ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตำรวจภาค 3 ขยายผลรวบแก๊งปลอมธนบัตรและเอกสารทางราชการรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางจำนวนมากรวม 29 รายการ ทั้ง ธนบัตรปลอมฉบับละ 1 พัน กว่า 1แสนบาท –หนังสือเดินทาง-บัตรปชช.-ทะเบียนบ้านปลอม รวมกว่า 200 เล่ม สารภาพรับจ้างปลอมเอกสารมานานแล้ว
วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.กฤษฏา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) แถลงผลการจับกุมแก๊งปลอมแปลงธนบัตรรัฐบาลไทย และเอกสารทางราชการรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายมงคล ชัยนันท์ อายุ30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ซอย ประดิพัทธ์ 3 สามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ , นายประจักร หาวิรส อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 2 ต.บุญทัน อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู และ นายพิทักษ์ พิมพะ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 11 ต.กู่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ
พร้อมของกลางจำนวน 29 รายการ รวมมูลค่ากว่า 2.5 หมื่นบาท เช่น ธนบัตรรัฐบาลไทยปลอมฉบับละ 1,000 บาท จำนวน113 ฉบับ รวมเป็นเงิน 113,000 บาท , หนังสือเดินทางปลอม 61 เล่ม, สมุดสำเนาทะเบียนบ้าน 7 เล่ม ,บัตรประจำตัวประชาชน 190 แผ่น , อุปกรณ์ในการปลอมแปลงทั้ง น้ำยาทำตรายาง , หมึกแบล็กไลท์, เครื่องถ่ายเอกสาร, เครื่องสแกนเนอร์, เครื่องคอมพิวเตอร์ และ แผ่นโปรแกรมข้อมูลคอมพิวเตอร์สำหรับทำเอกสารปลอม
ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุรินทร์ ได้ทำการจับกุม นายมงคล ได้พร้อมธนบัตรรัฐบาลไทยปลอมฉบับละ 1,000 บาท จำนน 113 ฉบับ รวมเป็นเงิน 113,000 บาท เมื่อวานนี้ ( 11 ธ.ค.) ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานสืบสวน ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้สอบสวนขยายผลโดยการไปตรวจค้นที่ พี.ซี. โชคชัย 4 (ซ.70) อพาร์ทเม้นท์ เลขที่ 21/158 ห้อง 207 หมู่ 13 ซ.โชคชัยพัฒนา ถ.โชคชัย 4 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นห้องพักของ นายมงคล พบของกลางที่ใช้ในการปลอมธนบัตรและเอกสารจำนวนมาก
นายมงคล ชัยนันท์ อายุ30 ปี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า ได้ทำการปลอมแปลงเอกสารร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน คือ นายประจักร และนายพิทักษ์ โดยปลอมแปลงธนบัตรรัฐบาลไทยฉบับละ 1,000 บาท, หนังสือเดินทางของกระทรวงการต่างประเทศ, บัตรประจำตัวประชาชนปลอม, สำเนาทะเบียนบ้าน (ทล.14), บัตรประจำตัวมัคคุเทศก์ และวุฒิการศึกษาปลอมใช้ในการสมัครงาน โดยใช้อุปกรณ์เครื่องมือในการปลอมแปลงเอกสารของทางราชการดังกล่าว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์, เครื่องพิมพ์สี, เครื่องทำตรายาง, เครื่องเคลือบบัตร และเครื่องสแกนเนอร์ เป็นต้น
สำหรับธนบัตรรัฐบาลไทยที่ทำการปลอมแปลงขึ้นมา ได้นำมาแลกซื้อสินค้าตามต่างจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอรอบนอกเพื่อเอาเงินทอน ส่วนหนังสือเดินทาง รับจ้างทำในราคาเล่มละ 5,000 บาท, บัตรประจำตัวประชาชนราคา 3,000 บาท/ฉบับ, สำเนาทะเบียนบ้าน ราคา 1,500 บาท เป็นต้น โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำมานานแล้ว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการจับกุมตัวเพื่อนร่วมแก๊งอีก 2 คน คือ นายประจักร และ นายพิทักษ์ ซึ่งเป็นฝ่ายจัดหาลูกค้ามาให้กับ นายมงคล พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ตั้งหาทั้ง 3 คนใน 4 ข้อกล่าวหา คือ ร่วมกันมีไว้ นำออกซึ่งสิ่งที่ตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นเงินตราปลอม , ร่วมกันทำปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตร หรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจออกใช้, ร่วมกันมีเครื่องมือ หรือวัตถุสำหรับปลอม หรือแปลงเงินตรา เพื่อใช้ในการปลอมหรือแปลงเงินตรา และร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน