ศูนย์ข่าวศรีราชา - วารสารการเงินการธนาคารเตรียมจัดงานมหกรรมการเงินภาคตะวันออก หรือ Money Expo Pattaya 2009 ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์นี้ที่พัทยา ชี้มั่นใจายังเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพการลงทุนสูงสุดในประเทศไทย เผยเฉพาะพัทยา-ชลบุรี มีมูลค่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ เชื่องานดังกล่าวจะก่อให้เกิดสภาพคล่องทางการลงทุนและจะมีการทำธุรกิจทางการเงินไม่น้อยกว่าหมื่นล้าน
เมื่อเร็วๆ นี้วารสารการเงินการธนาคาร ที่นำโดยนายสันติ วิริยะรังสฤษฏ์ บรรณาธิการบริหารวารสาร นายวีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา และตัวแทนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งสถาบันการเงินต่างๆ เช่น ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงทเพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ไดเร่วมแถลงข่าวการจัดงานมห กรรมการเงินภาคตะวันออก หรือMoney Expo Pattaya 2009ครั้งที่ 1 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์นี้ ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติพีช โรงแรมรอยัลคลิฟบีช รีสอร์ท พัทยา
นายสันติ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวนับเป็ นการจำลองห้างสรรพสินค้าทางการเงินเพื่อเปิดให้บริการทุกรูปแบบกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และที่ผ่านมาเคยจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ที่ภูมิภาคอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดเชียงใหม่และนครราชสีมา โดยมียอดการทำธุรกรรมทางการเงินสะพัดจำนวนหลายล้านบาท สำหรับในพื้นที่เมืองพัทยาหรือภาคตะวันออก ซึ่งนับเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพด้านการลงทุนที่ดีและต่อเนื่อง แม้จะเจออุปสรรคบ้างแต่อัตราการเจริญเติบโตกลับสูงที่สุดในประเทศไทย
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองพัทยาที่มีตัวเลข GDP สูงสุดในระดับภาคภูมิภาค และในภาพรวมของจังหวัดชลบุรียังพบว่ามีฐานนการลงทุนสูงเป็นร้อยละ 30 ของภาคตะวันออก โดยเฉพาะมูลค่าการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ยังสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ หรือคิดเป็นร้อยละ 60 ของภาคตะวันออก”
สำหรับกิจกรรมที่จะมีขึ้นจะมีทั้งธนาคารและสถาบันทางเงินต่างๆ ร่วมออกบูทธุรกรรมทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน ธุรกิจ SME ภาคการลงทุนด้านธุรกิจ และนับเป็นครั้งแรกของภาคตะวันออกที่ผู้กู้และผู้ให้กู้จะมีโอกาสได้พบปะโดยตรงภายใต้ เงื่อนไขพิเศษทางการเงิน
นายสันติ กล่าวอีกว่า กิจกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยของรัฐบาลซึ่งจะกระตุ้นการลงทุนในภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังทำให้เกิดสภาพคล่องทางด้านบวก ทำให้นักลงทุนมีช่องทางทางการลงทุนเพิ่มมากขึ้น และจะส่งผลต่อยอดธุรกรรมทางการเงิน โดยคาดว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะมียอดการทำธุรกิจเบื้องต้นกว่าหมื่นล้านบาท และหากประสบความสำเร็จอย่างที่ คาดหวังจะจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ที่เมืองพัทยาอีกครั้งอย่างแน่นอนในปีหน้า
