ศูนย์ข่าวศรีราชา - ด่านตรวจคนเข้าเมือง ศรีราชา เผยสาเหตุไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสำราญจากประเทศกัมพูชาเข้าเทียบท่าที่เกาะสีชัง เนื่องจากทำผิดระเบียบในข้อกฎหมาย
แหล่งข่าวระดับสูงจากด่านตรวจคนเข้าเมือง ศรีราชา จังหวัดชลบุรี กล่าวถึง กรณีการห้ามเรือเรือสำราญ ชื่อเรือ จูปีเตอร์ สัญชาติปานามา มาจากสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา เข้าเทียบท่าที่เกาะสีชัง เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม ว่า เรือลำดังกล่าวมีโมีลูกเรือทั้งสิ้น 700 คน โดยแจ้งตม.ว่าจะขอเติมน้ำ โดยทอดสมอที่หน้าเกาะสีชัง ในช่วงเวลา 14.00 น. ออกเวลา 17.00 น. หลังจากนั้นก็จะเดินทางกลับ
เรือลำดังกล่าว แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ทางเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะด่านตรวจคนเข้าเมืองเกาะสีชัง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นตรวจสอบตามระเบียบ เพื่อทราบจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาและจะขึ้นฝั่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเอกสารต่างๆของเจ้าหน้าที่ พบว่า มีนักท่องเที่ยวบางคนบนเรือ มีหนังสือเดินทาง (วีซ่า) หมดอายุ เจ้าหน้าที่จึงไม่อนุญาตให้เข้าประเทศอย่างเด็ดขาด เพราะถือว่าผิดกฎหมายการเข้าประเทศ
หลังจากนั้นจึงได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงพบว่า เรือสำราญลำดังกล่าว ได้แจ้งเข่าเทียบท่า เมื่อวันที่ 23 ธนวาคม 2551 ซึ่ง โดยปกติ แล้วการแจ้งเข้าเทียบท่านั้นจะต้องแจ้งล่วงหน้าประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติอย่างหนึ่งแล้ว
พร้อมทั้งในการแจ้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม แจ้งว่าจะมีผู้โดยสารจำนวน 24 คน แต่พอมาถึงจริงๆ ปรากฏว่ามีผู้โดยสารมาถึง 700 คน และหลังทำการตรวจสอบพบว่า เป็นชาวเขมรประมาณ 200 คน ซึ่งไม่วีซ่า เจ้าหน้าหน้าที่จึงไม่สามารถให้ขึ้นฝั่งได้ นอกจากนี้ยังมีชาวเวียดนามอีกประมาณ 20 กว่าคน ต้องการขอขึ้นฝั่งและจะต่อเครื่องบินกลับประเทศเวียดนาม ซึ่งกลุ่มนี้มีเอกสารถูกต้อง ทุกอย่างทางเจ้าหน้าที่จึงอนุญาตให้ขึ้นฝั่งได้ และขณะนี้ก็เดินทางกลับประเทศไปแล้ว
ส่วนที่เหลือ เจ้าหน้าที่ได้มี 2 ทางเลือก คือ หากจะขึ้นฝั่งก็ต้องมีเงินประกัน ส่วนที่มีหนังสือถูกต้องก็ขึ้นได้ตามปกติ ส่วนทางเลือกที่ 2 คือ ให้ขึ้นได้เฉพาะกลุ่มที่มีหนังสือเดินทางเอกสารถูกต้องเท่านั้น แต่กลุ่มที่ไม่มีก็ขอให้อยู่ในเรือ แต่ทางเอเย่นต์เรือไม่สามารถตกลงได้เราจึงไม่สามารถให้ขึ้นฝั่งได้
เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองไม่ทราบว่า นักท่องเที่ยวดังกล่าวจะพอใจหรือไม่พอใจ แต่เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ และเมื่อไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ไม่สามารถละเว้นได้
“ในความเป็นจริง หากมีการประสานงานในระดับสูง อาจจะผ่อนผันหรือยกเว้นได้เป็นบางกรณี แต่กรณีนี้ไม่มีการประสานงานมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติเช่นนั้น โดยเรื่องนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และหากอนุญาตไป และเกิดปัญหาขึ้น หน่วยงานด่านตรวจคนเข้าเมืองศรีราชา คงจะรับผิดชอบไม่ไหว” แหล่งข่าวระดับสูง กล่าว
