“ป๋าเปรม”เปิดบ้านโคราชให้โอวาทปีใหม่ – ย้ำสร้างรักสามัคคีในอีสาน ปิดฉากคนไทยขัดแย้ง

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา-"ป๋าเปรม" เปิดบ้านโคราชให้ บิ๊กทหาร-ตำรวจ–ผู้ว่าฯ จังหวัดอีสานและนักธุรกิจ ตบเท้าอวยพรปีใหม่ พร้อมให้โอวาทโดยย้ำฝากทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันสร้างความรักสามัคคีในภาคอีสาน ชี้คนไทยทะเลาะกันมานานแล้วถึงเวลาหยุดจบเป็นฉากสุดท้ายเสียที มั่นใจ คนไทยยึดมั่น"ในหลวง" เป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจะทำให้แก้ปัญหาทุกอย่างได้ไม่ยาก

วันนี้( 10 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บ้านไร้กังวล หน้ากองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ( บชร.2) ถ.สืบสิริ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้มีข้าราชการทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน พ่อค้า คหบดี นักธุรกิจ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรภาคเอกชน นำโดย พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 , พล.ท.โสภณ ดิษฐ์แย้ม แม่ทัพน้อยที่ 2 , พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ 3) , นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา , นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวส่วนราชการภาคอีสาน 19 จังหวัด ได้เข้ามอบกระเช้าดอกไม้ของขวัญ และ บริจาคเงินสมทบทุนมูลนิธิเปรม ติณสูลานนท์ จำนวนเงิน 400,000 บาท ให้กับ พล.อ.เปรม เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2552

ทั้งนี้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้กล่าวให้โอวาทแก่ผู้มาร่วมงานว่า ที่จริงพวกเราอวยพรกันมาหลายสิบปีแล้ว และ เรารู้จักกันเหมือนพี่เหมือนน้อง แม่ทัพภาคที่ 2 เองก็อยู่โคราชมาตั้งแต่เด็กจนโตเป็นแม่ทัพ และพวกเราหลายคนที่เป็นฝ่ายอื่นก็อยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาเป็นเวลานาน เมื่อสักครู่แม่ทัพภาคที่ 2 พูดถึงเรื่องความรักความสามัคคีของคนในชาติของเรา และแม่ทัพฯ ยังยืนยันว่า จะทำทุกวิถีทางที่จะให้เกิดความรัก สามัคคีของคนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่แม่ทัพภาคที่ 2 รับผิดชอบอยู่ รู้สึกดีใจมากที่ได้ยินแม่ทัพฯ พูดอย่างนี้ เพราะนั่นคือปัญหาสำคัญที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาภาคอีสานของเรา ถ้าเราสามารถทำให้เกิดความรักความสามัคคี ความเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมได้ก็จะเป็นประโยชน์ใหญ่หลวงต่อคนในภาคอีสาน

"โดยส่วนตัวมั่นใจว่า ปัญหานี้แก้ไม่ยาก พวกเราทำได้ และหวังผลสำเร็จได้ เพราะตั้งแต่มารับราชการที่ภาคอีสานจนกระทั่งจนถึงบัดนี้ ได้เรียนรู้พี่น้องในภาคอีสานหลายอย่าง และอย่างหนึ่งที่ทำให้มั่นใจได้คือ คนในภาคอีสานเป็นคนที่พูดภาษาชาวบ้าน เข้าใจง่าย รับรู้เรื่องราวต่างๆ ได้รวดเร็ว ฉะนั้นถ้าเราไปมองปัญหาของสิ่งที่ทำให้เกิดความไม่พอใจกัน ไม่ลงรอยกัน แล้วมาช่วยกันคิดแก้ปัญหา คิดว่าพวกเราทำได้สำเร็จแน่นอน ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องทั้งทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ"

พล.อ.เปรม กล่าวต่อว่า แต่ปัญหาที่สำคัญคือความไม่เข้าใจกัน ซึ่งต้องหันหน้าเข้าหากัน โดยแท้จริงแล้วเรามีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นที่เชิดชูเคารพนับถือ และทุกคนก็เคารพนับถือบูชา ศรัทธาในความจงรักภักดีที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เชื่อว่าตราบใดที่เรามีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นที่เคารพสักการะแล้ว เราจะแก้ปัญหาได้ไม่ยาก

