ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯภูเก็ตห่วงที่นาผืนสุดท้ายของจังหวัด ถูกขายให้นายทุนแปลงสภาพเป็นรีสอร์ต โรงแรม เผยมีแนวคิดปรับปรุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ นำนักท่องเที่ยวชมขบวนการทำนาครบวงจร
นายปรีชา เรือจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังจาก ได้นำประชาชน นักท่องเที่ยว หัวหน้าส่วนราชการลงมือเกี่ยวข้าว ตีข้าว และสีข้าว ในที่นาผืนสุดท้ายของจังหวัดภูเก็ต ในพื้นที่ ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ตว่า ที่นาดังกล่าวถือเป็นที่นาผืนสุดท้ายของจังหวัดภูเก็ตที่ยังคงมีการทำนากันอยู่ การนำนักท่องเที่ยวและประชาชน รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการลงพื้นที่เกี่ยวข้าว ตีข้าวและสีข้าว เพื่อให้เห็นถึงวิถีชีวิตการทำนาของชาวบ้าน ดำเนินตามแนวทางพระราชดำริเศรษฐกิจพอของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่ออนุรักษ์ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิตแบบคนไทย รวมทั้งเพื่อส่งเสริมองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ตอีกครั้งหนึ่ง
“เพราะเดิมนั้นในจังหวัดภูเก็ตมีที่นา ที่สามารถที่จะผลิตข้าวเลี้ยงประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเพียงพอ แต่เมื่อหมดแร่ดีบุก และเข้าสู่ยุคของการท่องเที่ยวทำให้ที่นาที่กระจายอยู่ทั้ง 3 อำเภอ คือ อ.ถลาง อ.กะทู้ อ.เมือง ในจังหวัดภูเก็ต ที่นาเหล่านี้ได้ถูกขายให้แก่ผู้ประกอบการสร้างเป็นรีสอร์ท โรงแรม เพื่อรองรับการการท่องเที่ยวและเป็นที่พักของนักท่องเที่ยวและเป็นหมู่บ้านจัดสรรทำให้ที่นาในจังหวัดภูเก็ตค่อยๆหายไป จนเหลือพื้นนาที่สามารถปลูกข้าวได้เพียงแห่งเดียวคือที่บ้านไม้ขาว ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และกำลังเป็นที่นาผืนสุดท้ายนายทุนชาวต่างประเทศสนใจที่จะซื้อเพื่อไปสร้างรีสอร์ต หากที่นาผืนนี้ถูกขายไปก็จะไม่มีที่นาเหลือในภูเก็ตอีกเลย” นายปรีชา กล่าว และว่า
ทั้งนี้ เพื่ออนุรักษ์ที่นาผืนสุดท้ายไว้ จังหวัดได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทำการอนุรักษ์ไว้ ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านได้รวมกลุ่มกันในการทำนา โดยมีพื้นที่ประมาณ 130 กว่าไร่ โดยจัดทำเป็นศูนย์เรียนรู้ทางด้านการเกษตร ซึ่งมีทั้งการทำนา และโรงสีข้าว
ตนมีแนวคิดที่จะปรับปรุง ฟื้นฟูการทำนาข้าวในพื้นที่ ต.ไม้ขาว อ.ถลาง ซึ่งเป็นแหล่งสุดท้ายของจังหวัดภูเก็ตให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ โดยนักท่องเที่ยวสามารถมาดูขบวนการทำนาข้าวที่ภูเก็ตแบบครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการไถนา หว่านเมล็ดข้าวเก็บเกี่ยว ไปจนถึงขั้นตอนของการสีข้าว ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการทั้งหมด ซึ่งเป็นการทำเกษตรเชิงท่องเที่ยว เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวแน่นอน