พิจิตร – ธนาคารเพื่อการเกษตรฯ ทยอยจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวให้เกษตรกรบางส่วนแล้ว หลังรัฐบาลโอนเงินก้อนแรกให้แล้ว ส่งผลให้เม็ดเงินสะพัดทันที ขณะที่ชาวนาอีกกลุ่มหนึ่งที่ปลูกข้าวหอมฯ ยังต้องรอใบประทวน หลังรัฐเมินตีราคาเป็น “หอมมะลิ” พร้อมโยนภาระให้โรงสีรับผิดชอบเอง
วันนี้ (24 พ.ย.) ชาวนาพิจิตรบางส่วนที่นำข้าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลแล้ว สามารถนำใบประทวนไปขึ้นเงินกับ ธ.ก.ส.ได้แล้ว หลังจากรัฐบาลโอนเงินผ่าน ธกส.แล้ว โดยนายธรรมนูญ เทศขำ ผอ.ธ.ก.ส.พิจิตรเปิดเผยว่า โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.2551 ถึงวันนี้มีชาวนา 427 ราย ที่นำข้าวปริมาณ 4,837 ตัน เข้าโครงการรับจำนำตามโรงสีและกลุ่มเกษตรกรที่รวบรวมข้าวเข้าโครงการรับจำนำใน 23 แห่ง ขณะนี้รัฐบาลได้โอนเม็ดเงินก้อนแรกให้กับ ธกส.พิจิตรแล้ว
ทำให้วันนี้ที่ ธ.ก.ส.คึกคักเต็มไปด้วยชาวนาที่แห่กันมาถอนเงิน เพื่อนำไปจับจ่ายใช้สอย และเตรียมตัวเพื่อทำนาปรังครั้งใหม่
นอกจากนี้ ทันทีที่เงินถึงมือชาวนาเม็ดเงินก็สะพัดในท้องตลาดมีการจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคัก ชาวนาส่วนหนึ่งก็นำเงินไปใช้หนี้ค่าปัจจัยการผลิต อีกส่วนหนึ่งเงินพอเหลือก็นำเงินไปซื้ออุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้แก่ตัวเอง อีกทั้งตามตลาดนัดและห้างสรรพสินค้าในพิจิตร ก็มีชาวนาในชนบทแห่เข้าเมืองจับจ่ายใช้เงิน และคาดว่าชาวนาอีกเกือบ 2,000 คน กำลังเข้าคิวรอรับใบประทวนรอเบิกเงินจาก ธ.ก.ส.อีกหลายพันล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจจังหวัดพิจิตรดีขึ้นทันตาเห็น
อย่างไรก็ตาม นายธรรมนูญ ก็ออกมาเตือนว่า ขอให้ชาวนาเก็บออมเอาไว้ยามฉุกเฉินบ้างอย่าฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็นเพราะยังไม่รู้ว่า อนาคตราคาข้าวในฤดูกาลต่อไปอาจตกต่ำลงอีกก็ได้
ส่วนประเด็นปัญหากลุ่มชาวนาที่นำข้าวหอมจังหวัดไปจำนำกับโรงสีช่วงระหว่างวันที่ 14-19 พฤศจิกายน 2551 ที่โรงสีรับจำนำข้าวไว้แล้วตีราคาเป็นข้าวหอมมะลิไปก่อนรัฐบาลอนุมัตินั้นอีกเกือบ 1,000 ราย ยังไม่ได้รับใบประทวนและยังเบิกเงินไม่ได้จนกว่าโรงสีกับรัฐบาลจะคุยกันให้ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งถ้ากลุ่มนี่ได้ข้อยุติก็จะได้รับใบประทวนก็จะทำให้เม็ดเงินสะพัดใน จ.พิจิตร อีกนับ 100 ล้านเช่นกัน