ขอนแก่นพร้อมรับมือปัญหาเลิกจ้าง-ยันยังไม่มีวิกฤตในพื้นที่

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จังหวัดขอนแก่นเตรียมรับมือปัญหาคนว่างงาน ตั้งคณะทำงานเฝ้าระวังและติดตามการถูกเลิกจ้าง พร้อมออกเยี่ยมประเภทกิจการที่มีความเสี่ยงปี 2551 ที่ผ่านมา มียอดผู้ถูกเลิกจ้างเพียงร้อยละ 4 ยันไตรมาส 1-2 ของปี 2552 จะไม่มีการปลดพนักงานในสถานประกอบการใด มั่นใจสามารถคุมสถานการณ์ผู้ว่างงานได้

วันนี้ (14 ม.ค.) นายพยัต ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ในฐานะประธานคณะทำงานเฝ้าระวังและติดตามการถูกเลิกจ้างจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยคณะทำงานประกอบด้วย สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดขอนแก่น จัดหางานจังหวัดขอนแก่น แรงงานจังหวัดขอนแก่น ประกันสังคมจังหวัดขอนแก่น และสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมกันออกตรวจเยี่ยมและรับฟังปัญหาโรงงาน และสถานประกอบการในพื้นที่เพื่อป้องกันปัญหาแรงงานถูกเลิกจ้าง

รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดเตรียมรองรับปัญหาด้านเศรษฐกิจ ที่คาดว่า ในปี 2552 จะมีแนวโน้มการเลิกจ้างงานเพิ่มมากขึ้น โดยได้เตรียมงบประมาณ จำนวน 279 ล้านบาท เพื่อรองรับคนงานที่จะถูกเลิกจ้างกลับมาในพื้นที่ โดยเฉพาะการจัดทำโครงการส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตร เพื่อบรรเทาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจเยี่ยมสถานประกอบการต่างๆ ในพื้นที่ โดยจะไปวันละ 2 แห่ง เพื่อเปรียบเทียบสภาพปัญหา แต่ยังไม่มีรายงานการปลดพนักงานหรือลูกจ้างแต่อย่างใด ทั้งนี้ภาคธุรกิจขนาดใหญ่ยังสามารถปรับตัวได้ โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมยังมียอดสั่งซื้อต่อเนื่องผูกพันถึงตุลาคม 2552

โดยระหว่างนี้ ผู้ประกอบการจะต้องเร่งหาออเดอร์เพิ่ม และเตรียมหามาตรการรองรับหลังหมดออเดอร์จากต่างประเทศ อาทิ โรงงานประเภทสิ่งทอ และรองเท้า ก็ได้เตรียมผลิตแบรนด์ใหม่เป็นสินค้าที่ใช้วัตถุดิบเหมือนกันแทน โดยไม่ต้องเลิกจ้างแรงงาน แต่อาจรับลูกจ้างเพิ่มเพื่อการขยายการตลาดต่อไปด้วย จึงมั่นใจได้ว่าในไตรมาสที่ 1-2 ของปี จะยังไม่เกิดปัญหาเลิกจ้างแรงงานแน่นอน

ด้าน นางภาวดี เอื้ออังคณากุล สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า สถานประกอบการในขอนแก่นมีกว่า 6,000 แห่ง ซึ่งยังไม่มีรายงานการปลดหรือเลิกจ้างพนักงานที่จะก่อให้เกิดวิกฤตแต่อย่างใด

สำหรับคณะทำงานเฝ้าระวังได้กำหนดประเภทกิจการที่อาจมีความสุ่มเสี่ยงต่อปัญหาเลิกจ้างพนักงาน เป็น 10 ประเภทกิจการ โดยไม่เกี่ยวข้องกับขนาดของสถานประกอบการ แต่เป็นประเภทกิจการที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกหรือรับออร์เดอร์จากต่างประเทศ อาทิ สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า เซรามิก และ อิเลกทรอนิกส์ เป็นต้น

ดังนั้น โดยภาพรวมทั้งจังหวัดขณะนี้ยังไม่ถือว่าเกิดปัญหาเลิกจ้าง เนื่องจากมีผู้แจ้งขอประกันตนผู้ว่างงานเพียงร้อยละ 4 ของแรงงานทั้งหมด และได้ใช้สิทธิประกันสังคมไปแล้ว อีกทั้งมีตำแหน่งอัตราว่างมายังจัดหางานจังหวัดเป็นระยะ ผู้ว่างงานจำนวนไม่น้อยจึงสามารถหางานทดแทนได้