ศูนย์ข่าวศรีราชา-ชาวบ้านอำเภออรัญประเทศ หลายร้อยคน รวมตัวปิดถนนบริเวณสามแยกตาพระยา หลังมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการจับ และปรับไม่เป็นธรรม สร้างความเดือดร้อน จนต้องออกมารวมตัวประท้วง ขับไล่ ผกก.ออกจากพื้นที่ พร้อมยื่นเงื่อนไข พบผู้ว่าฯและผู้บังคับการฯเท่านั้น และต้องย้ายใน 24 ชั่วโมง ถึงจะสลายการชุมนุม
วันนี้ (23 ม.ค.) ที่บริเวณสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นายอัมรินทร์ ยี่เฮง เลขาธิการองค์กรประชาธิปไตยภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว ได้รวมตัวประท้วงและปราศรัยโจมตีการทำงานของ พ.ต.อ.ศักดิ์ระพี เพียวพานิช ผู้กำกับการสถานีตำรวจอรัญประเทศ พร้อมด้วย พ.ต.ต.วิชาญ จิตตยานนท์ พ.ต.ต.ชุติพนธ์ ศรีภิรมย์ และ ดาบตรีประเสริฐ ฟักแคเล็ก เนื่องจากในช่วงนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกกวดขันจับกุมประชาชน และเด็กนักเรียนอย่างไม่เป็นธรรม สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ดังนั้น กลุ่มชาวบ้านและเด็กนักเรียนที่ได้รับความเดือดร้อน จึงออกมารวมตัวกัน เพื่อไม่ต้องการให้ผู้กำกับฯคนดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่อีกต่อไป
การรวมตัวประท้วงขับไล่ครั้งนี้ มีชาวบ้านบางกลุ่มและผู้ประกอบอาชีพรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หลายสิบคน ได้เดินทางมาให้กำลังใจและมอบช่อดอกไม้ให้กับ พ.ต.อ.ศักดิ์ระพี เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ส่วนด้านกลุ่มประท้วงก็ได้ปราศรัยโจมตีกันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรง โดยใช้เวลาในการปราศรัยโจมตีบริเวณหน้าสถานีตำรวจเป็นเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง แต่ผู้กำกับสถานีก็ไม่ยอมลงมาเจรจาแต่อย่างไร ทำให้ผู้ชุมนุมประท้วงเกิดความไม่พอใจ และเดินทางไปรวมตัวปิดถนนบริเวณสามแยกตาพระยา ทันที
ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์ระพี ได้กล่าวกับผู้ที่มาให้กำลังใจ ว่า ตนพร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้ประชาชนที่ตนเองรับผิดชอบได้รับความเดือดร้อน ส่วนปัญหาที่มีกลุ่มชาวบ้านออกมาโจมตีนั้น ตนไม่ทราบที่มาที่ไป และพร้อมจะตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อมีปัญหาเช่นนี้ ตนขอรับผิดชอบและจะดำเนินการแก้ไขโดยด่วน
ด้าน นางพจนา แซ่ลิ้ม แม่ค้ารถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาปัญหาดังกล่าวยังไม่ค่อยรุนแรง แต่เมื่อ พ.ต.อ.ศักดิ์ระพี มาดำรงตำแหน่งนั้น ปัญหาเริ่มบานปลาย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่จราจรได้ออกจับกุมผู้กระทำผิด อย่างไม่เป็นธรรมและถูกต้องเท่าที่ควร เพราะบุคคลใดไม่ใส่หมวกกันน็อกจะจับกุมและปรับ 500 บาท แต่ใบเสร็จที่ออกให้นั้น เขียนจำนวนเพียง 200 บาทเท่านั้น และ 300 บาทไปไหน
ในบางครั้งถูกจับกุมทั้งใบขับขี่, หมวกกันน็อก และรถไม่ถูกระเบียบ จะถูกปรับถึง 1,500-2,000 บาท แต่เขียนใบเสร็จเพียงไม่กี่ร้อยบาท โดยมองแล้วเป็นการกระทำไม่ถูกต้อง และชอบธรรม ที่สำคัญ ตำรวจจราจรชอบซุ่มตามหลังต้นไม้ และเมื่อเห็นก็จับกุมทันที นอกจากนั้นในเวลา ตี 3 ตี 4 ยังออกมาจับกุมผู้ที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์อีก ทั้งๆ ในช่วงนั้นไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง
นางพจนา กล่าวต่อไปว่า ตนมีอาชีพค้าขายโดยใช้รถพ่วงข้าง ซึ่งเสียภาษีให้เทศบาลแล้ว 150 บาทต่อเดือน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเรียกเก็บเงินอีก 300 บาทต่อเดือน โดยอ้างว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย หากไม่เสียเงินดังกล่าวก็จะไม่ให้ค้าขายอีกต่อไป ส่วนประชาชนที่มาให้กำลังใจนั้นตนได้รับการบอกเล่าจาก กลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ว่าถูกบังคับให้มา หากใครไม่มาก็จะยึดเสื้อวินคืน
ด้าน นายอัมรินทร์ กล่าวว่า การปิดถนนบริเวณสามแยกตาพระยา ไม่เคยมีมาก่อน แต่เนื่องจากประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก จึงออกมารวมตัวปิดถนนในครั้งนี้ แต่การปิดถนนครั้งนี้ตนไม่ได้ทำเพื่อใคร โดยทำเพื่อประชาชนชาวบ้านทุกๆ คน ที่ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าว
การเจรจาครั้งนี้ ตนก็ไม่ขอเจรจากับ พ.ต.อ.ศักดิ์ระพี แล้ว โดยขอเจรจากับท่านผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้บังคับการ เท่านั้น หากผลเป็นที่น่าพอใจก็พร้อมจะสลายการชุมนุมทันที ซึ่งขณะนี้ยังรอการเจรจาอยู่
สำหรับข้อเรียกร้องที่จะเสนอต่อผู้ว่าฯ และผู้บังคับการ คือ ให้ตำรวจทั้ง 4 นาย ออกจากพื้นที่ใน 24 ชม.กับให้มีการปรับปรุงระบบระเบียบในการปฏิบัติหน้าที่ใหม่ พร้อมแก้ไขปัญหายาเสพติด การเก็บส่วยในพื้นที่ โดยหากผู้ว่าฯไม่ดำเนิการใดๆ พวกตนก็จะปิดถนนต่อไป
สำหรับการปิดถนนครั้งนี้ ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวเป็นอัมพาต โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยไปอำนวยการกับประชาชน ที่จะใช้เส้นทางดังกล่าวไปใช้เส้นทางอื่นก่อน
