xs
xsm
sm
md
lg

เปิดบันทึกชีวิตแกนนำ พธม.ลูกพระองค์ดำ “ทวี ทองถัน” เฒ่าทระนง! แห่งตลาดหัวรอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ลุงวี และป้าพร” ตื่นเต้น หลังติดตามข่าว “ASTVผู้จัดการ”เปิดหน้า พันธมิตรฯกู้ชาติ
พิษณุโลก – เปลือยชีวิตและตัวตน “ทวี ทองถัน” ผู้เฒ่าวัย 67 ปีจากผืนแผ่นดินพระองค์ดำ ที่ประกาศตัวใส่เสื้อเหลือง-เป็นแกนนำ พธม.เมืองสองแคว แม้มีสถานะเป็นเพียงพ่อค้าโชวห่วยตัวเล็กๆ ใน “ตลาดสดหัวรอ” แต่เขาและเมียกลับตัดสินใจปิดแผงชั่วคราวกว่า 3 เดือน เพื่อมุ่งหน้าเข้าร่วมชุมนุมไล่รัฐบาลทรราช ล่าสุดขณะนี้ได้คืนสู่สถานะเดิมอีกครั้งด้วยรอยยิ้มที่สดใสมากขึ้น หลังได้ร่วมรับรู้กับชัยชนะแห่ง 192 วัน สงครามครั้งสุดท้าย

ในการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ทั้งในช่วงปี 48-49 และช่วงปี 51 ที่ผ่านมา 1 ในเครือข่าย พธม.นับแสน นับล้านคน จากทั่วประเทศ กล่าวได้ว่าแทบไม่เคยขาดผู้เฒ่าวัยชรา ที่ความคิดความอ่านไม่ได้ชราพร้อมๆร่างกายจากแผ่นดินแห่งพระองค์ดำ-เมืองสองแคว พิษณุโลก อย่าง “ลุงทวี ทองถัน” วัย 67 ปี ซึ่งเปิดหน้าเคลื่อนไหวในฐานะแกนนำ พธม.พิษณุโลก มาอย่างต่อเนื่อง ที่เคยขึ้นเวที พธม.หน้าทำเนียบฯ กับเขามาแล้ว

แม้ว่า “วาทะ” จะไม่แตกฉาน น้ำเสียงโน้มน้าวจะออกดูจืดๆ ไม่เหมือนผู้นำม็อบ หรือหัวคะแนนของนักการเมืองทั่วไป แต่ “ลุงวี” ก็นำพาพันธมิตรฯ พิษณุโลกเข้ากรุงครั้งแล้วครั้งเล่าไม่เคยหยุดจนถึงวันแห่งชัยชนะ

วันนี้ “ลุงทวี” กำลังประเดิมเปิดแผงใหม่ (9 ธ.ค.2551) เหมือนเริ่มต้นทำอาชีพใหม่อีกครั้ง กับร้านโชวห่วย ขายของเล็กๆ น้อยๆ ที่ตลาดสดหัวรอ อ.เมือง พิษณุโลก หลังจากที่ปิดร้านมาร่วมเคลื่อนไหวนานกว่า 3 เดือน ซึ่งบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดหัวรอ รู้จักกันดีว่า เขาคือผู้นำม็อบเสื้อเหลือง แม่ค้าบางรายที่แนวความคิดไม่ตรงกับแก ก็กล่าวหาว่า “ลุงวี” เป็นพวกคอมมิวนิสต์

