ศูนย์ข่าวภูมิภาค – เจาะขุมกำลัง “กลุ่มคนเสื้อแดง” ทั่วเหนือ-อีสานที่แท้ไม่ได้เคลื่อนไหวเพื่อประเทศชาติ แต่เคลื่อนไหวเพื่อ “นช.แม้ว” เผยคนกลุ่มนี้ล้วนเป็นลิ่วล้อค่าย ส.ส.“เพื่อแม้ว” ทั้งนั้น และเตรียมที่จะเคลื่อนไหวเต็มที่หากมีคำสั่งและเงินเข้ามา โดยเฉพาะ“กลุ่มคนเสื้อแดงอุบลฯ” มีมวลชนจริงไม่เกิน 200-500 คน แต่ถ้าท่อน้ำเลี้ยงเหือดแห้งวันใดบทบาทจะสิ้นสุดลงทันที ส่วนกลุ่มของ“ขวัญชัย”ยันปักหลักอยู่ในพื้นที่พร้อมเปิดเวทีต้านรัฐบาล “อภิสิทธิ์” เต็มที่หากเหยียบอุดรฯ เช่นเดียวกับ “แก๊งเสื้อแดงอีสานใต้” เตรียมป่วนชาติหลังเลือกซ่อม ส.ส. ขณะที่ “กลุ่มคนโคราชรัก ปชต.” ลั่นโห่ไล่ รมต.ทุกคนที่ลงพื้นที่ พร้อมนัดประเดิมโห่ไล่ “รมว.พลังงาน“คู่เขย“สุวัจน์” หลังทราบข่าวว่าจะลงโคราชวันนี้
การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงใน จ.เชียงใหม่ ในระยะหลังนอกจากกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ของนายเพชรวรรต วัฒนพงษ์ศิริกุล ประธานที่ปรึกษากลุ่มฯ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงจะหันไปลงสมัครลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำพูน เขต 1 ในนามพรรคเพื่อไทยแล้วได้มีการส่งไม้ต่อให้กับ ดีเจ.อ้อม-น.ส.กัญญาภัค มณีจักร เป็นแกนหลัก ใช้คลื่นวิทยุชุมชน 92.5 MHz เป็นกระบอกเสียงหลักแล้ว ยังมีเคลื่อนวิทยุชุมชนที่มีการนำมาใช้เป็นกระบอกเสียงปลุกระดม - กระจายความเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.หลัก ๆ อีกหลายสถานี เช่น 105.0 MHz ของนก-นายมหวรรณ กะวัง ที่แยกตัวออกมาจากกลุ่มของนายเพชรวรรต, คลื่น 98.5 MHz และคลื่น 91.25 MHz เป็นต้น
ส่วนที่ลำปาง กลุ่มที่เคลื่อนไหวหลักอยู่ในขณะนี้ คือ กลุ่ม "รักลำปาง 51" ที่มีสถานีวิทยุชุมชน "ล้านนาเน็ตเวิร์คลำปาง" คลื่น 90.25 MHz เป็นกระบอกเสียงสำคัญในการปลุกระดม นัดหมายการเคลื่อนไหวต่อต้านพันธมิตรฯ รวมถึงรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายณัฐชีย อินทราย เจ้าของสถาบันกวดวิชาโล่ห์เงิน เป็นแกนนำ-ดีเจ.หลัก
เสื้อแดงชร.อยู่ในมือ”ส.ส.เพื่อแม้ว”
ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงใน จ.เชียงราย มวลชนหลักอยู่ในมือของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งในระยะหลังมีนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาฯเป็นแกนหลัก โดยก่อนการชุมนุมแถลงนโยบายของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ได้ใช้สำนักงานของนายสามารถ ในการประชุมแกนนำกลุ่มเสื้อแดงทุกกลุ่มใน จ.เชียงราย ร่วมกับหัวคะแนนจาก 18 อำเภอทั่วจังหวัด รวมทั้งบางส่วนมีมวลชนจากเขตเวียงป่าเป้า-แม่สรวย ฐานเสียงของนายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษ์ ส.ส.เพื่อไทย
