ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจภาค 3 รวบขบวนการค้ายาบ้ารายใหญ่รับปีวัว ได้ผู้ต้องหารวม 6 คน พร้อมยาบ้า 8.2 หมื่นเม็ด รถยนต์ 3 คัน และของกลางอีก 14 รายการ รวมกว่า 3 ล้าน เผย สอบประวัติหัวหน้าแก๊ง พบถูกจำคุกคดียาเสพติดนาน 9 ปี และพ้นโทษออกมาได้ 5 ปี แล้วหันกลับมาทำผิดซ้ำอีก ด้านรอง ผบช.ภ.3 สั่งตำรวจ 8 จว.อีสานล่างเข้มงวด ตั้งด่านตรวจสกัดถี่มากขึ้น
วันนี้ (6 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.อำนวย มหาผล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาบ้ารายใหญ่ ได้ผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย คือ นายพงษ์ศักดิ์ ปะวะกุล อายุ 24 ปี, นายอุนสรณ์ สายศักดา อายุ 21 ปี ชาว อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร, นายศักดิ์ชัย ปนสุวรรณ อายุ 40 ปี, นายปรีชา ต้นรักษา อายุ 45 ปี ชาวกรุงเทพฯ, นายชัยยันต์ แหวนมีค่า อายุ 55 ปี ชาว จ.ฉะเชิงเทรา และ นางบรรจง หนูเทศ อายุ 50 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร
พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 82,000 เม็ด, รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ หมายเลขทะเบียน 5652 อำนาจเจริญ 1 คัน, รถยนต์เก๋งจำนวน 2 คัน, โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง, สมุดธนาคาร ทองรูปพรรณ และเงินสดรวม 14 รายการ มูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 02.30 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยโสธร ได้ตั้งจุดตรวจสกัดยาเสพติดตามแผนปฏิบัติการ “90 วัน พ้นภัยยาเสพติด” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พบรถยนต์กระบะต้องสงสัยจอดพักอยู่ที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท.กม.ที่ 3 สี่แยกบายพาสดอนมะยาง ถ.เลี่ยงเมือง ต.ตาดทอง อ.เมือง จ.ยโสธร จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น ภายในรถพบ นายพงษ์ศักดิ์ คนขับ และ นายอนุสรณ์ นั่งมาด้านหลังแค็บ และพบยาบ้าจำนวน 82,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทาง วางไว้ด้านหลังที่นั่งผู้โดยสาร ซึ่ง นายอนุสรณ์ นอนทับไว้เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่า รับยาบ้าจำนวนดังกล่าวมาจาก นายจ่อย ไม่ทราบนามสกุล ที่บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาอำนาจเจริญ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ เพื่อนำไปส่งที่ กรุงเทพฯ โดยมีการเปลี่ยนคนนำส่งยาบ้าเป็นทอดๆ ได้ค่าจ้างครั้งละ 10,000 บาท ทำมาแล้วหลายครั้ง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผล สามารถติดตามจับกุมเพื่อนร่วมขบวนการได้อีก 4 คน ในเขต อ.ป่าติ้ว และอ.เมือง จ.ยโสธร พร้อมของกลางอีก 14 รายการดังกล่าว และสามารถหลบหนีไปได้อีก 1คน จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ทราบว่า นายชัยยันต์ และ นางบรรจง 2 สามีภรรยา เป็นหัวหน้าแก๊งในการสั่งการและติดต่อซื้อยาเสพติดมาจากแถบประเทศเพื่อนบ้าน และจ้างให้ขบวนการขนยาบ้ามาส่งให้เป็นทอดๆ จนมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว จากการสอบประวัติ นายชัยยันต์ ทราบว่า เคยต้องคดียาเสพติดและถูกตัดสินจำคุก 9 ปี และพ้นโทษออกมาได้ประมาณ 4-5 ปี ก็มาก่อเหตุและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในครั้งนี้
พล.ต.ต.อำนวย มหาผล รอง ผบช.ภาค 3 เปิดเผยว่า สถานการณ์โดยภาพรวมของปัญหายาเสพติดใน 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 ยังคงมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ใช้เป็นเส้นทางลำเลียงเพื่อส่งเข้าไปขายให้ลูกค้าที่กรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ หลังเข้าสู่ปีใหม่ 2552 การจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดครั้งนี้ถือเป็นรายใหญ่ที่สุด โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่เข้มงวดในการตั้งด่านตรวจสกัด โดยขณะนี้ในพื้นที่ตำรวจภาค 3 มีจุดตรวจตลอด 24 ชั่วโมงทั้งสิ้น 10 จุด และจุดตรวจทุก 3 ชั่วโมงอีกกว่า 70 จุด
ล่าสุด ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ป.ป.ส.) ได้สนับสนุนอุปกรณ์การตรวจหาสารเสพติดให้กับจุดตรวจในการตรวจหาสารเสพติดจากผู้เสพ แต่เนื่องจากจุดตรวจมีมากอุปกรณ์ดังกล่าวยังไม่เพียงพอ
“เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเข้มงวดอย่างเต็มที่เพื่อสกัดกั้นขบวนการค้ายาเสพติดไม่ให้ลำเลียงเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งคงต้องขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสด้วย” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว