราช เปิดแผนลงทุนบิ๊กล็อต 4,500 ล้าน สวนกระแสเศรษฐกิจซบ หวังพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ผุดรวด 4 โครงการใหญ่ บ้านจัดสรร-คอนโดนิเนียมยึดหัวหาดเมืองหลัก “โคราช-รังสิต จ.ปทุมฯ-พัทยา จ.ชลบุรี” รองรับตลาดลูกค้า B- ถึง A+ เชื่อเป็นกลุ่มได้รับพิษเศรษฐกิจน้อยและยังมีกำลังซื้อสูง เผยเฉพาะเมืองย่าโมผุด 2 โครงการร่วม 1,500 ล้าน บนทำเลทองกลางเมือง เจาะกลุ่มระดับสูงรวมทั้งคนรุ่นใหม่วัยคนทำงาน ส่วนชลบุรีโปรเจกต์ใหญ่สุดทุ่ม 2,500 ล้านผุดคอนโดฯ พร้อมบ้านเดี่ยวและอาคารพาณิชย์ เน้นลูกค้านักธุรกิจชาวไทย-ต่างประเทศ
นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ คาซ่า เอสเตท กรุ๊ป เปิดเผยว่า “คาซ่า เอสเตท กรุ๊ป” ภายใต้บริษัท แกรนด์ เจ.เจ.เดเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นการรวมตัวของธุรกิจ 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มในเครือเอกสหกรุ๊ปดีลเลอร์รถยนต์ ฟอร์ดและมาสด้า จ.นครราชสีมา กับกลุ่มใต้ฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ศูนย์จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ ใน จ.นครราชสีมา ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2549 เพื่อดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งก่อนจะมาเป็น “คาซ่า เอสเตท กรุ๊ป” นั้น เราประสบความเสร็จในการประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มาแล้วภายใต้โครงการ “จามจุรี” ทั้งที่ จ.นครราชสีมา และ จ.สุรินทร์
ขณะนี้ “คาซ่า เอสเตท กรุ๊ป” มีแผนลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในระยะ 3 ปี (2551-2553) พร้อมกันจำนวน 4 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 4,500 ล้านบาท ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา, ชลบุรี และ จ.ปทุมธานี โดยในส่วนของ จ.นครราชสีมา ได้เปิดตัว 2 โครงการใหญ่คุณภาพ มูลค่าการลงทุน 1,450 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการหมู่บ้าน เดอะ เซ็นทรัล พาร์ค (The Central Park) บนที่ดิน 60 ไร่ จำนวน 250 ยูนิต ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองส่งน้ำ โรงเรียนสุรนารีวิทยา 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ “Oriental Contemporary” ตะวันออกร่วมสมัย มีสโมสรสระว่ายน้ำเป็นศูนย์กลางการทำกิจกรรม รูปแบบบ้านเน้นความหรูหราร่วมสมัย มีแบบบ้านให้เลือกกว่า 8 แบบ เลือกใช้วัสดุเกรด เอ ราคาเริ่มต้นที่ 2.3-11.5 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้อย่างเป็นทางการในไตรมาส 2 ของปีนี้
“ขณะนี้ The Central Park ได้ลงมือก่อสร้างบ้านตัวอย่างไปมากแล้ว และ มียอดขาย 25-30 ล้านบาท ต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นยอดขายเกินกว่าที่คาดหมายไว้ กลุ่มเป้าหมายเน้นกลุ่มผู้บริหารภาคเอกชนและราชการ กลุ่มนักธุรกิจ เจ้าของกิจการ กลุ่มวิชาชีพแพทย์ ผู้พิพากษา ทนาย และ สถาปนิก เป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลางไปถึงสูง หรือกลุ่ม B- ขึ้นไป”
นายสุดที่รัก กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการที่ 2 คือ โครงการหมู่บ้านนีโอ พาร์ค (Neo Park) บนที่ดิน 90 ไร่ 460 ยูนิต มูลค่าลงทุน 750 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนคลองส่งน้ำ โรงเรียนสุรนารีวิทยา 2 ติดกับโครงการ The Central Park เป็นบ้านเดี่ยว สไตล์ Modern Green Concept บ้านแนวคิดทันสมัยสำหรับคนรุ่นใหม่ เน้นประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รูปแบบบ้านเน้นประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า หลังคาสีอ่อนเพื่อสะท้อนความร้อนไม่เข้าสู่อาคาร ผนังอิฐมวลเบาลดความร้อน
