สกลนคร - เกษตรกรเมืองสกลฯ หันมาปลูกมะเขือขายรายได้ดี แม่ค้าคนกลางมารับซื้อถึงสวนนำไปขายต่อ กิโลกรัมละ 20-25 บาท เผยปลูกมะเขือต้นทุนต่ำ แต่อายุเก็บผลผลิตยาวนานถึง 6 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เก็บเกี่ยวผลผลิตนาข้าวขึ้นยุ้งฉางเสร็จแล้ว เกษตรกรบ้านพังขว้าง ตำบลพังขว้าง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ก็หันมาจับจอบเสียม พลิกฟื้นผืนดินขึ้นมาใหม่ เพื่อปลูกพืชผักส่งขายตลาด โดยในทุกปีเกษตรกรที่นี่จะปลูกผักกาดขาว พริกหยวก คะน้า และถั่วฝักยาว
ในช่วงที่กำลังรอให้พืชผักดังกล่าวโต ได้ทำการปลูกมะเขือเปราะจำหน่าย สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เนื่องจากในขณะนี้ถือว่าราคามะเขือเปราะกำลังมีราคาสูง และไม่ค่อยมีคนนิยมปลูก
นายอนุชา อนันติ อายุ 38 ปี บ้านพังขว้างใต้ ตำบลพังขว้าง กล่าวว่า ตนปลูกมะเขือเปราะมานาน 2 เดือน ในเนื้อที่ 2 งาน จนขณะนี้สามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว โดยจะเก็บ 3 วัน 1 ครั้ง เก็บได้ครั้งละ 50-60 กิโลกรัม ราคาที่ขายหน้าสวน กิโลละ 12-15 บาท แต่เมื่อพ่อค้าคนกลางนำไปขาย จะขยับราคาขึ้นเป็น 20-25 บาท ซึ่งนับเป็นราคาที่สูงมาก เพราะก่อนนี้ราคาจะอยู่ที่ 15-18 บาท ส่วนผักกาดขาวเป็นที่ต้องการของตลาด ขณะนี้จะจำหน่ายกิโลกรัมละ 17-18 บาท ก็ถือว่าราคาแพงเช่นกัน
นายอนุชา ยังกล่าวด้วยว่า ตนประกอบอาชีพเกษตรกรมานานกว่า 10 ปีแล้ว หลังจากเกี่ยวข้าวแล้วก็จะเพาะปลูกพืชผักขาย มีรายได้ปีละ 3-4 หมื่นบาท โดยในจำนวนพืชผักที่ปลูก หากเปรียบเทียบแล้วถือว่ามะเขือเปราะปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก ลงทุนน้อยกว่าผักอื่นๆ แต่อายุในการเก็บผลผลิตยาวนานถึง 6 เดือน โดยมะเขือรุ่นนี้สามารถเก็บขายได้จนถึงเดือนเมษายนปีหน้า
ในช่วงนั้นพืชผักชนิดอื่นก็สามารถขายได้แล้ว โดยในแต่ละปีจะปลูกผักกาดขาวและพริกหยวกถึง 2 รุ่น ก่อนที่จะเข้าสู่หน้าฝนและฤดูกาลทำนาจึงจะหยุดพัก และในช่วงนั้นราคาพืชผักจะสูงมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เก็บเกี่ยวผลผลิตนาข้าวขึ้นยุ้งฉางเสร็จแล้ว เกษตรกรบ้านพังขว้าง ตำบลพังขว้าง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ก็หันมาจับจอบเสียม พลิกฟื้นผืนดินขึ้นมาใหม่ เพื่อปลูกพืชผักส่งขายตลาด โดยในทุกปีเกษตรกรที่นี่จะปลูกผักกาดขาว พริกหยวก คะน้า และถั่วฝักยาว
ในช่วงที่กำลังรอให้พืชผักดังกล่าวโต ได้ทำการปลูกมะเขือเปราะจำหน่าย สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เนื่องจากในขณะนี้ถือว่าราคามะเขือเปราะกำลังมีราคาสูง และไม่ค่อยมีคนนิยมปลูก
นายอนุชา อนันติ อายุ 38 ปี บ้านพังขว้างใต้ ตำบลพังขว้าง กล่าวว่า ตนปลูกมะเขือเปราะมานาน 2 เดือน ในเนื้อที่ 2 งาน จนขณะนี้สามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว โดยจะเก็บ 3 วัน 1 ครั้ง เก็บได้ครั้งละ 50-60 กิโลกรัม ราคาที่ขายหน้าสวน กิโลละ 12-15 บาท แต่เมื่อพ่อค้าคนกลางนำไปขาย จะขยับราคาขึ้นเป็น 20-25 บาท ซึ่งนับเป็นราคาที่สูงมาก เพราะก่อนนี้ราคาจะอยู่ที่ 15-18 บาท ส่วนผักกาดขาวเป็นที่ต้องการของตลาด ขณะนี้จะจำหน่ายกิโลกรัมละ 17-18 บาท ก็ถือว่าราคาแพงเช่นกัน
นายอนุชา ยังกล่าวด้วยว่า ตนประกอบอาชีพเกษตรกรมานานกว่า 10 ปีแล้ว หลังจากเกี่ยวข้าวแล้วก็จะเพาะปลูกพืชผักขาย มีรายได้ปีละ 3-4 หมื่นบาท โดยในจำนวนพืชผักที่ปลูก หากเปรียบเทียบแล้วถือว่ามะเขือเปราะปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก ลงทุนน้อยกว่าผักอื่นๆ แต่อายุในการเก็บผลผลิตยาวนานถึง 6 เดือน โดยมะเขือรุ่นนี้สามารถเก็บขายได้จนถึงเดือนเมษายนปีหน้า
ในช่วงนั้นพืชผักชนิดอื่นก็สามารถขายได้แล้ว โดยในแต่ละปีจะปลูกผักกาดขาวและพริกหยวกถึง 2 รุ่น ก่อนที่จะเข้าสู่หน้าฝนและฤดูกาลทำนาจึงจะหยุดพัก และในช่วงนั้นราคาพืชผักจะสูงมาก
