เชียงราย – ปีนี้จังหวัดฯ ไม่กล้าตั้งเป้าอุบัติเหตุปีใหม่ หลังสิ้นปีกลายยอดผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บพุ่งเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ แต่ประกาศตั้งศูนย์ฯ ยึดเงินสกัดยาบ้าทะลักช่วงท่องเที่ยวคึกคัก
วันนี้ (12 ธ.ค.)พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ ผบก.ภ.เชียงราย ได้เป็นประธานในการจัดการประชุมศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จ.เชียงราย ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันอุบัติเหตุ ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2551-2552 หรือ 7 วันอันตรายระหว่างวันที่ 30 ธ.ค.2551-วันที่ 5 ม.ค.2552 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมครัน
ทั้งนายสุเทพ เดชชัยศรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสารณภัย (ปภ.) เชียงราย โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย ฯลฯ เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น หลังจากปี 2550-2551 ในช่วง 7 วันอันตรายพบว่ามีผู้เสียชีวิตถึง 6 ราย บาดเจ็บ 169 ราย
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ปกติเชียงรายจะมีอุบัติเหตุตามท้องถนนเฉลี่ยวันละ 45-50 รายต่อเดือน แต่เมื่อถึงช่วง 7 วันอันตรายมักจะพบค่าเฉลี่ยว่าเกิดอุบัติเหตุ 160-180 รายต่อวัน ซึ่งถือว่าสูงจึงทำให้เชียงรายถูกมองว่าเป็นจำนวนอุบัติเหตุอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศเสมอมา โดยสาเหตุมาจากการดื่มสุราเป็นส่วนใหญ่
ดังนั้น ในปีนี้จึงได้ร่วมกันออกมาตรการป้องกัน และดำเนินการกับผู้ที่ดื่มสุราขณะขับอย่างเข้มข้น โดยจัดให้ทางสำนักงานคุมประพฤติ เข้ามามีส่วนร่วมด้วยการควบคุมตัวคนดื่มไว้ก่อนกรณีมีคนฝ่าฝืน
นอกจากนี้ยังได้ของบประมาณจากสำนักงานขนส่ง จ.เชียงราย จำนวน 5 ล้านบาท ในการจัดให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการป้องกันอุบัติเหตุ โดยจัดประกวดตำบลต่างๆ ทั่วจังหวัด กรณีตำบลใดมีอุบัติเหตุน้อยหรือไม่เกิดเลยก็จะได้รับถ้วยรางวัลจากผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้ทุกท้องที่แข่งขันกันลดจำนวนอุบัติเหตุนั่นเอง
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในปีนี้คณะกรรมการทั้งหมดเห็นพ้องกันว่าจะไม่มีการตั้งเป้าเรื่องจำนวนอุบัติเหตุ เพราะถ้ามีการกำหนดและมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริงแม้เพียงรายเดียวผู้ที่ต้องเดือดร้อนก็คือประชาชนนั่นเอง ดังนั้นจึงไม่มีการตั้งเป้าแต่จะพยายามไม่ให้เกิดการเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บเลยเป็นดีที่สุด
“ปีนี้ยังมีการตั้งศูนย์ตรวจสอบวงจรเงินผู้ค้ายาเสพติดที่ชั้น 3 ของกองบังคับการ ภ.เชียงราย เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นแห่งแรกที่ทาง ปปส.และ ปปง.นำไปเป็นต้นแบบ ทั้งนี้ศูนย์จะทำการตรวจสอบและยึดเงินที่คาดว่าจะนำไปใช้เพื่อการค้ายาเสพติด ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้ตั้งแต่ช่วงตั้งศูนย์ได้ร่วมกับ ปปง.ตรวจยึดเงินจากผู้ต้องสงสัยแล้ว 10 กว่ารายๆ ละประมาณ 2-3 ล้านบาท จากนั้นจะตรวจสอบว่าเป็นเงินที่ใช้ซื้อยาเสพติดหรือไม่อย่างไรต่อไป”
ศูนย์ดังกล่าวจะมีบทบาทอย่างมากในช่วงปีใหม่นี้เช่นกัน เนื่องจากคาดว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดอาศัยฤดูท่องเที่ยว ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่านโดยเฉพาะนักท่องเที่ยว แอบนำยาเสพติดปะปนกันเข้ามาส่งชั้นในของประเทศ กระนั้นจากการตั้งศูนย์ฯ ดังกล่าวพบว่าปัจจุบันได้ลดจำนวนผู้ค้ารายใหญ่ลงไปได้อย่างมากแล้ว จึงสังเกตได้จากการที่ผู้ถูกจับกุมในช่วงนี้เป็นรายย่อยขนยาบ้าเข้ามาครั้งละเป็นหลักพันเม็ดเท่านั้น ซึ่งในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ทางตำรวจจะพยายามสกัดกั้นตามด่านตรวจต่างๆ รวมทั้งมาตรการอื่นๆ อย่างเข้มข้นต่อไป