กลุ่มเป้าหมายจะเน้นไปที่กลุ่มวัยรุ่น ครอบครัวใหม่ ทั้งผู้บริหารภาครัฐและเอกชน นักธุรกิจรุ่นใหม่ เจ้าของกิจการ กลุ่มวิชาชีพแพทย์ ผู้พิพากษา ทนายความ และสถาปนิก ซึ่งราคาบ้านอยู่ที่ 1.5- 3 ล้านบาท ราคาจะถูกกว่าโครงการแรกทั้งนี้เพื่อตอบสนองกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้
“คาซ่า เอสเตท มั่นใจว่าโครงการที่จะเปิดตัวใน จ.นครราชสีมา ทั้ง 2 โครงการนี้ สามารถสวนกระแสวิกฤติเศรษฐกิจในภาวะปัจจุบันได้ เพราะจากทำเลที่ตั้งโครงการ เป็นทำเลที่มีศักยภาพ อยู่ใจกลางเมือง สะดวกสบายในการเดินทาง อยู่ใกล้กับโรงเรียนที่มีชื่อในจังหวัด โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้าใหญ่ ทุกสถานที่ใช้เวลาเพียง 5 นาที ในการเดินทางเท่านั้น และตอบสนอง Life Style ของลูกค้าที่ต้องการบ้านคุณภาพในทำเลเมือง โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเรามุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับ B- ถึง A + ซึ่งกลุ่มลูกค้าเหล่านี้จะไม่ค่อยมีผลกระทบกับสภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลง ยังมีกำลังซื้อสูงซึ่งจากข้อมูลพบว่าลูกค้ากลุ่มนี้มีประมาณ 20%” นายสุดที่รัก กล่าว
ในช่วงนี้ถือเป็นโอกาสดีสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่รัฐบาลมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างชัดเจนและเห็นผลจริง โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สูงมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ประกอบกับอยู่ในช่วงดอกเบี้ยขาลง ราคาเหล็กวัสดุก่อสร้างต่ำ และน้ำมันถูก ซึ่งจากเหตุผลดังกล่าว “คาซ่า เอสเตท” ได้วางเป้าหมายการขายไว้ สำหรับโครงการ The Central Park ไตรมาสละ 75 ล้านบาท และโครงการ Neo Park ไตรมาส 90 ล้านบาท
สำหรับ ใน จ.นครราชสีมา นอกจากโครงการขนาดใหญ่ทั้ง 2 โครงการแล้ว “คาซ่า เอสเตท” ยังมีแผนเปิดตัวโครงการหมู่บ้านขนาดย่อม ประมาณ 8-15 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 15-20 ล้านบาท อีก 2 แห่ง ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้จะเป็น Pilot Project เพื่อทดลองตลาดหมู่บ้านขนาดเล็กที่อยู่ในย่านชุมชน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ไม่ต้องการโยกย้ายจากที่อยู่อาศัยเดิมแต่ต้องการขยับขยายที่อยู่อาศัยให้ดีขึ้น โดย “คาซ่า เอสเตท” จะเป็นรายแรกที่นำตลาดโครงการหมู่บ้านขนาดย่อมมาสร้างในแหล่งชุมชนต่างๆ เน้นที่การนำบ้านมาหาลูกค้า และ Pilot Project นี้ก็จะเป็นการเสริมกระแสเงินสดให้กับโครงการเอง เหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนแบบนี้ด้วย
นายสุดที่รัก กล่าวอีกว่า นอกจากการลงทุนใน จ.นครราชสีมา แล้ว คาซ่า เอสเตท กรุ๊ป มีแผนเปิดตัวโครงการหมู่บ้านจัดสรรอีก 2 โครงการที่ จ.ปทุมธานี รังสิตคลอง 3 ภายใต้ชื่อ “โครงการหมู่บ้าน อนันดา วิลเลจ” จำนวน 200 ยูนิต บนเนื้อที่ 45 ไร่ มูลค่าการก่อสร้าง 550 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์นบาหลี ราคาเริ่มต้นจาก 2.5-4 ล้านบาท กลุ่มกลุ่มลูกค้า คือ พนักงานบริษัทเอกชน ข้าราชการ ย่านรังสิต คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในไตรมาส 4 ของปีนี้
ส่วนอีก 1 โครงการใหญ่หนึ่งคือ “โครงการเดอะแกรนด์ เรสซิเดนซ์” ตั้งอยู่ ถนนสุขุมวิท พัทยา จ.ชลบุรี เป็นคอนโดมิเนียม 7 ชั้น 3 หลัง รวม 280 ยูนิต ,อาคารพาณิชย์ 2 ชั้น , 3 ชั้น และ 4 ชั้น รวม 70 ยูนิต และบ้านเดี่ยวชั้นเดียว 60 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท บนเนื้อที่ 30 ไร่ รวมมูลค่าโครงการกว่า 2,500 ล้าน บาท รองรับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนักธุรกิจชาวไทยและชาวต่างชาติ คาดว่าจะสามารถเปิดตัวโครงการได้ในไตรมาส 2 ของปี 2553