"ฮุนเซน" ร่วมกับ รองนายกฯไทย เปิดถนน 48 -สะพาน 4 แห่ง

เกาะกง - สมเด็จฮุนเซนร่วมกับสมชาย วงษ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีไทยเปิดถนน 48 -สะพาน 4 แห่ง เชื่อมไทย-เกาะกง เชื่อสร้างเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว 2 ประเทศเติบโตร่วมกัน

วันนี้( 14 พ.ค. 2551) ที่หน้าศาลากลางจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมนายพัด สุภาภา ส.ว.เกาะกง นายยุทธ ภูทอง ผู้ว่าราชการ จ.เกาะกง ร่วมกับ นาย สมชาย วงษ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีไทย นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ และหัวหน้าส่วนราชการของ จ.ตราด นำโดยนายสมศักดิ์ โยนกพันธ์ รองผู้ว่าราชการ จ.ตราด ร่วมพิธีเปิดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 48 และสะพาน 4 แห่ง

นายสุน จันทร รัฐนตรีว่าการกระทรวงโยธิาธิการและขนส่ง กล่าวว่า ถนนเส้นนี้ เป็นถนนที่ทางรัฐบาลไทยได้ ให้งบประมาณสนับสนุนนจำนวน 1,000 กว่าล้านบาท โดยถนนสายนี้จะเชื่อมกับถนนสายที่ 4 ไปทางพนมเปญ และสีหนุวิลล์ และยังสามารถเข้าไปยังเวียดนามตอนใต้ ซึ่งจะเป็นการเชื่อมการค้า เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ของทั้ง 2 ประเทศ และสามารถพัฒนาเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศทั้งสองประเทศ ซึ่งกัมพูชาก็มีโครงการที่จะพัฒนาระบบคมนาคมระหว่างประเทศ ทั้งภาคตะวันออกของไทยและภาคอีสานของไทยและจะเกิดผลดีในอนาคต

ขณะที่นายสมชาย กล่าวว่า ถนนสาย 48 และ สะพาน 4 แห่ง ได้แก่ สะพานข้ามแม่น้ำตาไต สตึงซายอแรง อันดองตึ๊ก และกัมปงโสม พี่น้องชาวกัมพูชาจากจังหวัดเกาะกงก็จะสามารถเดินทางถึงอำเภอสแออัมเปิล และต่อไปยังกรุงพนมเปญได้อย่างสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น

“โครงการพัฒนาถนนสาย 48 และสะพานอีก 4 แห่ง โดยการสนับสนุนจากรัฐบาลและประชาชนชาวไทย เป็นความคิดริเริ่มอันเกิดจากวิสัยทัศน์ และสายตาที่ยาวไกลของสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรี แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ที่มุ่งพัฒนาและนำความเจริญไปสู่ทุกพื้นที่ทั่วทั้งประเทศ ซึ่งไมเพียงแต่เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนชาวกัมพูชาเท่านั้น”

ขณะที่สมเด็จฮุนเซน กล่าวว่า ถนนสายนี้เป็นถนนแห่งมิตรภาพของ 2 ประเทศ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย ซึ่งชาวกัมพูชาต้องขอบคุณประเทศไทยที่ให้การสนับสนุนในการก่อสร้างถนนเส้นนี้จะเชื่อมการคมนาคมระหว่าง 2 ประเทศ ที่จะสร้างความมั่นคงมาสู่ประเทศทั้ง 2 ประเทศ

อนึ่ง เมื่อมองในภาพรวม ถนนสาย 48 เชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยได้แก่ ท่าเรือแหลมฉบัง นิคมอุตสาหกรรมและแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด เข้ากับภาคตะวันตกเฉียงใต้ของ กัมพูชา กลายเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงสายอาเชียนหมายเลข AH 123 ซึ่งมีศักยภาพสูง มีความสวยงามตามธรรมชาติและกำลังมุ่งไปสู่การพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นนิคมอุตสาหกรรมเกาะกงที่รัฐบาลไทยได้ช่วยเหลือศึกษาความ เหมาะสม การส่งเสริมการท่องเที่ยวรวมถึงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ และท่าเรือน้ำลึกที่สีหนุวิลล์ อีกทั้งเชื่อมต่อกับพื้นที่ชายฝั่งทะเลและเขตเศรษฐกิจในภาคใต้ของเวียดนามด้วย