วันนี้ (12 ธ.ค.)พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ ผบก.ภ.เชียงราย ได้เป็นประธานในการจัดการประชุมศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จ.เชียงราย ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันอุบัติเหตุ ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2551-2552 หรือ 7 วันอันตรายระหว่างวันที่ 30 ธ.ค.2551-วันที่ 5 ม.ค.2552 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมครัน
ทั้งนายสุเทพ เดชชัยศรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสารณภัย (ปภ.) เชียงราย โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย ฯลฯ เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น หลังจากปี 2550-2551 ในช่วง 7 วันอันตรายพบว่ามีผู้เสียชีวิตถึง 6 ราย บาดเจ็บ 169 ราย
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ปกติเชียงรายจะมีอุบัติเหตุตามท้องถนนเฉลี่ยวันละ 45-50 รายต่อเดือน แต่เมื่อถึงช่วง 7 วันอันตรายมักจะพบค่าเฉลี่ยว่าเกิดอุบัติเหตุ 160-180 รายต่อวัน ซึ่งถือว่าสูงจึงทำให้เชียงรายถูกมองว่าเป็นจำนวนอุบัติเหตุอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศเสมอมา โดยสาเหตุมาจากการดื่มสุราเป็นส่วนใหญ่
ดังนั้น ในปีนี้จึงได้ร่วมกันออกมาตรการป้องกัน และดำเนินการกับผู้ที่ดื่มสุราขณะขับอย่างเข้มข้น โดยจัดให้ทางสำนักงานคุมประพฤติ เข้ามามีส่วนร่วมด้วยการควบคุมตัวคนดื่มไว้ก่อนกรณีมีคนฝ่าฝืน
นอกจากนี้ยังได้ของบประมาณจากสำนักงานขนส่ง จ.เชียงราย จำนวน 5 ล้านบาท ในการจัดให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการป้องกันอุบัติเหตุ โดยจัดประกวดตำบลต่างๆ ทั่วจังหวัด กรณีตำบลใดมีอุบัติเหตุน้อยหรือไม่เกิดเลยก็จะได้รับถ้วยรางวัลจากผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้ทุกท้องที่แข่งขันกันลดจำนวนอุบัติเหตุนั่นเอง
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในปีนี้คณะกรรมการทั้งหมดเห็นพ้องกันว่าจะไม่มีการตั้งเป้าเรื่องจำนวนอุบัติเหตุ เพราะถ้ามีการกำหนดและมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริงแม้เพียงรายเดียวผู้ที่ต้องเดือดร้อนก็คือประชาชนนั่นเอง ดังนั้นจึงไม่มีการตั้งเป้าแต่จะพยายามไม่ให้เกิดการเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บเลยเป็นดีที่สุด
“ปีนี้ยังมีการตั้งศูนย์ตรวจสอบวงจรเงินผู้ค้ายาเสพติดที่ชั้น 3 ของกองบังคับการ ภ.เชียงราย เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นแห่งแรกที่ทาง ปปส.และ ปปง.นำไปเป็นต้นแบบ ทั้งนี้ศูนย์จะทำการตรวจสอบและยึดเงินที่คาดว่าจะนำไปใช้เพื่อการค้ายาเสพติด ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้ตั้งแต่ช่วงตั้งศูนย์ได้ร่วมกับ ปปง.ตรวจยึดเงินจากผู้ต้องสงสัยแล้ว 10 กว่ารายๆ ละประมาณ 2-3 ล้านบาท จากนั้นจะตรวจสอบว่าเป็นเงินที่ใช้ซื้อยาเสพติดหรือไม่อย่างไรต่อไป”
ศูนย์ดังกล่าวจะมีบทบาทอย่างมากในช่วงปีใหม่นี้เช่นกัน เนื่องจากคาดว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดอาศัยฤดูท่องเที่ยว ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่านโดยเฉพาะนักท่องเที่ยว แอบนำยาเสพติดปะปนกันเข้ามาส่งชั้นในของประเทศ กระนั้นจากการตั้งศูนย์ฯ ดังกล่าวพบว่าปัจจุบันได้ลดจำนวนผู้ค้ารายใหญ่ลงไปได้อย่างมากแล้ว จึงสังเกตได้จากการที่ผู้ถูกจับกุมในช่วงนี้เป็นรายย่อยขนยาบ้าเข้ามาครั้งละเป็นหลักพันเม็ดเท่านั้น ซึ่งในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ทางตำรวจจะพยายามสกัดกั้นตามด่านตรวจต่างๆ รวมทั้งมาตรการอื่นๆ อย่างเข้มข้นต่อไป
