ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แฉ “ส.ส.โคราช” ตัวเอ้อยู่เบื้องหลังสั่งหัวคะแนนจัดฉากเกณฑ์ชาวบ้าน อ.ขามสะแกแสง สวมเสื้อแดง-เหลือง พร้อมนำสื่อไปทำข่าวจับมืออ้างเลิกแบ่งฝ่ายเพื่อความสงบสุขในบ้านเมือง เผย เป็นแผนการชั่วร้ายทำลายความชอบธรรมการต่อสู้ของพันธมิตรฯ สอดรับกระแส “สานเสวนา” สร้างความสับสนเข้าใจผิดให้สังคมกดดันพันธมิตรฯ สลายการชุมนุมในทำเนียบ ซัด “สมชัย-ภิรมย์” 2 ส.ส.เขต 5 ดิ้นสร้างผลงานดันราคางัดสารพัดวิชามารเคลื่อนไหวต่อต้าน พธม.เพื่อผลประโยชน์อนาคตการเมืองตัวเอง
วันนี้ (29 ต.ค.) ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด และประธานกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย ซึ่งเป็นองค์กรเครือข่ายพันธมิตรประชาชนประชาชนเพื่อประชาธิปไตยใน จ.นครราชสีมา กล่าวถึงกรณี ที่มีกลุ่มคนเสื้อแดง กับเสื้อเหลือง ออกมาจับมือประกาศเลิกแบ่งฝ่าย เพื่อสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นที่ อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา เมื่อวานนี้ (28 ต.ค.) ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการจัดฉากของนักการเมืองร่วมกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ โดยมี ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 5 อยู่เบื้องหลัง เพื่อสร้างภาพและทำลายความชอบธรรมในการต่อสู้และการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ในทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นกลวิธีที่มีการออกแบบมาอย่างเป็นระบบ ในระดับประเทศแล้วทำการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวเพื่อสร้างข่าวตามจังหวัดต่างๆ
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า กลุ่มคนเสื้อเหลืองรวมทั้ง นายไพบูลย์ แก้วไพฑูรย์ คนที่อ้างว่าเป็นแกนนำกลุ่มเสื้อเหลือ อ.ขามสะแกแสง ที่ไปร่วมจับมือกับกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายพันธมิตรฯ ทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่พยายามแฝงตัวเข้าไปร่วมเคลื่อนกับทั้งพันธิมตรฯ และกลุ่มเสื้อแดง
และทราบว่า เป็นคนสนิทของนักการเมืองท้องถิ่น คือ นายชัชวาล พัฒนกำชัย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นครราชสีมา เขต อ.ขามสะแกแสง ซึ่งเป็นหัวคะแนนคนสำคัญใน อ.ขามสะแกแสง ของ นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ส.ส. นครราชสีมา เขต 5 พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.) ที่อยู่เบื้องหลังการจัดฉากครั้งนี้ โดยอ้างเป็นกิจกรรมวันแม่สู่วันพ่อ 116 วัน สร้างความสามัคคี ทั้งที่กิจกรรมนี้ ของ อ.ขามสะแกแสง ได้จัดผ่านไปหลายวันแล้ว
ทพ.ศุภผล กล่าวต่อว่า ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 5 นครราชสีมา ทั้ง 7 อำเภอ รวมทั้ง อ.ขามสะแกแส ด้วย ซึ่งมี ส.ส.2 คน คือ นายภิรมย์ พลวิเศษ พรรคพลังประชาชน (พปช.) กับนายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.) นั้น ได้มีการจัดตั้งเคลื่อนไหวมวลชนในพื้นที่ต่อต้านพันธิมตรฯ มาอย่างต่อเนื่อง โดย ส.ส.คนแรก ใช้ฐานหัวคะแนนระดมมวลชนออกมาเคลื่อนไหวหลายรูปแบบทั้งในระดับจังหวัดและเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.ที่กรุงเทพฯ รวมทั้งเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ 5 แกนนำพันธมิตรฯ รวมทั้งตน ข้อหาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ส่วน ส.ส.คนที่ 2 ได้พยายามยกระดับราคาด้วยการสร้างผลงานอยู่เบื้องหลังเคลื่อนไหวต่อต้านพันธมิตรฯ ในรูปแบบต่างๆ เพื่อผลประโยชน์อนาคตทางการเมืองของตัวเอง เช่น มีส่วนเกี่ยวข้องการจัดสัมมนาอ้างส่งเสริมความรู้พัฒนาด้านการเมืองให้กับประชาชนในพื้นที่ อ.บัวใหญ่ ต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา แต่เต็มไปด้วยกลุ่มคนเสื้อแดง ป้ายขับไล่ ป.ป.ช., กกต.และ ต่อต้าน รธน.2550
รวมถึงการออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะ จะถอนชื่อจากร่วมยื่นญัตติเสนอร่างแก้ไข รธน. 2550 ต่อสภา ก็ต่อเมื่อให้ประชาชนนองเลือดบาดเจ็บล้มตายเสียก่อน และล่าสุด อยู่เบื้องหลังจัดฉากการจับมือระหว่างกลุ่มเสื้อแดงกับเสื้อเหลืองคนในพื้นที่ฐานเสียงตัวเอง ที่ อ.ขามสะแกแสง พร้อมนำนักข่าวกลุ่มของตัวเองไปทำข่าวสร้างกระแสทำลายความชอบธรรมการต่อสู้ของกลุ่มพันมิตรฯ เป็นต้น
ทพ.ศุภผล กล่าวต่อว่า การเกณฑ์ชาวบ้านมาสวมเสื้อแดงและเสื้อเหลืองจับมือกันอ้างการเลิกแบ่งฝ่ายเพื่อสร้างความสงบสุขในบ้านเมือง ดังกล่าว เป็นการจัดฉากทำลายความชอบธรรมในการต่อสู้และการชุมนุมของพันธิมตรฯ ที่สอดรับกับกระแสการเคลื่อนไหวระดับประเทศกับการเรียกร้องพันธมิตรฯเข้าร่วม “สานเสวนา” ที่อ้างสันติธรรมคลี่คลายวิกฤติเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ เพื่อขยายผลสร้างความสับสนและเข้าใจผิดให้กับสังคมได้หันเหมุ่งไปสนใจที่ปลายเหตุคือ สลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ เท่านั้น โดยที่ไม่สนใจต้นเหตุแห่งปัญหาของชาติบ้านเมืองอันแท้จริง ไม่พูดถึงการเอา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวก มารับโทษติดคุก และไม่ดำเนินการกับผู้สั่งเข่นฆ่าประชาชนในวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา
“การทำลายความชอบธรรมการต่อสู้ของภาคประชาชนเช่นนี้ จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ ตราบใดที่รัฐบาลทรราชฆาตกรและระบอบทักษิณอันชั่วร้ายยังคงอยู่” ทพ.ศุภผล กล่าว