มหาสารคาม - พิษเศรษฐกิจซบ กระทบปากท้องชาวจังหวัดมหาสารคามขาดสภาพคล่องหนัก แห่พึ่งโรงตึ๊งมหาสารคามคึกคัก ระบุกลุ่มชาวนาและนักศึกษาใช้บริการมากเป็นพิเศษ จนยอดเงินหมุนเวียนไม่พอให้บริการ เตรียมขอกู้เงิน ก.บ.ท.อีก 10 ล้านบาทสนองความต้องการในยุคข้าวยากหมากแพง
จากปัญหาเศรษฐกิจประเทศชะลอตัวอย่างรุนแรง กระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคาม ได้รับความเดือดร้อน รายรับไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ทั้งกลุ่มชาวนา นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ล้วนต้องการเงินใช้จ่ายที่จำเป็นต่างๆ อาทิ การจ้างแรงงานเก็บเกี่ยวข้าว ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา จำเป็นต้องหาที่พึ่งทางการเงิน
โดยแหล่งเงินทุนที่พึ่งทางการเงินของชาวมหาสารคาม คือ โรงรับจำนำหรือสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองมหาสารคาม ในระยะนี้จะมีประชาชนนำของมีค่า อาทิ ทองรูปพรรณ เครื่องมือการเกษตร ผ้าไหม รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า มาใช้บริการจำนำเป็นจำนวนมาก ล่าสุดพบว่ามีประชาชนเข้าใช้บริการจำนวนมากถึง 4,354 ราย มูลค่าทรัพย์สินที่รับจำนำไว้เป็นเงินทั้งสิ้น 48,964,200 บาท
นายธีรศักดิ์ คำภักดี ผู้ช่วยผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองมหาสารคาม มีเงินทุนหมุนเวียนให้บริการประชาชนในรอบปี 2551 คิดเป็นวงเงินรวม 50 ล้านบาทเศษ แต่จากสภาพความผันผวนทางเศรษฐกิจทำให้ประชาชนในกลุ่มชาวที่เงินขาดมือต้องหาเงินทุนไปใช้จ่ายเพื่อจ้างแรงงานเก็บเกี่ยวข้าวให้ทันฤดูเก็บเกี่ยว ก่อนที่ข้าวจะยืนต้นแห้งกรอบและข้าวไม่มีคุณภาพ
รวมถึงกลุ่มนักศึกษาที่ต้องหาเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียน เป็นสองกลุ่มหลักที่เข้ามาใช้บริการจำนำมากเป็นพิเศษ ซึ่งปริมาณการให้บริการจำนำที่มากในระยะนี้ ส่งผลให้มีกระแสเงินสดที่เหลือไว้บริการประชาชนเพียงแค่ 1 แสนบาทเศษเท่านั้น ทำให้สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองมหาสารคามขาดสภาพคล่อง
ก่อนหน้านี้ ทางสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองมหาสารคามได้ขอกู้เงินจากธนาคารกรุงไทย เป็นวงเงินโอดีจำนวน 5 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน เพื่อให้การบริการช่วยเหลือทางการเงินกับประชาชนให้เพียงพอกับความต้องการ ทางคณะผู้บริหารได้อนุมัติให้กู้เงินจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น หรือ ก.บ.ท.เพื่อเสริมสภาพคล่องอีก 10 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อน และเสริมสภาพคล่องให้แก่พี่น้องประชาชนได้
