xs
xsm
sm
md
lg

หอฯ เหนือเสนอ “ธปท.-คลัง-ครม.” ขยายเวลาชำระหนี้-ลดดอกกระตุ้น ศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เชียงราย – หอฯ เหนือเตรียมเสนอ ธปท.-คลัง-ครม. “ชาย” หาทางอุ้มภาคธุรกิจด่วน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จี้ลดดอกเบี้ย-ขยายเวลาชำระหนี้ ชดเชยช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตการเมือง แต่ยอมรับยังไม่รู้อนาคตประเทศไทย หลังเกิดความขัดแย้งหนัก

นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ และประธานหอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งด้านการส่งออกและการท่องเที่ยวอย่างหนักในครั้งนี้ ขอเสนอให้รัฐบาลได้เร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเอาไว้ก่อนด้วยการจัดลำดับชั้นหนี้ใหม่ เนื่องจากภาคเอกชนกำลังประสบกับปัญหาจากภาวะวิกฤตนี้อย่างหนัก โดยขอให้ผ่อนคลายการจัดลำดับชั้นหนี้และพักชำระหนี้ให้ภาคเอกชนลงตั้งแต่ 50% ลงไป หรือยืดระยะเวลาออกไปอีก เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่เกิดปัญหาวิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจดังกล่าว

นายพัฒนา กล่าวว่า ได้เริ่มหารือนอกรอบกับประธานหอการค้าในบางจังหวัดของภาคเหนือทั้ง 10 จังหวัดแล้ว ได้ข้อสรุปตรงกันว่าต้องแก้ไขปัญหาให้ภาคเอกชน ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจดังกล่าวด้วย ทั้งนี้จะมีการจัดทำเป็นข้อเสนอเพื่อยื่นไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง และคณะรัฐมนตรี เพื่อรับทราบปัญหาและช่วยเหลือภาคเอกชนตามข้อเสนอต่อไป

อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นเพียงข้อเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเท่านั้น เพราะยังไม่อาจจะทราบได้ว่าวิกฤตจะยุติลงไปเมื่อไหร่อย่างไร เพราะวิกฤตครั้งนี้เกิดจากการปะทะกันระหว่างกลุ่มคนพันธุ์เดิม ที่ยังคงยึดตามกรอบของระบอบประชาธิปไตย ที่คุ้นเคยมาเป็นกระบวนการในการแก้ไขปัญหา และกลุ่มการเมืองพันธุ์ใหม่ ซึ่งพัฒนามาจากพื้นฐานของกลุ่มคนพันธุ์เดิม โดยใช้เครื่องมือในการขับเคลื่อนที่แตกต่างออกไปจากอดีต

“ทั้งสองฝ่ายมีรูปแบบการทำงานที่จะเข้าร่วมกันไม่ได้เลย ทางออกที่ดีที่สุด คือ การต้องเรียนรู้กระบวนทัศน์ของกันและกันให้มากขึ้นเพื่อหาจุดที่ลงตัวอันจะทำให้พอเจรจาความกันได้บ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่เพราะอีกฝ่ายหนึ่งมีพัฒนาการที่เร็วเกินกว่าที่อีกฝ่ายจะตามทัน” นายพัฒนา กล่าวและว่า

นอกจากนี้ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นยังเกิดจากกลุ่มทุนใหม่ที่มีแนวคิดใหม่ๆ กับกลุ่มทุนเก่าที่เสียผลประโยชน์หรือปรับตัวได้ไม่ทันด้วย เมื่อคนที่มีอิทธิพลในระบบเศรษฐกิจและการเมืองเกิดการปะทะกันเช่นนี้จึงเป็นเรื่องยากที่จะคลี่คลายได้โดยเร็ว ดังนั้น ตนจึงเห็นว่า ท้ายที่สุดอาจจะถึงเวลาที่ประเทศไทยจะต้องเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตยยุคใหม่แต่ต้องสูญเสียต้นทุนสูงมาก

สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาวประเทศไทยก็ได้ประสบการณ์แล้วว่า วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ การขนส่ง การเดินทาง การติดต่อสื่อสาร ฯลฯ ที่กรุงเทพฯ หรือส่วนกลางเป็นหลักจากนั้นค่อยๆ ส่งผลกระทบไปยังส่วนภูมิภาค ดังนั้นรัฐไทยในอนาคตจึงควรป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตซ้ำซ้อน ด้วยการผลักดันโครงการที่จะเป็นช่องทางหายใจของระบบเศรษฐกิจไทยในส่วนภูมิภาคเอาไว้ด้วย ตามกรอบและแผนการพัฒนาของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงหรือจีเอ็มเอส เช่น North-South / East-West Economic corridor ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันมีการร่างระเบียบข้อตกลงหรือลงนามเพื่อการพัฒนาไปมากแล้ว เหลือเพียงการผลักดันโครงการให้ก้าวไปถึงระดับที่ตกลงกันเท่านั้น

เมื่อภูมิภาคโดยเฉพาะพื้นที่ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจสำคัญ เช่น ภาคเหนือ ตะวันตก ตะวันออกเฉียงเหนือ ฯลฯ ได้รับการพัฒนาตามกรอบและแผนงานดังกล่าว ก็จะช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนได้ในภาวะที่ส่วนกลางมีปัญหา โดยเบื้องต้นสามารถทำการขนส่งภายในประเทศได้ง่ายและยังสามารถส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศได้อีกด้วยโดยเฉพาะในประเทศพม่า สปป.ลาว และมณฑลหยุนหนัน จีนตอนใต้

ทั้งนี้ ในการประชุม คสศ.หอการค้า 10 จังหวัดที่ จ.แม่ฮ่องสอน ที่ผ่านมาก็ได้สรุปรายละเอียดเพื่อเตรียมเสนอรัฐบาลไปแล้ว ทั้งการผลักดันเส้นทางรถไฟเชื่อมจาก อ.เด่นชัย จ.แพร่ ไปยัง จ.เชียงราย หรือเส้นทางรถไฟล้านนาตะวันออก การขยายถนน “คุนมั่งกงลู่” ในส่วนของอาร์สามเอ ที่สร้างเสร็จแล้วจากมณฑลหยุนหนัน แขวงหลวงน้ำทา แขวงบ่อแก้ว (สปป.ลาว) อ.เชียงของ จ.เชียงราย ให้ไปถึง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นสี่แยกอินโดจีนซึ่งจะเป็นจุดรับส่งและกระจายสินค้าของภูมิภาคได้ดี เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น