ส่วนแกนนำที่เปิดหน้าเคลื่อนไหวทั้งหมด กล่าวได้ว่า แยกกันเคลื่อนไหวขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ โดยดูได้จากการรวมกลุ่มกันหลายครั้ง ต่างมีประเด็นข้อโต้แย้งในเรื่องรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม ที่ถือเป็น "ใบเสร็จ" สำคัญทุกครั้ง ซึ่งแกนหลักที่เคลื่อนไหวอยู่ประกอบด้วย “บุ๋ม-จีระนันท์ จันทวงศ์” แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาฯเชียงราย ที่มีมวลชนเต็มที่ไม่เกิน 100 คน แต่มีคนของ ส.ส.เพื่อไทยเข้ามาช่วยหนุน เช่น “อ๊อด-สุตะโพ” เด็กของ ส.ส.สุรสิทธิ์ เจียมวิจักษ์ และนายวันชัย ใจแพร่ เด็กของ ส.ส.สามารถ แก้วมีชัย เข้ามาร่วมเป็นแกนนำเคลื่อนไหวด้วย, กลุ่มคนเจียงฮายฮักประชาธิปไตย ที่มี “เฮียแดง-ธณิต บุญนสินีเกษม” และ “อัฐกร” เป็นแกนนำ ส่วนที่เหลือจะเป็นกลุ่มเฉพาะกิจที่เคลื่อนไหวตามใบสั่ง มีนายประชัน จันระวังยศ และนายมานพ ชินนะกุล ข้าราชการครู เขต 3 เชียงราย และกลุ่ม “เจ๊หมวย-นางมติ แซ่อั้ง” เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวรสเยี่ยม ในนามชมรมคนรักทักษิณ เชียงราย ซึ่งไม่มีมวลชนในมือ
ล่าสุดกลุ่ม 24 มิถุนาฯเชียงราย ของ น.ส.จีระนันท์ มีแผนที่จะตั้งวิทยุชุมชนขึ้นที่ จ.เชียงราย เพื่อใช้เป็นกระบอกเสียงของกลุ่มคนเสื้อแดง ในการปลุกระดมมวลชน
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มข้าราชการครูในเขตแม่จัน-แม่สาย นำโดยนายสมศักดิ์ ลือราช ประธานสมาพันธ์ผู้ประกอบวิชาชีพครู พื้นที่เขต 3 เชียงราย ผู้อำนวยการโรงเรียนห้วยไคร้ อ.แม่จัน ซึ่งถือเป็นคนของกลุ่ม "ยุทธ ตู้เย็น-ยงยุทธ ติยะไพรัช" โดยเมื่อ 1 ธ.ค.51 สมาพันธ์สมาคมผู้ประกอบวิชาชีพครู พื้นที่เขต 3 ได้แก่ อ.แม่สาย อ.แม่ฟ้าหลวง อ.เชียงแสน อ.ดอยหลวง และ อ.แม่จัน ประมาณ 50 คน ได้ใช้รถขยายเสียงมากล่าวโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย มาแล้วครั้งหนึ่ง
เสื้อแดงพะเยาเป็นของเพื่อแม้วชัดเจน
สำหรับกลุ่มคนเสื้อแดงใน จ.พะเยา ส่วนใหญ่ต้องรอสัญญาณจากนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ซึ่งจะมีมือทำงานหลักคือนายมนัส เวียงลอ ประธานเครือข่ายเสื้อแดงอีสาน-ล้านนา จ.พะเยา, ผู้ประสานงานองค์กรภาคประชาชนพะเยา และผู้ประสานงานองค์กร ชรบ.พะเยา, นายภูมิ เวชการ คนสนิทของนายวิสุทธิ์ และนายทินกร ปรางค์สุวรรณ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลอ อ.จุน
