พะเยา – พบนายทุนรุกแผ้วถางที่ป่าหน้า มน.พะเยากว่า 200 ไร่ ฮุบพื้นที่ก่อสร้างศูนย์กลางพยาบาล-โรงเรียนสาธิต ป่าไม้ฯตั้งธงลุยหาตัวนายทุนเอาผิดเต็มที่
นายอนุสิทธิ์ เมธาวรารักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา ได้ประสานหน่วยงานในสังกัดกรมป่าไม้ และกำลังตำรวจ ตชด.32 เข้าตรวจสอบพื้นที่แนวเขตของมหาวิทยาลัยนเรศวรพะเยา ที่ถูกนายทุนในพื้นที่บุกรุกแผ้วถางเตรียมปลูกพืช พร้อมนำเสาปูนมากั้นเป็นแนวรั้วยาวเหยียด
ทั้งนี้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา ได้รับการร้องเรียนจาก มหาวิทยาลับนเรศวร พะเยาว่า พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่ทาง มน.พะเยา ได้รับการจัดสรรใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ ถูกนายทุนบุกรุกแผ้วถางนับร้อยไร่ จึงได้ประสานหน่วยงานของกรมป่าไม้ อาทิ ส่วนป้องกันรักษาสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 จังหวัดเชียงราย หน.นปม.พะเยา หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พย.3 และเจ้าหน้าที่สปก. นำกำลังเข้าตรวจสอบเพื่อดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี โดยขอรับการสนับสนุนกำลังจากตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 พะเยา พร้อมกันนี้ทางมหาวิทยาลัยนเรศวร พะเยา ได้มอบหมายให้ ดร.วีระชัย ณ นคร รอง ผอ.วิทยาลัยนเรศวรพะเยา เป็นผู้ประสานงาน-ชี้แนวเขตของมหาวิทยาลัย เบื้องต้นพบนายทุนทำการแผ้วถางป่าเพื่อเตรียมลงพืชเนื้อที่ประมาณ 80 ไร่ นอกจากนี้ยังมีการปรับพื้นที่แบ่งเป็นลอกๆ อีก 4 แปลงเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่
ดร.วีระชัย ณ นคร รอง ผอ.มน.พะเยา กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าว มน.พะเยาได้รับการอนุญาตให้ใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ และได้กันไว้เพื่อเตรียมสร้างโรงพยาบาลขนาดใหญ่ซึ่งจะเป็นศูนย์การแพทย์ขนาดใหญ่ให้บริการประชาชนในพื้นที่ จ.พะเยา และจังหวัดใกล้เคียงและเป็นศูนย์การศึกษาด้านการแพทย์ของมหาวิทยาลัยฯ ตลอดจนเปิดเป็นโรงเรียนสาธิตรองรับเยาวชนในพื้นที่ให้มีคุณภาพการศึกษาที่มีมาตรฐาน จึงจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อนำพื้นที่ที่ถูกบุกรุกกลับมา เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์
ขณะที่นายอนุสิทธิ์ เมธาวรารักษ์ ทสจ.พะเยา กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสงวนแห่งชาติจึงจำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่สังกัดกรมป่าไม้เข้ามาดำเนินการให้ถูกต้อง หาก มน.พะเยาต้องการพื้นที่ตรงนี้ไปสร้างในสิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนก็ควรสนับสนุน ดีกว่าปล่อยให้นายทุนมาชุบมือเปิดโดยชาวบ้านไม่ได้อะไร
เบื้องต้นได้ประสานพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพะเยา มาร่วมตรวจสอบและมอบให้ หน.นปม.พะเยา ทำบันทึกการตรวจยึดพื้นที่ ส่งมอบให้ตำรวจติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป