อุดรธานี- บิ๊กจิ่วควงแขน พลเอกประชา พรหมนอก ลงพื้นที่เขต 2 อุดรฯ ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครพรรคเพื่อแผ่นดิน พ่อใหญ่จิ่ว ยังมาสไตล์เดิม อยากให้ทุกคนรักกัน ไม่แบ่งแยก และอยากให้นายกฯมาจากคนอีสาน
วันนี้ (7 ม.ค.) เวลา 14.00 น.ที่ สมาคมชาวไร้อ้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้เดินทางมาช่วย ดร.ณฐกมล นนทะโชติ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดอุดรธานี หาเสียง โดยมีประชาชนมาร่วมรับฟังประมาณ 3,000 คน
พล.อ.ชวลิต ได้กล่าวกับผู้มารอฟังปราศรัย ว่า การมาครั้งนี้มามีจุดประสงค์ใหญ่ 3 ข้อ คือ เรื่องที่หนึ่ง เพื่อสนับสนุน ดร.ณฐกมล ให้เป็น ส.ส.เขต 2 อุดรธานี ซึ่งเป็นคนที่ดี มีความสามารถ และเคยเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากอดีตนายกฯทักษิณ บุคคลสำคัญต่างๆ ขอยืนยันว่า จิตใจที่มีต่อประชาชนมาด้วยจิตใจที่ต้องการรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งตอนแรกที่ ดร.ณฐกมล เริ่มหาเสียงใหม่นั้น เคยถูกคู่ต่อว่ากล่าวหา และตนก็บอกให้อดทนเพราะว่าเราต้องการมารับใช้ประชาชนอย่างแท้จริงต้องอดทน
เรื่องที่สอง ตนขอยืนยันว่า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นคนที่อุดรธานีอย่างแท้จริง เป็นคนที่ทำงานการเมืองโดยไม่ยอมขายตัวกับพรรคการเมืองใด และต้องการให้เป็นนายกรัฐมนตรีของคนอุดรฯ ของคนอีสาน เรื่องที่สาม สำคัญมากเนื่องจากวันนี้บ้านเมืองเราน่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องสังคมของคนไทยวันนี้กำลังแตกแยกแบ่งเป็นสองฝ่าย เราไม่ควรโทษใคร เพราะความแยกแยกนี้มีมาตั้งนานแล้ว
ยกตัวอย่างปี 2475 มีคณะบุคคลหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า คณะราษฎร ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ พลเรือน เอกชนทั้งหลาย ได้ทำการยึดอำนาจจาก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ในสมัยนั้น และผู้ที่ทำการเข้าไปยึดอำนาจนั้น ได้เข้าไปกราบทูลขออำนาจจาก ร.7 กลับคืนให้กับประชาชน ประชาชนต้องมีอำนาจและอำนาจนั้น คือ อำนาจในการปกครอง ประชาชนต้องปกครองตัวเอง หากประชาชนมีอำนาจสิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนที่สุดประชาชนทุกคนจะมีแต่คนรวย
หลังจากนั้น พล.อ ชวลิต ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เดินทางมาภาคอีสานหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะที่นครพนม ก็พบว่า ผู้สมัครในครั้งนี้ก็เป็นลูกหลานกันทั้งนั้น บอกให้ทุกคนได้นำเสนอแต่สิ่งที่ดีๆ โดยพรุ่งนี้มีพรรคพวกที่ศรีสะเกษ และมหาสารคาม ได้ให้ไปช่วยปราศรัย เพราะการปราศรัยของตนนั้นไม่โจมตีใคร
พล.อ ชวลิต กล่าวต่อว่า เรื่องนโยบายรวมพรรคของภาคอีสานของตนนั้น เนื่องจากตนเห็นว่าได้สอบถามใครต่อใครมานานแล้ว ว่า ทำไมคนอีสานจึงรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวไม่ได้ ทราบว่าก็เพราะว่าส่วนใหญ่ ไม่ได้พูดคุยกันไม่ได้ติดต่อกัน ดังนั้น ในวันนี้เราก็ได้เริ่มมาพูดคุยกันติดต่อกัน เราต้องการที่จะสร้างการเมืองให้เป็นหนึ่งเดียว แต่ไม่ใช่เพื่อคนใดคนหนึ่ง ทุกคนมีศักดิ์ศรีที่เสมอกัน แล้วแต่ว่าโอกาส สถานการณ์เหมาะกับผู้ใดที่จะเป็นผู้นำ เพราะฉะนั้นเป็นการนำรวมหมู่ซึ่งเหมือนกับการเมืองการปกครองของหลายประเทศที่การเมืองการปกครองสมัยเดิมก็เหมือนกับของเรา ที่ไม่ค่อยจะมั่นคง