ส่วนพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างขณะนี้ไม่ปรากฎแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ขึ้นมาเป็นหลัก ๆ เท่าใดนัก หลังจาก "เลิศ ไม้เก่า" ออกมาแฉว่า ถูกอมเงินค่าเคลื่อนไหวสนับสนุนให้กำลังใจตำรวจหลังเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา แต่ก็มีตัวแทนบางคนเข้ามาร่วมเคลื่อนไหวกับเครือข่ายคนเสื้อแดงภาคเหนือตอนบนเป็นบางครั้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า จะหาเงินสนับสนุนได้หรือไม่เท่านั้น
“ขวัญชัย”ขู่”มาร์ค”มาอุดรฯโดนแน่
นายขวัญชัย สาราคำ (ไพรพนา) เจ้าของคลื่นวิทยุชุมชนชมรมคนรักอุดร 97.50 MHz ในฐานะแกนนำชมรมคนรักอุดร เปิดเผยถึงจุดยืนของตนและสมาชิกชมรมฯว่า ยังคงจะต่อต้านรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต่อไป หากนายอภิสิทธิ์ เดินทางลงมาปฏิบัติงานในพื้นที่ จ.อุดรธานีเมื่อใด ทางชมรมฯจะขึ้นป้ายต่อต้านพร้อมกับตั้งเวทีปราศรัยโจมตีเพื่อแสดงให้เห็นว่าเราไม่ยอมรับรัฐบาลชุดนี้ แต่จะไม่มีการเคลื่อนไหวรุนแรง เป็นการแสดงออกภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย
ส่วนกรณีที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะใช้กฏหมายด้านความมั่นคงเข้าไปดำเนินการกับวิทยุชุมชนบางคลื่นที่ปลุกระดมคนให้โค่นล้มรัฐบาลนั้น นายขวัญชัย กล่าวว่า สำหรับสถานีวิทยุชุมชนคนรักอุดร ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาได้นำเสนอข่าวสารผ่านสื่อทางวิทยุ 97.50 นี้อย่างตรงไปตรงมาและชัดเจนที่สุด ไม่มีการนำเสนอข้อมูลที่หมิ่นเหม่ต่อสถาบันเบื้องสูง ไม่มีการกล่าวโจมประเทศเพื่อนบ้าน เราไม่ได้โจมตีกองทัพ เพียงแค่เราวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำกองทัพเท่านั้น นี่คือจุดยืนของสถานีวิทยุชมรมคนรัดอุดร ตนคิดว่าไม่เข้าข่ายที่กฎหมายความมั่นคงจะมาเอาผิดได้
สำหรับ วิทยุชุมชนคลื่นมวลชนสัมพันธ์ FM 97.50 MHz นั้น เป็นเครื่องมือที่นายขวัญชัย ใช้ปลุกระดมชาวบ้านที่ยังมองว่า นายทักษิณ เป็นคนดีเป็นพ่อพระของคนจนเข้ามาเป็นแนวร่วมกับคนเสื้อแดง โดยสถานีตั้งอยู่ในตลาดเริ่มอุดม ติดกับ ตลาดเซ็นเตอร์พ้อยท์ และตลาดปรีชา ใกล้สถานีรถไฟ อุดรธานี มี “เสี่ยตี๋” หรือปรีชา ชัยรัตน์ เจ้าของโรงงานน้ำตาลเริ่มอุดมทั้งที่อำเภอไชยวารและกุมภวาปี เป็นเจ้าของ
