รร.เชียงรายฟื้น การเมืองคลี่คลาย คนไทยแห่เที่ยว-เคานต์ดาวน์กระตุ้น

เชียงราย – ธุรกิจโรงแรมเชียงรายฟื้นเร็ว คนไทยแห่เคานต์ดาวน์ แถมประชุมสัมมนาต้นปี52 ถี่ขึ้น ขณะที่อีเวนต์ใหญ่ “งานดอกไม้บานฯ” ช่วยดึงนักท่องเที่ยวไทยเข้าเติมเต็มอีกเพียบ คาดยอดเข้าพักเฉลี่ยใกล้เคียงกับปีกลาย หลังวิกฤตเศรษฐกิจ การเมือง ทำนักเที่ยวต่างประเทศหาย ยกเลิกคำสั่งจองห้องพักไปกว่า 20-25%

จากภาวะวิกฤตการเมือง และปัญหาเศรษฐกิจภายนอกประเทศซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมในพื้นที่ จ.เชียงราย อย่างหนัก จนทำให้หลายฝ่ายออกมาประเมินว่าสถิติการท่องเที่ยวของเชียงราย จะลดฮวบลงอย่างมากนั้น

ในเดือน ธ.ค.หลังสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลาย ปรากฏว่าอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีจำนวนการเข้าพักมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากธรรมชาติของเชียงราย ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปเยือนในฤดูหนาว เพื่อนับถอยหลังหรือเคานต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ตามขุนเขาต่างๆ เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว และยังเกิดจากการปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ ที่หันมารับนักท่องเที่ยวและการประชุมสัมมนาต่างๆ ของคนไทยด้วยนั่นเอง รวมทั้งมีงานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม ครั้งที่ 5 บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ที่สวนสาธารณะหาดเชียงราย เป็นสิ่งดึงดูดใจด้วย

นางชนิตา ชัยวารินทร์ ผู้จัดการฝ่ายขายและประชาสัมพันธ์ โรงแรมเวียงอินทร์ จ.เชียงราย กล่าวว่าในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.เราประสบกับภาวะย่ำแย่เพราะทัวร์ต่างประเทศพากันถอนห้องพักเป็นจำนวนมากกว่า 20-25% ของห้องพักของเราที่มีอยู่จำนวน 260 ห้อง

อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าก่อนเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ได้เกิดภาวะพลิกผันอย่างกระทันหัน โดยมีนักท่องเที่ยวคนไทยเข้าพัก ทั้งในรูปแบบการประชุมสัมมนาและนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าพักอย่างเนืองแน่น และในช่วงวันที่ 1 ม.ค. ห้องพักเกือบทุกแห่งก็เต็มกันหมด

ทั้งนี้ ในช่วงที่เกิดวิกฤตใหม่ๆ โรงแรมปรับตัวด้วยการหันไปรับนักท่องเที่ยวชาวไทยมากขึ้น โดยปรับราคาให้สอดคล้องกับรสนิยมคนไทย ซึ่งมักจะไม่นิยมรับประทานอาหารภายในโรงแรมแต่จะเน้นออกไปเที่ยว ทานอาหารนอกโรงแรมแทน รวมทั้งบางครั้งก็ตัดเรื่องกาลาดินเนอร์ออกไปหรือเหลือเพียงดินเนอร์ เป็นต้น ทำให้แขกต่างประเทศที่เข้าพักที่โรงแรมในปัจจุบันเหลือเพียง 10% หรือน้อยกว่านี้

ขณะที่กลุ่มคนไทยมีมากถึง 40% ส่วนที่เหลืออีก 50% โรงแรมได้รับการประชุมสัมมนาใหญ่ๆ จากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มักจะไปประชุมสัมมนากันในช่วงต้นปีเป็นประจำ ทำให้สามารถทดแทนการหายไปของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ในที่สุดดังกล่าว

“อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของนักท่องเที่ยวชาวไทย อาจจะลดลงจากชาวต่างชาติบ้างแต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยโรงแรมคิดราคาห้องละ 2,000-2,500 บาทต่อคืน และหลังเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไปแล้ว โรงแรมก็มีแขกที่จะประชุมสัมมนาครั้งละกว่า 100 ห้อง ซึ่งก็จะทำให้มีแขกเข้าพักอย่างต่อเนื่องด้วย”

ด้าน นายสุพจน์ สิงหอัมพล อุปนายกฝ่ายโรงแรม สมาคมท่องเที่ยวเชียงราย กล่าวว่า สมาคมฯ มีสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ห้องพัก รีสอร์ตต่างๆ ประมาณ 50 แห่ง ซึ่งพบว่าในช่วงที่นักท่องเที่ยวชาวไทยพากันทะลักเข้าไปยังเชียงรายเช่นนี้ ทำให้ผู้ประกอบการประเภทห้องพักเล็กๆ เช่น รีสอร์ต โรงแรมขนาดเล็ก ฯลฯ ต่างได้รับผลดีกันถ้วนหน้า เพราะผู้ประกอบการเหล่านี้ มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักอยู่แล้ว แต่โรงแรมขนาดใหญ่ก็อาจจะยังได้รับผลกระทบอยู่บ้างแต่ก็ต้องปรับตัว ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าทุกแห่งสามารถทำได้ดี

นายสุพจน์ กล่าวว่า สาเหตุที่นักท่องเที่ยวชาวไทยทะลักเข้าเชียงรายมาก เกิดจากคนไทยมักจะขึ้นไปภาคเหนือในช่วงฤดูหนาวอยู่แล้ว ประกอบกับน้ำมันราคาถูกลง และผู้คนเครียดกันมาตลอดทั้งปีจากวิกฤติต่างๆ รวมทั้งผู้ประกอบการแต่ละแห่งใช้กลยุทธ์ต่างๆ นานาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวคนไทยไปทดแทนชาวต่างประเทศ

ในส่วนของโรงแรมริมกกรีสอร์ทเชียงราย ซึ่งตนเป็นผู้จัดการอยู่ก็ได้เข้าร่วมโครงการไทยเที่ยวไทยที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ทำให้สามารถดึงนักท่องเที่ยวชาวไทยให้ไปพักจนห้องพักเป็นจำนวนมากตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค.นี้ไปจนถึงต้นเดือน ม.ค.2552

“เดิมมีการประเมินกันว่าตัวเลขการเข้าพักจะตกต่ำลงในเดือน ก.ย.-ต.ค.2551 แต่หลังจากนักท่องเที่ยวทะลักไปเป็นจำนวนมากเช่นนี้ ทำให้โรงแรมของผมมีตัวเลขกระเตื้องขึ้นกว่า 60% แล้ว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเคยทำไปถึง 80% ของห้องพักทั้งหมดก็ถือว่าใกล้เคียงกัน”