บุรีรัมย์ – ชาวบุรีรัมย์ใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และ สท. เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ไม่ค่อยคึกคัก กกต.คาดมีผู้มาใช้สิทธิไม่น้อยกว่า 60 % ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 18,253 คน ใน 30 หน่วยเลือกตั้ง แฉสารพัดวิชามารแจกแหลกบัตรเติมเงินโทรศัพท์ -จดรายชื่อสัญญาได้รับเลือกตั้งยกทีมรับเงินภายหลังหัวละ 300-500 บาท
วันนี้ ( 24 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) เมืองบุรีรัมย์ ทั้ง 30 หน่วย ใน 3 เขตเลือกตั้ง ไม่ค่อยคึกคักมากนัก ซึ่งทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ประจำเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ตั้งเป้าหมายมีผู้มาใช้สิทธิ 60% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 18,253 คน เป็นชาย 8,471 คน หญิง 9,782 คน ใน 18 ชุมชน
สำหรับผู้สมัครนายกเทศมนตรี มี 2 คน ได้แก่ หมายเลข 1 นางปาลีรัตน์ สมานประธาน อดีตพยาบาลวิชาชีพ 7 กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมือง(ทม.)บุรีรัมย์ อดีตรองนายกเทศมนตรี ภรรยา นายปริญญา สมานประธาน ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)บุรีรัมย์ เพื่อนสนิทของ นายเนวิน ชิดชอบ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย (ทรท.) หัวหน้ากลุ่มก้าวใหม่ กับ ผู้สมัครหมายเลข 2 นายนภดล อังคสุภณ อดีตผู้สมัคร ส.ท.เมืองบุรีรัมย์ หัวหน้ากลุ่มการเมืองใหม่
ส่วนผู้สมัคร สท. ใน 3 เขตเลือกตั้ง มีทั้งสิ้น 38 คน เขต 1 จำนวน 13 คน เขต 2 จำนวน 13 คน และเขต 3 จำนวน 12 คน โดยกลุ่มก้าวใหม่ ส่งครบ 18 คน กลุ่มการเมืองใหม่ ส่งผู้สมัครลง 17 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้สมัคร ส.ท.อิสระอีก 3 คน
ว่าที่ ร.ต.ทวี ชุนเกาะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (ผอ.กต.) ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จากการออกตระเวนตรวจเยี่ยมตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ พบว่า มีประชาชนออกมาใช้สิทธิค่อนข้างบางตา เชื่อว่าไม่น่าต่ำกว่า ร้อยละ 50 % ส่วนบรรยากาศทั่วไปตามหน่วยเลือกตั้ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอุปสรรคและไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น
สำหรับเรื่องร้องเรียนกระทำผิ ดกฎหมายเลือกตั้ง ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเข้มายัง กกต.บุรีรัมย์ จำนวน 1 เรื่อง เกี่ยวกับการโฆษณาหาเสียงโจมตี ใส่ร้ายป้ายสี ฝ่ายตรงข้าม ซึ่ง กกต.ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบ และก็เฝ้าจับตาการทุจริตอย่างต่อเนื่อง ส่วนผลการนับคะแนนนั้น คาดว่าคืนนี้ (24 ม.ค.52) จะทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม คืนก่อนถึงวันเลือกตั้งหรือ เรียกว่า “คืนหมาหอน” ที่ผ่านมายังไม่พบมีการกระทำผิดซื้อสิทธิ ขายเสียงหรือกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง พบมีเพียงรายงานแจ้งว่า มีการจ่ายเงินซื้อเสียงในบางชุมชน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิด
“ส่วนการป้องกันการซื้อเสียงหน้าหน่วยเลือกตั้งนั้น ทาง กกต.จังหวัดได้ร่วมกันตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งวันนี้แล้ว” ว่าที่ ร.ต.ทวี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วย ว่า ระหว่างการลงคะแนนของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งพบมีช่างภาพบางคนเข้าไปในคูหาเลือกตั้ง ถ่ายภาพการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด โดยเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยไม่มีการห้ามปรามแต่อย่างใด และคูหาเลือกตั้ง บางหน่วยก็ไม่มีความมิดชิดด้วย
อีกทั้งมีรายงานข่าวว่า ผู้สมัครนายกเทศมนตรี บางคนมีการให้หัวคะแนนออกจดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามบ้านเรือน พร้อม สัญญาว่าหากได้รับเลือกตั้งเข้ามายกทีม จะนำเงินมาแจกให้ รวมทั้งมีการให้กลุ่มวัยรุ่นออกแจกบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วย ซึ่งมีกระแสข่าวการจ่ายเงินซื้อเสียง ถึงหัวละ 300- 500 บาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ลงพื้นที่หาตัวผู้กระทำผิด คาดว่าจะมีกระแสเงินสะพัดกับการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
