พันธมิตรฯ ชลบุรียกทัพสมทบ! “สงครามครั้งสุดท้าย”

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ประชาชนและพี่น้องพันธมิตรฯ ในเขตจังหวัดชลบุรี ยกทัพเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ประกาศสงครามครั้งสุดท้ายที่กรุงเทพฯ ร่วมกับพี่น้องร่วมอุดมการณ์รักชาติจากทั่วประเทศ เชื่อเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายจริงๆ

นางรัตนา อ่องสมบัติ เลขาธิการกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพัทยา-นาเกลือ เผยว่า สมาชิกกลุ่มได้ออกเดินทางเข้าร่วมสมทบกับพี่น้องผู้ชุมนุมที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ และล่าสุดเช้ามืดวันนี้ (25 พ.ย.) ได้มีการเดินทางสมทบอีก 3 คันรถบัส ที่บริเวณหน้าหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานนาเกลือ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

ทั้งนี้ ทางกลุ่มจะเดินทางไปสมทบที่บริเวณท่าอากาศยานดอนเมืองตามยุทธศาสตร์ดาวกระจาย เพราะเชื่อว่าสงครามครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย และจะได้เตรียมตัวในการเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อต้อนรับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่มีกำหนดการเดินทางกลับจากต่างประเทศในวันพรุ่งนี้อีกด้วย และเชื่อว่าจะเป็นสงครามครั้งสุดท้ายที่ประชาชนจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม กลุ่มพันธมิตรฯ ในพื้นที่เมืองพัทยาและ ต.นาเกลือ ต่างเดินทางเข้าร่วมสมทบใหญ่ด้วยรถยนต์ส่วนตัวกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการบริเวณตลาดใหม่และตลาดเก่านาเกลือ ส่งผลให้วันนี้ที่บริเวณดังกล่าวดูเงียบเหงาเป็นอย่างมาก เพราะกลุ่มแม่ค้ารักชาติได้เข้าสมทบในกรุงเทพฯ เกือบหมด

ด้าน นางศิริรัตน์ โพธิ์ทอง พันธมิตรพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เผยว่า “การต่อสู้ในสงครามครั้งสุดท้าย พวกเรากลุ่มพันธมิตรฯ พนัสนิคมไม่มีถอยแน่นอน รถตู้ที่ออกจากพนัสนิคม เต็มออกไม่อั้น สามารถไปขึ้นได้ที่โลตัส พนัสนิคม วันนี้ตั้งแต่เช้ารถออกไปแล้วประมาณ 7-8 คัน เตรียมเข้าไปรวมตัวกันที่กองทัพไทย ซึ่งกลุ่มพนัสนิคมที่เข้าไปครั้งนี้ก็ลงความเห็นกันแล้วว่าจะค้างคืนและต่อสู้ให้ถึงที่สุดไม่มีถอยแน่นอน และในวันพรุ่งนี้พวกเราจะไปต้อนรับ นายสมชาย ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย ซึ่งทางด้านกลุ่มพนัสนิคมยืนยันตอนนี้เราจะร่วมทำสงครามครั้งสุดท้ายร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ทั่วประเทศให้ถึงที่สุดแบบม้วนเดียวจบ เชื่อมั่นว่าประชาชนทั่วประเทศที่ได้รับข่าวสาร คงจะทราบดีว่าใครดีใครเลว ใครทำเพื่อบ้านเมืองเพื่อสถาบันฯอันเป็นที่รักของชาวไทยมากกว่ากัน”

พวกเราเข้าใจว่าประชาชนชาวไทยต่างรักในประเทศชาติและสถาบันฯ ด้วยกันทั้งนั้น และเราก็ต้องยอมรับว่าพวกเราเป็นคนไทยด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่ลองคิดดูว่ากลุ่มเราทำเพื่อใครและกลุ่มตรงข้ามทำเพื่อใคร ใครมีความสำคัญมากกว่ากัน ใครกันที่มีเจตนาลบหลู่ดูหมิ่นเบื้องสูง อันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย ทุกคนโปรดดูที่เจตนาของพวกเราให้ดี เราไม่ได้ออกมาสู้เพื่อคนใดคนหนึ่ง แต่เราสู้เพื่อสถาบันฯ เพื่อประเทศชาติ เพื่ออนาคตของลูกหลานเรา ตอนนี้เราใกล้ที่จะถึงจุดหมายปลายทางแล้ว จงยืนอยู่ในสิ่งที่ถูกต้อง ร่วมกันออกมา ออกมากันเยอะๆ เพื่อชัยชนะของประชาชนอย่างแท้จริง

ด้าน นายปัญญา เกิดชัย กลุ่มพันธมิตรฯ ศรีราชา-อ่าวอุดม จังหวัดชลบุรี เผยว่า กลุ่มพันธมิตรฯ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชลบุรี ยังเดินทางเข้าไปสนับสนุนการชุมนุมใหญ่ที่ทำเนียบและสนามบินดอนเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยวันแรกที่มีการเป่านกหวีดนั้น ทางกลุ่มพันธมิตรฯศรีราชา เดินทางเข้าไปกว่า 800 คน โดยไปปักหลักร่วมชุมนุมที่เวทีใหญ่

ส่วนในวันต่อมา ก็มีการเดินทางไปเข้าร่วมชุมนุมกันอีก โดยหากมาเป็นกลุ่ม 14-15 คน ก็จะจัดรถตู้ให้ทันที 1 คัน ,หากมามากกว่า 30-40 คน ก็จะเช่ารถบัสนำผู้ชุมนุมไปยังทำเนียบ แต่หากมาเพียง 2-3 คน ทางแกนนำพันธมิตรฯ ก็จะประสานไปยังพื้นที่อื่นเช่น เมืองพัทยา-นาเกลือ หรือ อำเภอเมืองชลบุรี โดยจะให้กลุ่มดังกล่าวไปรับ เพื่อให้เดินทางไปพร้อมๆ กัน โดยจะมาพันธมิตรฯเดินทางไปร่วมทุกวัน

นายปัญญา กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาก็มีพันธมิตรฯ เดินทางกลับมาทำธุระส่วนตัว โดยในส่วนนี้มีน้อยมา ซึ่งส่วนใหญ่จะนอนค้างคืนที่ทำเนียบ และเมื่อธุระเสร็จก็จะเดินทางเข้าไปสมทบอีก เพราะถือว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ดังนั้นจึงต้องเข้าไปร่วมชุมนุมให้เป็นจำนวนมาก พวกเรายังหลั่งไหล เดินทางไปร่วมสมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯ ทั่วประเทศ เวทีใหญ่ โดยสลับหมุนเวียนเข้าออกทุกวันจนกว่าชนะ