พล.อ.เปรม กล่าวว่า อยากจะฝากพี่น้องทั้งหลาย โดยเฉพาะท่านแม่ทัพภาคที่ 2 หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 19 จังหวัดในภาคอีสาน องค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ และประชาชนที่รัก ที่อยากเห็นคนภาคอีสานกลมเกลียวกันเหมือนแต่ก่อนนี้ น่าจะทำได้สำเร็จ ท่านทั้งหลายส่วนใหญ่ก็เกิดอยู่ที่ภาคอีสานนี้ และเติบโตขึ้นมาในภาคอีสาน ท่านนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา (นายสุรวุฒิ เชิดชัย) ก็เกิดที่นี่และโตมา ตนเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ

อย่างไรก็ตาม มั่นใจเหลือเกินว่า ถ้าเราเอาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นหลักชัยแล้วนั่งหันหน้า เข้าหากันปรึกษากัน ว่าจะทะเลาะกันไปทำไม มีเหตุผลอะไรหรือมีเรื่องร้ายแรงอะไรที่เราจะต้องมานั่งทะเลาะกัน เราจะคิดออกเลยว่าเรื่องที่เรากำลังไม่ค่อยจะชอบกัน รู้สึกมันไม่ค่อยจะยากเย็นอะไรที่จะกลับมาชอบกัน

พล.อ.เปรม กล่าวต่อว่า ถ้าเราย้อนกลับไปเมื่อ 30-40 ปี ตั้งแต่สมัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังมีการก่อการร้าย ปัญหามันยิ่งใหญ่กว่านี้เยอะมาก เราก็สามารถทำภาคอีสานของเราให้สงบเรียบร้อยได้ ที่พูดไม่ใช่ว่าพวกเราทำ คือชาวบ้านเขาร่วมมือร่วมใจกัน เขาเข้าใจและพร้อมใจว่า เอาละต่อไปนี้ไม่มีแล้ว ผกค. (ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์) ก็จบกันแค่นั้น เป็นความต้องของชาวบ้านที่เขาอยากจะจบ เราก็ทำให้เขาจบ ปัญหาที่มีอยู่นี่ก็เหมือนกัน ถ้าเราอยากจะจบเราก็ช่วยกันไปให้มันจบ ปัญหาไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย หรือไม่ใช่เรื่องของความร้ายแรงใหญ่โตมโหฬารอะไร เพียงแต่พูดจากันเท่านั้นก็น่าจะประสบผลสำเร็จได้

ขอให้พวกเราระลึกและขออ้อนวอนพระสยามเทวาธิราชได้ช่วยอีกแรงหนึ่งว่า ช่วยบอกคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือคนไทยทั้งประเทศว่า น่าจะหยุดกันได้แล้ว นานพอสมควรแล้ว พวกเราควรจะบอกกันไปว่า ทะเลาะกันมาก็นานมากแล้ว ถึงเวลาจบเป็นฉากสุดท้ายได้แล้ว ขอพูดซ้ำว่า ไม่น่าจะยาก ตนมั่นใจว่า คนไทยยังรักกัน ยังพร้อมที่จะหันหน้าเข้าหากัน ถ้าพวกเราคุยกันให้มันได้เรื่องได้ราวแล้ว ขอทบทวนเรื่องที่ตนพูดที่กรุงเทพฯ ซึ่งได้แนะนำว่า จะต้องอดทน อดกลั้น และเสียสละ ทั้ง 3 อย่างนี้จะช่วยพูดจาให้ง่ายขึ้น

ประธานองคมนตรี กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่ได้พูดอีกคือ ผู้บังคับบัญชาชั้นสูง หรือ ข้าราชการชั้นสูง หรือผู้บริหารชั้นสูงขององค์กรอิสระต่างๆ ช่วยกันประพฤติตนเป็นตัวอย่าง แล้วแสดงความรัก สามัคคี ออกให้เห็นว่า พวกเราไม่มีปัญหาอะไรกันเลย คนอื่นก็ไม่น่าจะมีปัญหา และสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นในหมู่ของพวกเรา ตนเชื่อว่าพวกเราเสียใจ ทุกคนกำลังเสียใจที่ทำไมจะต้องมานั่งมีปัญหาซึ่งกันและกัน เรื่องของเหตุของผลก็มี ใครผิดก็ว่า ใครถูกก็ยกย่องชมเชยกัน แต่เรื่องมานั่งด่าทอกันหรือว่า ตำหนิประณามซึ่งกันและกัน ตนไม่คิดว่าทุกคนมีความสุข ไม่ทำให้ใครมีความสุข เมื่อวานนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯท่านรับสั่งถึงเรื่องความสุขให้ผู้พิพากษา ให้ตุลาการที่ไปถวายสัตย์กับท่านให้ฟัง โปรดสังเกตว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านรับสั่งถึงเรื่องความสุขอย่างน้อย 2 ครั้งแล้ว