ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - นักธุรกิจเมืองโคราช ขานรับ “อภิสิทธิ์” หัว ปชป.นั่งนายกฯ เชื่อ ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น พร้อมฝากการบ้านเร่งด่วนแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจเป็นงานแรก แนะรัฐบาลใหม่ใช้จ่ายงบประมาณอย่างระมัดระวัง และเลือกบุคคลมีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับนั่งกระทรวงเศรษฐกิจ วอนฝ่ายต่อต้านยุติชุมนุมป่วนทำประเทศชาติเสียหายขอให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์
วันนี้ (15 ธ.ค.) ภายหลังสภาผู้แทนราษฏรลงคะแนนโหวตเลือก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็น ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทย บรรดานักธุรกิจและผู้นำองค์กรเอกชนต่างออกมาแสดงความคิดเห็น และเรียกร้องให้รัฐบาลใหม่ เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมสร้างความรักสามัคคีให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
นายอรชัย ปุณณะนิธิ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กรรมการผู้จัดการโรงแรมปัญจดารา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว ว่า ประเทศไทยวันนี้ปัญหา มีมากทั้งปัญหาภายในและภายนอก โดยปัญหาภายในได้รับการแก้ไขไปแล้วระดับหนึ่ง แต่ปัญหาหนักสุด คือ ภาวะเศรษฐกิจของโลกที่มีผลกระทบต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก เป็นเรื่องที่ผู้นำประเทศหรือคณะรัฐบาลชุดใหม่จะต้องปฏิบัติและเดินให้ทันเกมไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายขึ้นอย่างมาก
ในส่วนของนักธุรกิจ มองว่า สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้จะสาหัสมากกว่าวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 โดยในปีนั้นไทยเราเป็นไข้เอง แต่คนอื่นไม่เป็น แต่วันนี้คนอื่นรอบๆ ข้างเป็นหมด แต่ไทยเราไม่ได้เป็นไข้มาก ฉะนั้น เราต้องมองภาพให้ออกและแก้ไขปัญหาระยะสั้นให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นความเสียหายจะเกิดมุมกว้าง และ มีผลกระทบต่อทุกภาคส่วน
วันนี้ไม่อยากให้รัฐบาลมองแค่เรื่องการส่งออกเท่านั้น เพราะยอดการส่งออกจะต้องลดลงอย่างแน่นอน ประเด็นปัญหาใหญ่คือทำอย่างไรจึงจะเยียวยาคนที่อยู่ในประเทศไทยให้อยู่ได้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นคนงานที่ต้องตกงานจากปัญหาโรงงานเลิกจ้าง เป็นจำนวนมาก และคนค้าขายในประเทศต้องทำอย่างไร โดยเฉพาะธุรกิจบริการและการท่องเที่ยวยอดขายตกต่ำเป็นอย่างมาก
ฉะนั้น รัฐบาลต้องเข้ามาเยียวยาและช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ โดยการอัดฉีดเม็ดเงินก้อนใหญ่ลงมายังภาคเอกชน ทั้งการจัดให้มีการสัมมนา ให้มีการเดินทาง สนับสนุนให้คนไทยเที่ยวเมืองไทย พร้อมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว โดยรัฐเป็นผู้นำทาง จะทำให้ธุรกิจภาคส่วนนี้บรรเทาเบาบางความเดือดร้อนลงไปได้