โดยนายปรีชา เป็นผู้ให้การสนับสนุนงานการเมืองนายธีระชัย แสนแก้ว อดีต รมช.เกษตรมานานหลายปีและเป็นหนึ่งในกลุ่มทุนท้องถิ่นที่เป็นกระเป๋าให้กับชมรมคนรักอุดรฯ ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว ก่อนหน้านี้นายปรีชา เคยเป็นเจ้าของคอกม้าและสนามแข่งม้าอุดรธานี ช่วงหลังถูกจับตามองว่าเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล จึงขายผ่องถ่ายออกไป
นอกจากนี้ คลื่นมวลชนสัมพันธุ์ของนายขวัญชัย ยังได้รับแรงหนุนจากสุเทพโปรโมชั่นของนายสุเทพ สุวรรณประดิษฐ์ สำนักงานตั้งอยู่ติดกับสถานีวิทยุคลื่นมวลชนสัมพันธ์สุเทพโปรโมชั่นทำธุรกิจในแวดวงบันเทิง รับจ้างออกสวนสนุก ออกร้านค้า จัดคอนเสิร์ตลูกทุ่งและมีธุรกิจที่ไม่เปิดเผย จนกระทั่งได้ชื่อว่าเป็น “ผู้กว้างขวาง แห่งทุ่งศรีเมือง” เพราะแทบจะผูกขาด การจัดงานใน ทุ่งศรีเมือง และถ้าหากงานไหนพลาดผู้รับเหมารายอื่นก็อาจมีปัญหาเรื่อง การต่อไฟฟ้าไปใช้ ที่ทุ่งศรีเมือง ได้
เสื้อแดงอุบลฯอยู่ได้เพราะท่อน้ำเลี้ยง
สำหรับกลุ่มคนเสื้อแดงที่ จ.อุบลราชธานี รวมตัวกันในนาม"กลุ่มชักธงรบ" ซึ่งมีนายธีรภัทร วัชรพล หรือดีเจต้อย นักจัดรายการสถานีวิทยุชุมชนนครอุบล คนของนายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต กก.บริหารพรรคไทยรักไทยเป็นแกนนำคนสำคัญ แต่หลังการเมืองมีการพลิกขั้ว นายธีรภัทรเริ่มถอยห่างไม่ออกหน้า แต่มีนายประยุทธ มูลสาร หรือดีเจหนุ่มนิรนาม เด็กในคาถาของนายชูวิทย์ (กุ่ย) พิพักษ์พรพัลลภ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 2 ก้าวเข้ามาแทนที่ โดยได้โชว์บนบาทการเคลื่อนไหว ทั้งการนำกลุ่มคนเสื้อแดงมาขับไล่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อคราวเดินทางมาเยี่ยมบุตรชายที่บวชอยู่ที่ อ.พิบูลมังสาหาร
ล่าสุดก่อเรื่องฉาวโฉ คือ นำพลพรรคกว่า 100 คนเข้าปิดล้อมประตูเข้า-ออกโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ที่นางเนียม พันธ์มณี หญิงชราชาว อ.ม่วงสามสิบที่ให้แหวนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพราะมีข่าวลือว่านายอภิสิทธิ์ จะย่องเงียบเข้าพื้นที่มาเยี่ยมนางเนียม แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว
การสนับสนุนของคนเสื้อแดงในนามกลุ่มชักธงรบ จ.อุบลราชธานี มีท่อน้ำเลี้ยงมาจากนายสุพล ฟองงาม ส.ส.เพื่อไทย ที่เคยอยู่ในกลุ่มเพื่อนเนวินมาก่อน แต่ตอนหลังกลับมาซุกอยู่ใต้ปีกของเจ๊แดง "เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ และน้ำเลี้ยงอีกท่อจากนายชูวิทย์ (กุ่ย) พิพักษ์พรพัลลภ
สำหรับพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงของ จ.อุบลราชธานี มีมวลชนจริงๆ ไม่เกิน 200-500 คน ถ้าท่อน้ำเลี้ยงเหือดแห้งวันใดบทบาทของคนเสื้อแดงพวกนี้ก็จะสิ้นสุดลงทันที
เสื้อแดงโคราชนัดหารือหลัง 10 ม.ค.
