พบเครื่องปั๊มยาบ้าซุกป่าเชียงราย - ตร.รวบสาวใหญ่ซุกยาในทวารหนักเตรียมส่งหาดใหญ่

เชียงราย – ตะลึงตรวจป่าพบเครื่องตอกยาบ้า 2 เครื่องซุกป่าละเมาะข้างหมู่บ้าน หวั่นขบวนการค้ายาบ้าปักหลักปั๊มยาในฝั่งไทย ขณะที่ตำรวจเชียงรายจับสาวใหญ่ซุกยาบ้าในทวารหนักกว่า 1,600 เม็ด เตรียมขึ้นเครื่องบินตรงหาดใหญ่

รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงรายแจ้งว่า เจ้าหน้าที่กองกำลังผสมระหว่างฝ่ายปกครอง ทหารจาก ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ทหารพราน ตำรวจภูธร จ.เชียงราย จำนวนประมาณ 100 นาย ได้สนธิกำลังกันขึ้นไปลาดตระเวณตรวจสอบพื้นที่ดอยห้วยชมพู ต.ห้วยชมพู อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อวานนี้ (13 ม.ค.)เพื่อสกัดกั้นและป้องปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจากชายแดนด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง และ อ.แม่จัน ซึ่งเป็นพื้นที่สันเขาคาบเกี่ยวกัน

โดยการตรวจสอบดังกล่าวมีขึ้นภายหลังศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด จ.เชียงราย ได้สืบทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวถูกใช้เพื่อการลำเลียงยาบ้าเข้ามาพักเพื่อส่งต่อไปยังพื้นที่ อ.เมือง และ อ.แม่สรวย ก่อนกระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ อย่างต่อเนื่อง

การตรวจสอบครั้งนี้นำโดยนายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมาย 3 หมู่บ้านคือหมู่บ้านใหม่มูเซอ หมู่บ้านกกน้อยและหมู่บ้านป่าลัน ต.ห้วยชมพู ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าแต่ละหมู่บ้านมีชาวเขาเผ่ามูเซออาศัยอยู่และเป็นพื้นที่ห่างไกลจากชุมชนเมือง รอบๆ หมู่บ้านเป็นป่าเขาสูงชันยากต่อการเข้าไปตรวจสอบให้ทั่วถึง ทั้งนี้ ภายในหมู่บ้านไม่พบว่าสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันรณรงค์ให้ชาวบ้านได้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่โดยแจ้งข่าวสารผ่านผู้นำชุมชนและตำรวจที่ประจำอยู่ในพื้นที่เพื่อช่วยกันป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

นอกจากนี้ ขณะที่กองกำลังผสมได้ตรวจสอบบริเวณป่าละเมาะเขตหมู่บ้านป่าลัน ได้พบส่วนประกอบของเครื่องผลิตยาเสพติดประเภทยาบ้าซึ่งเป็นถังและโม่สำหรับใส่สารเคมีต่างๆ เพื่อตอกเป็นเม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้กอไม้ไผ่ท้ายหมู่บ้านจำนวน 2 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานและสันนิฐานว่าเป็นเครื่องที่กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดนำไปซุกซ่อนไว้เพราะกลัวว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบ และอาจจะนำออกไปใช้งานได้เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่ยกกำลังกลับแล้วอย่างไรก็ตามไม่พบบุคคลต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นเจ้าของ

ทั้งนี้ จากการตรวจพบเครื่องผลิตยาบ้าครั้งนี้ทำให้เจ้าหน้าที่เร่งขยายผลว่าการผลิตยาบ้านั้นผลิตเฉพาะในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านและลักลอบนำเข้ามาในฝั่งไทยหรือมีการผลิตในฝั่งไทยเองด้วย

โดยวันนี้ (14 ม.ค.) พ.ต.ท.ถนัด พลพานิชย์ รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.เชียงราย และ ร.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ช่วยราชการกลุ่มงานสืบสวน ร่วมกับ พ.ต.อิสรภาพ เรือนสิงห์ หน.ชปข.32 สขว.กอ.รมน. ช่วยราชการ ฉก.ม.3 กกล.ผาเมือง นำกำลังตำรวจและทหารเข้าไปตรวจสอบบริเวณอาคารผู้โดยสารการท่าอากาศยานเชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย หลังสืบทราบว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดขนยาบ้ามาจากชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน

ต่อมาได้พบหญิงสาว 1 คน ทราบชื่อต่อมาว่า น.ส.พูนสุข พรมทะยาง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ที่ 2 ต.บ้านแซว อาชีพทำไร่ข้าวโพดนั่งปะปนอยู่กับผู้โดยสารอื่นๆ เพื่อรอขึ้นเครื่องบินตรงกับที่ได้รับแจ้งจึงเชิญหญิงคนดังกล่าวมาสอบถาม

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพแต่โดยดีว่าได้ซุกซ่อนยาบ้าเอาไว้ในทวารหนัก เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปตรวจสอบร่างกายที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งพบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงยางอนามัย จำนวน 4 ก้อนๆละ 400 เม็ด รวมยาบ้า 1,600 เม็ด ยัดอยู่ในช่องทวารหนัก ซึ่งกว่าแพทย์จะนำออกมาจากร่างกายได้ ต้องใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นการยัดเข้าไปเป็นจำนวนมากจนก้อนถุงยางอนามัยเข้าไปอยู่ลึกในลำไส้ใหญ่

สอบสวน น.ส.พูนสุข ให้การสารภาพว่ารับจ้างจากนายสมพล แก้วคำ อายุ 44 ปี เป็นชาวพัทลุง แต่มีบ้านพักอยู่ที่บ้านป่าตึง หมู่ที่ 5 ต.บ้านแซว โดยเป็นคนบรรจุยาบ้าใส่ในถุงยางอนามัยให้เองและได้ว่าจ้างในราคาเม็ดละ 10 บาท ให้นำยาบ้าไปส่งที่สนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา แต่เนื่องจากเป็นการเดินทางโดยเครื่องบินจึงเกรงว่าหากนำใส่กระเป๋าหรืออื่นๆ จะถูกเครื่องเอ็กซเรย์ของท่าอากาศยานตรวจสอบได้ และหากเดินทางด้วยวิธีอื่นก็จะใช้เวลานาน จึงเดินทางด้วยเครื่องบินและได้ยัดถุงยางอนามัยดังกล่าวเข้าไปในทวารหนักจนหมด ซึ่งเคยทำมาก่อนหน้านี้แล้ว 2 ครั้ง

ตำรวจจึงติดตามจับกุมตัวนายสมพลได้ที่บ้านจากนั้นส่งให้ ร.ต.ท.อนุพันธ์ กันถารัตน์ ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงราย ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นนายสมพลได้ให้การปฎิเสธ