นายอรชัย กล่าวต่อว่า เรื่องการส่งออกก็สำคัญจะทำอย่างไรให้คนไม่ถูกเลิกจ้างมาก ให้เขามีโอกาสเลี้ยงครอบครัวไปได้ การที่การเมืองวันนี้ได้รัฐบาลชุดใหม่ จึงอยากฝากไปยังพรรคประชาธิปัตย์ว่า การเลือกบุคคลที่จะมาทำงานทางด้านเศรษฐกิจ ให้ดูถึงความสามารถด้วย ซึ่งอาจเอาบุคคลภายนอกมาก็ได้หากเป็นบุคคลที่มีความสามารถ เพราะวันนี้เราไม่พร้อมที่จะเอาใครก็ได้มาเป็นรัฐมนตรีแล้วทำงานแบบไม่เป็นเอกภาพ หรือขาดความเข้าใจที่แท้จริงในเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งวันนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม การได้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า จะทำให้ประเทศไทยดีขึ้น เพราะ นายอภิสิทธิ์ ถือเป็นคนใหม่ที่เป็นนักการเมืองที่ไม่บอบช้ำ และเป็นคนใสสะอาด เป็นรุ่นใหม่ ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ ต้องใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่เพื่อนำการเมืองไทยไปสู่จุดที่จะทำให้นายอภิสิทธิ์ มีชื่อเสียงดีขึ้นในอนาคต นายอภิสิทธิ์ เป็นนักการเมืองที่อายุน้อย หากสามารถนำพาประเทศฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจและการเมืองตรงนี้ไปได้ เชื่อว่า จะกลายเป็นวีรบุรุษ และนักการเมืองที่อยู่ในดวงใจของคนไทยไปอีกนานแสนนาน
ด้าน นายทศพล ตันติวงษ์ ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ภายหลังจากทราบว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเลือกให้เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี ในภาคเอกชนรู้สึกดี และคิดว่า สถานการณ์ทุกอย่างทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศน่าจะดีขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน แต่คงต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพักกว่าสถานการณ์จะเข้าที่ เพราะยังมีกลุ่มต่อต้านออกมาเดินขบวนอยู่ และ นายอภิสิทธิ์ ต้องใช้ความพยายามให้มาก ซึ่งภาคเอกชนเองอยากเปลี่ยนกลุ่มใหม่ขึ้นมาบริหารประเทศบ้าง เพราะกลุ่มเก่าที่เคยทำมาแล้วก็มีแต่เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องเร่งแก้ไข คือ เรื่องวิกฤตเศรษฐกิจ แม้ว่าจะทำอะไรไม่ได้มาก เพราะภาวะเศรษฐกิจมันย่ำแย่แล้ว แต่ควรมีนโยบายมาช่วยดูแลเรื่องเศรษฐกิจของประเทศอย่างชัดเจนโดยเฉพาะการเลือกบุคคลที่จะมานั่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกระทรวงเศรษฐกิจอื่นๆ ต้องเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถในระดับที่จะนำพาประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤตไปได้
ที่สำคัญ อย่าเข้ามาเพื่อถลุงเงินของประเทศชาติเพียงอย่างเดียว การใช้จ่ายเงินควรมีเหตุมีผล เพราะที่ผ่านมารู้สึกเสียดายเงินของประเทศชาติที่ใช้ไปแบบสูญเปล่า ไม่ได้ประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำนั้น คงต้องให้เวลากับรัฐบาลชุดนี้อย่างเร็วที่สุดน่าจะเป็นผลภายใน 6 เดือน
“เศรษฐกิจปีหน้าเป็นปีที่หนักมาก ใครเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ลำบาก ฉะนั้น คุณอภิสิทธิ์ คงต้องลำบากมากขึ้น แต่หากมีรัฐบาลที่เข้มแข็ง จะทำให้สภาพจิตใจ บรรยากาศทางด้านเศรษฐกิจของไทยเราดีขึ้น ไปไหนมาไหนก็รู้สึกดี มีความภูมิใจ” นายทศพล กล่าว
นายทศพล กล่าวต่อว่า อยากฝากไปถึงกลุ่มมวลชนลุกขึ้นมาต่อต้าน ว่า ควรยุติได้แล้ว ขอให้ทุกคนเห็นแก่บ้านเมือง มาถึงตอนนี้ใครเป็นรัฐบาลสำคัญตรงไหน เพราะนักการเมืองไม่ว่ากลุ่มไหนมาแล้วก็ไป แต่ประเทศชาติต้องคงอยู่ การออกมาสร้างความวุ่นวายต่อต้านนั้นไม่ได้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติเลย มีแต่จะทำให้เสียหาย ควรปล่อยให้รัฐบาลใหม่ได้ทำงานพิสูจน์ฝีมือของเขาด้วยผลงานจะดีกว่า
“ในส่วนของรัฐบาลใหม่อยากฝากให้ดูแลเรื่องปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจเป็นการเร่งด่วน และการออกนโยบายอะไรมาขอให้คนส่วนใหญ่ได้รับผลประโยชน์จะเป็นการดีที่สุด” นายทศพล กล่าว