ด้านนายเขื่อนเพชร โพนรัมย์ แกนนำกลุ่มหนองน้ำใสรักษ์ประชาธิปไตย อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา, ผู้ประสานงานเครือข่ายอีสานล้านนา และอดีตแกนนำม็อบคาราวานคนจน อันฉาวโฉ่ เผยถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ขณะนี้แกนนำในภาคอีสานยังไม่มีการหารือกัน เนื่องจากกำลังยุ่งอยู่กับการจัดเตรียมงาน รำลึกวีรชนอีสานใต้ที่ จ.บุรีรัมย์ วันที่ 10 ม.ค.นี้คาดว่าหลังวันที่ 10 ม.ค.จะมีการประชุมหารือเพื่อกำหนดท่าทีในการต่อสู้ต่อไป หลังมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.11 ม.ค.เสร็จเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนเสื้อแดงภายใต้การนำของตนยังยืนยันในหลักการต่อสู้เดิม คือ ไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติซ่อนรูป หรือการปฏิวัติทุกรูปแบบ ซึ่งหากมองดูพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ไม่ต่างจากคนแก้ผ้าล่อนจ้อน มีสีเขียวอยู่เบื้องหลัง และรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์นั้นขอให้ฉายาว่า “รัฐบาลกุมารทอง” ที่มีหมอผีสีเขียวปลุกเสก
นายเขื่อนเพชร กล่าวต่อว่า กลุ่มหนองน้ำใสฯและกลุ่มเครือข่ายอีสานล้านนา ที่ตัวเองเป็นแกนนำอยู่นี้ เป็นเครือข่ายหนึ่งของกลุ่ม นปช.และขอทำความเข้าใจว่า ในกลุ่ม นปช. นั้นประกอบไปด้วยหลายกลุ่ม ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ฉะนั้นพวกเราเห็นตรงกันในบ้างเรื่อง และเห็นต่างกันก็มี ดังนั้น จึงมีหลากหลายความคิดเห็น ที่กลุ่มคนเสื้อแดงเห็นต่างกันบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา เช่น เรื่องการใช้ความรุนแรงที่ใช้หิน หรือไข่เน่าขว้างปาใสกลุ่มคนของรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เราไม่เห็นด้วย ทางกลุ่มเราจะไม่ทำเช่นนั้น แต่ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 พวกเราเห็นด้วย เพราะถือเป็นรัฐธรรมนูญอัปยศที่สุด ควรได้รับการแก้ไข โดยยึดรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นหลัก
ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มฯยังคงยืนยันคำเดิมคือรัฐบาลต้องยุบสภาฯและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ก่อนยุบสภาฯจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ให้แล้วเสร็จในมาตราที่ยังมีปัญหา โดยเฉพาะองค์กรอิสระต้องเป็นอิสระจริง ๆ เช่น ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
โคราชประเดิมไล่“รมว.พลังงาน”วันนี้
นางปภัชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์ แกนนำกลุ่มคนของแผ่นดินลูกหลานย่าโม กล่าวว่า ทางกลุ่มยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ในขณะนี้ ขอให้การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ผ่านพ้นไปก่อนจึงจะมีการหารือกับแกนนำกลุ่มต่างๆ เพื่อประเมินสถานการณ์และกำหนดท่าทีในการเคลื่อนไหวอีกครั้ง ขณะนี้มีเพียงแกนนำไปช่วยปราศรัยให้กับผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ที่มีการเลือกตั้งซ่อม เพื่อให้คนของพรรคเพื่อไทยได้เข้าไปเป็น ส.ส. ซึ่งหากเข้าไปได้ทั้งหมดอาจมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ในการจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นอีกก็ได้
ขณะที่นายลออ เปียทอง แกนนำกลุ่มคนโคราชรักษ์ประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกลุ่มยังนิ่ง ไม่ได้เคลื่อนไหวแต่อย่างใด โดยก่อนหน้านี้กำหนดจัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมาในวันที่ 9 ม.ค. แต่เนื่องจากพื้นที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดฯ อยู่ระหว่างการจัดงานกาชาดจังหวัดนครราชสีมาประจำปี จึงเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
“นอกจากนี้ ทางเครือข่ายฯ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า รัฐมนตรีร่วมรัฐบาลคนใดจะลงพื้นที่บ้าง เวลาใดและสถานที่ใดเพื่อทางกลุ่มฯจะได้ไปชุมนุมโห่ไล่ แสดงความไม่พอใจต่อพฤติกรรม ส.ส.ที่ขายตัว เช่นในวันนี้ (9 ม.ค.) ทราบว่า นพ.วรรณรัตน์ ชานุกูล รมว.พลังงานจะลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา เป็นต้น” นายลออ กล่าว