“ทวี ทองถัน” บอกว่า การกลับมาเริ่มต้นใหม่ในฐานะพ่อค้าในตลาดสดหัวรอ อาจดูแปลกๆไป เพราะห่างหายไปกว่า 3 เดือนที่ต้องปิดกิจการไปชั่วคราว เลยต้องจ่ายเงินค่าเช่าที่-ค่าบำรุงดูแลน้ำไฟไปฟรีๆ เดือนละหนึ่งพันบาท แม้ว่าเป็นล็อกของตัวเองก็ตาม แต่ก็ถือว่า งานนี้เราไปทำเพื่อประเทศชาติ
วันแรก(9ธันวาคม51)ที่เปิดแผง “ลุงวี”กำลังหิ้วของที่ซื้อมาขายปลีก ที่แผงขายของเล็ก ๆ ที่ตลาดสดหัวรอ อ.เมือง พิษณุโลก
“ผมผูกพันกับตลาดหัวรอมานาน ค้าขายที่นี่มาหลายสิบปี เรียกได้ว่าบรรดา ส.ส.หรือหัวคะแนนมักพุ่งตรงมาขอคะแนนเสียงกับตนแทบทุกครั้ง ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง อย่างน้อยก็ได้คะแนนเสียงไป 300 เสียง เฉพาะในเขตตลาดหัวรอ แต่ผมก็ต้องดูคนด้วย ชั่วคือชั่ว ดีคือดี เรามีจุดยืน”

“ลุงวี” บอกว่า จุดหักดิบ ทำให้เกลียดชังรัฐบาลนอมินีทักษิณ นั่นคือการสั่งฆ่าประชาชน ทำให้ตนและภรรยา (ป้าพร-ศิริพร ทองถัน) ปิดบ้าน ปิดร้าน มุ่งหน้าไปอยู่ทำเนียบฯ เพื่อขับไล่รัฐบาลทรราช พร้อมกับชักชวนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดพิษณุโลกที่มีแนวความคิดเดียวกันเดินทางขึ้นรถบัส-รถไฟ ไปร่วมต่อสู้ทุกครั้ง เมื่อเหตุการณ์รุนแรง

“ลุงวี” ถือได้ว่า เป็นคนที่มีแนวคิด รักชอบพรรคประชาธิปัตย์ฝังรากลึกมาตั้งแต่หนุ่มๆ ส.ส.คนใดมาของคะแนนเสียงชาวตลาดหัวรอ จะช่วยทุกราย หากเป็นพรรคประชาธิปัตย์ แต่มี ส.ส.คนหนึ่งที่เคยรักชอบกัน เคยอยู่พรรคปชป.แต่แล้วก็กลับย้ายไปอยู่พรรคไทยรักไทย(ในยุคนั้น) “ลุงวี และป้าพร” ก็บอกได้คำเดียวว่า หนีผมไปเองนะ! แม้จะอ้อนเท่าไร คะแนนเดียวก็ไม่หย่อนให้

ผู้สื่อข่าว “ASTV ผู้จัดการ”ถามไปอีกว่า แล้วเหตุผลอะไรที่ชอบประชาธิปัตย์ถึงขนาดนั้น “ลุงวี”อธิบายว่า ประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ เป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ ไม่เหมือนพวกพลังประชาชนหรือเพื่อไทย ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อหาเสียง ทำการตลาดไปวันๆ

“แต่ถ้าวันใด วันหนึ่ง ประชาธิปัตย์ไม่ดี ผมก็ไม่เอา”

เขากล่าวอีกว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็เหมือนกัน แต่ลุงได้พิสูจน์แล้ว “คุณสนธิ ลิ้มทองกุล” ทำเพื่อชาติ หลายปีที่ผ่านมา ได้ติดตามรายการ “เมืองไทยรายวันและเมืองไทยรายสัปดาห์” ผ่านจอทีวีช่อง 9 กระทั่งถูกถอดรายการ ก็เลยต้องหาวิธีติดตามแนวคิดของคุณสนธิ ต่อมาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้

กรณีระดมมวลชนพันธมิตรฯพิษณุโลก “ลุงวี” บอกว่า ไม่มากเหมือนจังหวัดอื่น ซึ่งผมทราบดีว่ามีข้อจำกัดหลายๆอย่าง ทั้ง พธม.และนปก.ที่พิษณุโลก ชอบหาผลประโยชน์เป็นหลัก

แต่ถามว่า แล้วทำไมไม่ดึงกลุ่มหัวคะแนนพรรค ปชป.มาช่วยระดมมวลชน “ลุงวี” บอกย้ำเสียงหนักแน่นว่า ไม่ชอบหัวคะแนนที่ชอบกินหัวคิว และไม่อยากดึงพรรคประชาธิปัตย์มาทำให้เสียคะแนน เมื่อรู้ว่าสนับสนุนพันธมิตรฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น