เช่น พรรคอัมโนของมาเลเซีย หรือ พรรคแอลดีพีของญี่ปุ่น ถ้าเราทำอย่างนั้นได้ การเมืองก็จะมั่นคง นี่คือ สิ่งที่ตนพยายามทำอยู่ อันที่จริงเรื่องการเมืองตนก็เคยได้เสนอมาแล้วหลายเรื่อง เช่นว่า รัฐบาลเฉพาะกาล หรือรัฐบาลแห่งชาติ หรือโซ่ข้อกลาง เสนอมามาก แต่เราก็ยังไม่สามารถนำเข้ามาเป็นเรื่องเดียวกัน
พล.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า ส่วนสีเขียวที่หนุนรัฐบาลชุดนี้อยู่นั้น เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบเรื่องเลย แต่ตนคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าสีเขียวก็คือกองทัพทหาร เขาเป็นเสาหลักของชาติ ซึ่งเสาหลักของชาตินั้นมีอยู่ 4 เสาด้วยกัน คือ ตำรวจกับทหาร 3 เหล่า เสาที่เป็นหลักจริงๆ คือ ทหาร ซึ่งเป็นหลักจริงๆ เสาหลักก็เปรียบเสมือนเสาเอก ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะฉะนั้นเสาหลักนี้จะไปยุ่งเกี่ยวกับอะไรอย่างใกล้ชิดเกินไปคงไม่ดี แต่ตนคิดว่าคงจะไม่เป็นไปอย่างนั้นคงจะเป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น
ด้าน พล.ต.อ.ประชา ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นไปตามกระบวนการ กกต.ถ้าพ้น 30 วันแล้ว ยังไม่มีข้อชัดเจนเป็นสิทธิ์ของผู้ที่มีผลกระทบตรงนี้ก็มีสิทธิ์ในการร้องขอ โดยร้องเรียนไปที่ กกต.ขอให้พิจารณา โดยผู้มีส่วนที่รับเลือกไปแล้ว ทำคำร้องที่ กกต.คงเป็นพรุ่งนี้ ทาง กกต.คงใช้เวลาในการตรวจสอบ การเลือกตั้งหัวหน้าพรรค เป็นไปตามข้อกฏหมายเลือกตั้งหรือไม่
โดยในตอนนี้ก็ไม่เจอ นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง ต่างคนก็มีงานคนละอย่าง ก็มีการโทรศัพท์คุยการบ้าง ในการเลือกหัวพรรคคงยุติที่ กกต.ไม่นั้นอาจไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ ก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งในตอนนี้ข้อเท็จพรรคเพื่อแผ่นดิน แบ่งออกมา 2 ขั้ว โดยขั้วหนึ่งไปร่วมรัฐบาล ส่วนทางขั้วผมเองนั้น ไม่ร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่จะเป็นกลางต้องการความสมานฉันท์ อยากให้การเมืองมันนิ่ง เศรษฐกิจบ้านเราจะไปได้ ซึ่งตอนนี้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองด้วย และทำอย่างไรให้มันให้ไปโดยไม่มีสี หรือกลุ่ม ซึ่งตอนนี้ความขัดแย้งถึงขั้นรุนแรงแตกแยกกันก็อยากได้ความสมานฉันท์
พล.ต.อ.ประชา ได้กล่าวอีกว่า ในส่วนกลุ่มเสื้อแดงที่สนับสนุนให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมา ซึ่งในตอนนั้นเป็นช่วงแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาล ทางกลุ่มชมรมคนรักอุดร ได้โทรศัพท์มาหาผม ควรจะไปร่วมหรือไม่อย่างไร ในการแสดงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับนโยบายในครั้งนั้น ซึ่งในวันนั้น จ.อุดร หรือ จ.ขอนแก่น ในการรักท่องถิ่นพื้นที่ของตนเอง สามารถแสดงออกทางความคิดของตนเองได้
คุณตาสมบูรณ์ เหล่าไท อายุ 43 ปี กล่าวว่า อยากจะได้ ส.ส.ในพื้นที่ เขต 2 มาช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนและหนี้สินของชาวเกษตรกร และต้องตั้งกองทุนมาสนับสนุนในการประกอบอาชีพด้วย