หนองคาย- ภาคธุรกิจแนะนักศึกษาจบใหม่ อย่าวิตกแม้อาจตกงาน ควรใช้วิกฤตเป็นโอกาส เพิ่มทักษะความรู้ใส่ตัวให้มาก เรียนรู้การใช้ชีวิตในสังคม รวมทั้งพิจารณาสาขาวิชาที่เรียนให้เหมาะกับสภาพปัจจุบัน ชี้สถานศึกษาเพิ่มรูปแบบสหกิจศึกษา ป้อนตลาดแรงงานแก้ปัญหาคนว่างงานได้
นายมนตรี คงตระกูลเทียน ประธานคณะผู้บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวในการปัจฉิมนิเทศนักศึกษาที่จะสำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย ว่า ขณะนี้หลายประเทศประสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวหรือถดถอย อันเนื่องจากปัญหาซับไพรม์ในสหรัฐอเมริกา ลุกลามไปยังหลายประเทศ ซึ่งทุกวันนี้หลายบริษัทพยายามประคองตัว เพื่อสามารถรักษาคนงาน เจ้าหน้าที่ และเพื่อนร่วมงานให้อยู่รอด และผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจ ที่อาจจะมีระยะเวลาประมาณ 1-2 ปี
ส่วนนักศึกษาที่จบใหม่ต้องพิจารณา ว่า งานใดเหมาะสมกับตนเองกับสาขาวิชาที่เรียนมา ค้นหาจุดเด่นในตัวเองดึงออกมาช่วยในการหางานทำ และควรจะขวนขวายอย่างไรในภาวะวิกฤตปัจจุบัน ซึ่งหากนักศึกษาต้องการหางานทำทันที หรือต้องการเรียนต่อต้องให้สอดคล้องกับสภาพการณ์บ้านเมืองด้วย
ในช่วงก่อนนี้การรับนักศึกษาจบใหม่เข้าทำงาน บริษัท หรือห้างร้านจะต้องมีการทดลองงานแล้วแต่ระยะเวลาของบริษัทกำหนด ซึ่งทำให้เสียเวลา เสียโอกาสทางธุรกิจ ดังนั้นนักศึกษาต้องรู้จักขวนขวาย ฝึกฝนในเรื่องต่าง ๆ ให้เป็น เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่นต้องมีความจริงใจ ซื่อสัตย์สุจริต เสียสละ และทำงานเป็นทีม บางคนที่มีโอกาสทำกิจกรรมต่างๆ ในสถานศึกษาน่าจะเป็นประโยชน์ในการทำงานในอนาคต ซึ่งการพิจารณารับคนเข้าทำงานของบริษัทนั้น ต้องการคนที่เรียนแบบสหกิจศึกษา
ขณะนี้พบว่า มหาวิทยาลัยหลายแห่งนำหลักสหกิจศึกษาไปใช้สอนนักศึกษา กล่าวคือ เมื่อนักศึกษาเรียนถึง ปี 3 พอถึงปี 4 ก็จัดส่งนักศึกษาไปฝึกงานกับบริษัทแล้วให้หน่วยกิจ มีอาจารย์ควบคุมประเมินผล จะทำให้นักศึกษาเข้าใจระบบการทำงาน เรียนรู้ภาพรวมของการทำงานจริง
ด้าน ดร.พิพัฒน์ วีระถาวร ผู้อำนวยการด้านวิจัยและพัฒนา บริษัทมิตรผลวิจัยพัฒนาอ้อยและน้ำตาล จำกัด กล่าวว่า การที่นักศึกษาจะมีงานทำหรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวนักศึกษาเองด้วยว่ามีความรู้ ความสามารถมากน้อยเพียงใด นำความสามารถออกมาให้ผู้ประกอบการได้เห็น เริ่มตั้งแต่การกรอกใบสมัคร การสัมภาษณ์ เป็นต้น จะทำให้มีโอกาสได้รับเลือกเข้าทำงานมากขึ้น
สำหรับนักศึกษาที่จบจากคณะวิชาที่อยู่ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ นักศึกษาคงต้องยอมรับสภาพนี้ด้วยว่าอาจจะหางานได้ยากบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสทำงาน นักศึกษาจะต้องดูโอกาสว่าในระหว่างที่ยังหางานทำไม่ได้ นักศึกษาควรจะต้องเตรียมตัวหรือศึกษาในด้านใดเพิ่มเติม เช่น เรียนภาษาเพิ่มเติม เรียนรู้องค์ประกอบความรู้อื่นๆ ทางด้านการวิเคราะห์ตรวจสอบ การค้นคว้าวิจัย เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งเมื่อธุรกิจต่างๆ เริ่มตั้งตัวหรือตั้งรับกับสภาพเศรษฐกิจได้ดีและมั่นคงแล้วก็จะทยอยรับพนักงานมากขึ้น
ส่วนธุรกิจน้ำตาลและชีวพลังงานนั้น แม้ว่าจะชะลอตัวอยู่บ้าง แต่ก็มีโอกาสที่จะรับนักศึกษาเข้ามาทำงานอีก ซึ่งประเด็นสำคัญที่เป็นส่วนช่วยให้นักศึกษาจบใหม่มีงานทำ คือประสบการณ์ในการฝึกงาน, มีความพร้อมที่จะทำงานเป็นทีม, และคนที่พร้อมจะเรียนรู้ เรียนรู้ได้ไว หากนักศึกษามีลักษณะดังกล่าวก็จะทำให้ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเข้าทำงาน
ดร.พิพัฒน์ วีระถาวร กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานศึกษา ทั้งระดับมหาวิทยาลัย สถาบันอาชีวศึกษาต่าง ๆ นั้น ควรให้นักศึกษารู้และชำนาญหลายๆ ด้าน ไม่ใช่เพียงด้านเดียว เฉพาะสาขาที่เรียนเท่านั้น แต่ต้องรู้รอบตัว มีองค์ความรู้ให้มาก ซึ่งทางด้านองค์ความรู้ทางเทคนิคในอาชีพนั้นจำเป็นอยู่แล้ว แต่ควรเพิ่มองค์ความรู้รอบตัว รู้จักการอยู่ในสังคมคนหมู่มาก
ในปัจจุบันนักศึกษายังไม่สามารถใช้ชีวิต หรือทำงานร่วมกับคนหมู่มากได้ ควรให้นักศึกษาได้ฝึกฝนให้มากแล้วจะทำให้โอกาสการมีงานทำในอนาคตมีสูงขึ้น