แหล่งข่าวระดับสูงจากด่านตรวจคนเข้าเมือง ศรีราชา จังหวัดชลบุรี กล่าวถึง กรณีการห้ามเรือเรือสำราญ ชื่อเรือ จูปีเตอร์ สัญชาติปานามา มาจากสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา เข้าเทียบท่าที่เกาะสีชัง เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม ว่า เรือลำดังกล่าวมีโมีลูกเรือทั้งสิ้น 700 คน โดยแจ้งตม.ว่าจะขอเติมน้ำ โดยทอดสมอที่หน้าเกาะสีชัง ในช่วงเวลา 14.00 น. ออกเวลา 17.00 น. หลังจากนั้นก็จะเดินทางกลับ
เรือลำดังกล่าว แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ทางเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะด่านตรวจคนเข้าเมืองเกาะสีชัง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นตรวจสอบตามระเบียบ เพื่อทราบจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาและจะขึ้นฝั่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเอกสารต่างๆของเจ้าหน้าที่ พบว่า มีนักท่องเที่ยวบางคนบนเรือ มีหนังสือเดินทาง (วีซ่า) หมดอายุ เจ้าหน้าที่จึงไม่อนุญาตให้เข้าประเทศอย่างเด็ดขาด เพราะถือว่าผิดกฎหมายการเข้าประเทศ
หลังจากนั้นจึงได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงพบว่า เรือสำราญลำดังกล่าว ได้แจ้งเข่าเทียบท่า เมื่อวันที่ 23 ธนวาคม 2551 ซึ่ง โดยปกติ แล้วการแจ้งเข้าเทียบท่านั้นจะต้องแจ้งล่วงหน้าประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติอย่างหนึ่งแล้ว
พร้อมทั้งในการแจ้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม แจ้งว่าจะมีผู้โดยสารจำนวน 24 คน แต่พอมาถึงจริงๆ ปรากฏว่ามีผู้โดยสารมาถึง 700 คน และหลังทำการตรวจสอบพบว่า เป็นชาวเขมรประมาณ 200 คน ซึ่งไม่วีซ่า เจ้าหน้าหน้าที่จึงไม่สามารถให้ขึ้นฝั่งได้ นอกจากนี้ยังมีชาวเวียดนามอีกประมาณ 20 กว่าคน ต้องการขอขึ้นฝั่งและจะต่อเครื่องบินกลับประเทศเวียดนาม ซึ่งกลุ่มนี้มีเอกสารถูกต้อง ทุกอย่างทางเจ้าหน้าที่จึงอนุญาตให้ขึ้นฝั่งได้ และขณะนี้ก็เดินทางกลับประเทศไปแล้ว
ส่วนที่เหลือ เจ้าหน้าที่ได้มี 2 ทางเลือก คือ หากจะขึ้นฝั่งก็ต้องมีเงินประกัน ส่วนที่มีหนังสือถูกต้องก็ขึ้นได้ตามปกติ ส่วนทางเลือกที่ 2 คือ ให้ขึ้นได้เฉพาะกลุ่มที่มีหนังสือเดินทางเอกสารถูกต้องเท่านั้น แต่กลุ่มที่ไม่มีก็ขอให้อยู่ในเรือ แต่ทางเอเย่นต์เรือไม่สามารถตกลงได้เราจึงไม่สามารถให้ขึ้นฝั่งได้
เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองไม่ทราบว่า นักท่องเที่ยวดังกล่าวจะพอใจหรือไม่พอใจ แต่เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ และเมื่อไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ไม่สามารถละเว้นได้
“ในความเป็นจริง หากมีการประสานงานในระดับสูง อาจจะผ่อนผันหรือยกเว้นได้เป็นบางกรณี แต่กรณีนี้ไม่มีการประสานงานมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติเช่นนั้น โดยเรื่องนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และหากอนุญาตไป และเกิดปัญหาขึ้น หน่วยงานด่านตรวจคนเข้าเมืองศรีราชา คงจะรับผิดชอบไม่ไหว” แหล่งข่าวระดับสูง กล่าว