ศูนย์ข่าวศรีราชา - พ่อค้ารับซื้อของเก่าหัวใส ฉวยวิกฤตให้เป็นโอกาส ซื้อเศษเหล็กซากรถมาชำแหละต่อพ่วงข้างรถจักรยานยนต์ขายเป็นรถรับจ้างขนสิ่งของ พ่วงข้างรับจ้างแทนมอเตอร์ไซค์ ตลาดให้ความสนใจสั่งต่อจำนวนมาก สร้างรายได้งาม
จากกรณีที่ขณะนี้ราคาน้ำมันและแก๊สราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด และไม่มีท่าทีว่าจะทรงตัวอยู่ได้ทำให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพได้รับความเดือดร้อน และส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวันอย่างมาก หลายอาชีพต้องเปลี่ยนวิถีเข้าสู่การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ประหยัด พ่อค้ารับซื้อของเก่า เศษเหล็กนำมารีไซเคิลเป็นพ่วงข้าง ขายดีเดือนละ 6-10 คันและสั่งต่ออีกจำนวนมาก
วันนี้ (3 ก.ค.) นายสมบัติ อ่อนพานิช อายุ 50 ปี เจ้าของร้านรับซื้อของเก่าเลขที่ 53/5 หมู่ที่ 8 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ได้ประกอบอาชีพรับซื้อของเก่ามาได้ประมาณ 5 ปี สามารถสะสมเศษเหล็กแผ่น เหล็กกลม และเหลี่ยม
อีกทั้งได้รับซื้อซากรถเก๋ง รถกระบะ มาชำแหละเป็นเหล็กแผ่นปูพื้นพ่วงข้างสำหรับติดตั้งกับรถจักรยานยนต์ ช่วงแรกๆ เศรษฐกิจยังไม่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวันก็ไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจมากนัก ตั้งแต่ระยะ 2 เดือนที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวแปลก ๆ มีคนมาเวียนดูพ่วงข้างรถที่ต่อวางไว้ อีกทั้งมีคนมาสั่งต่อหลายรูปแบบ เช่นใช้ในการรับผู้โดยสาร บรรทุกสิ่งของ ขายอาหาร และรับ-ส่งนักเรียน
นายสมบัติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เศษเหล็กขึ้นราคา กิโลกรัมละประมาณ 18 บาท เมื่อต่อพ่วงข้างเรียบร้อยจะขายในราคาคันละ 3,700 บาท ก็พอมีกำไรในการเลี้ยงดูลูกจ้าง 8 คน เนื่องจากขณะนี้มีคนมาสั่งต่อพ่วงข้างกันมากขึ้นชนิดผิดปกติ ได้สอบถามผู้ที่มาสั่งต่อ และติดตั้งไป ทุกคนบอกว่าตอนนี้น้ำมันแพงมาก ขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ไม่คุ้มสงสารผู้โดยสารที่ต้องเสียเงินเยอะ จึงได้ติดตั้งพ่วงข้างเพื่อรับ-ส่งผู้โดยสารได้ครั้งละหลายคน โดยเฉพาะติดตั้งไว้เพื่อรับ-ส่งนักเรียนตอนเช้า และตอนเย็น จะได้ครั้งและประมาณ 8 คน นักเรียนได้ประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองได้ด้วย
นายสมบัติ ได้กล่าวอีกว่า ขณะนี้ประชาชนขาดความมั่นใจในการบริหารประเทศ เพราะไม่สามารถควบคุมราคาสินค้าได้ จึงต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตเข้าสู่ความพอเพียง ประหยัดให้มากที่สุดจึงจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ ถ้าขืนยังจับจ่ายใช้สอยอย่างฟุ่มเฟือย รับรองว่าอีกไม่นานก็จะลำบาก ต้องหันมาใช้ชีวิตเดินตามรอยพ่อ ก็คือความพอเพียง จึงจะอยู่รอด
